เริ่มแล้ว! เทศกาลล่าปลาบึก เขื่อนแก่งกระจาน ล่าสุดจับได้ตัวใหญ่สุดน้ำหนัก 182 กิโลกรัม อนุญาตให้จับได้ไม่เกิน 50 ตัว ภายใน 2 เดือน
เทศกาลล่าปลาบึกในเขื่อนแก่งกระจาน อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ได้เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2564 โดยหน่วยป้องกันและปราบปรามประมงน้ำจืดเขื่อนแก่งกระจาน อนุญาตให้ล่าปลาบึกได้ไม่เกิน 50 ตัว ภายใน 2 เดือน โดยกำหนดระยะเวลาจนถึงวันที่ 15 มกราคม 2565 แต่ถ้าจับปลาบึกได้ครบ 50 ตัวก่อนวันกำหนดถือว่าสิ้นสุดฤดูการล่า
จนถึงวันนี้พรานปลาบึกเขื่อนแก่งกระจานได้จับปลาบึกได้ทั้งหมด 25 ตัว ตัวใหญ่สุดน้ำหนัก 182 กิโลกรัม เล็กสุดน้ำหนัก 50 กิโลกรัม คาดว่าพรานปลาบึกจะจับปลาบึกได้ครบ 50 ตัว ก่อนกำหนด โดยปลาบึกที่จับได้ถ้าเป็นปลาตายจะมีแม่ค้ามารับซื้อเพื่อส่งร้านอาหารในราคากิโลกรัมละ 100 บาท ถ้าเป็นเป็นปลาเป็นจะมีเจ้าของบ่อตกปลา (ฟิชชิ่งปาร์ค) มาซื้อในราคากิโลกรัมละ 150 บาทเพื่อนำไปปล่อยในบ่อตกปลาให้นักตกปลามาตก สำหรับมาตรการป้องกันไม่ให้ปลาบึกหมดไปจากเขื่อนแก่งกระจานหน่วยป้องกันและปราบปรามประมงน้ำจืดเขื่อนแก่งกระจาน ได้กำหนดให้ผู้จับปลาบึก 1 ตัว ต้องปล่อยลูกปลาบึกลงในเขื่อนแก่งกระจาน 500 ตัว และห้ามล่าปลาบึกนอกเทศกาลล่าปลาบึกเด็ดขาด
สำหรับปลาบึกในเขื่อนแก่งกระจานถูกนำมาปล่อยเมื่อปี พ.ศ.2528 สมัยนายเชาน์ วัศสุดลาภา เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ปล่อยไว้จำนวนมากกระทั่งต่อมาอีกหลายปีมีชาวประมงในพื้นที่จับปลาในลักษณะเดียวกันได้ และคิดว่าเป็นปลาสวายเนื่องจากมีลักษณะคล้ายกันมีน้ำหนักตัวประมาณ 5-6 กิโลกรัม จนหน่วยงานของกรมประมงทราบข่าวจึงได้ติดตามดูปลาที่ชาวบ้านจับมาขาย จนพบว่าเป็นปลาบึกไม่ใช่ปลาสวาย จึงได้มีการประชาสัมพันธ์และให้งดจับปลาบึกในช่วงนั้นเนื่องจากยังมีขนาดเล็ก
กระทั่งปีพ.ศ.2546 จึงมีการจับปลาบึกที่มีขนาดใหญ่ได้อีกครั้ง และมีกลุ่มพรานปลาบึกออกล่าจับปลาบึกในช่วงปลายฝนต้นหนาวของทุกปี บางรายจับได้นำไปขายได้เงินเป็นหลักล้าน กระทั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและชาวประมงน้ำจืดในพื้นที่ได้มานั่งคุยกันว่าควรสร้างกติกาขึ้นมาเพื่อควบคุมให้มีการล่าปลาบึกให้มีความเหมาะสม เพราะหากจับมากราคาก็จะถูกลงและส่งผลกระทบต่อปริมาณปลาอีกด้วย จึงเป็นที่มาของเทศกาลจับปลาบึก
