เผยภาพลับลูกทรพียิงพ่อหนีชิล ๆ นอนรร. ทำหน้ามึนใส่สื่อ ลั่นยิง 8 นัดกันพ่อคว้ามีด (คลิป)

17 พ.ย. 64

กรณีพนักงานสอบสวน สภ.หาดใหญ่ รับแจ้งเหตุคนถูกยิงเสียชีวิต ที่บ้าน.oซอยคงทรัพย์ 2 ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบศพนายพิศ กุลดำรงวิวัฒน์ อายุ 88 ปี สภาพถูกยิงบริเวณหน้าอก จำนวน 8 นัด นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่ตรงประตูรั้วหน้าบ้าน จากการตรวจสอบพบปลอกกระสุน ขนาด 11 มม. จำนวน 6 ปลอก ตกอยู่ในรั้วบ้าน 4 ปลอก และนอกรั้วบ้าน อีก 2 ปลอก บริเวณชั้นสองของบ้าน

660650

ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายเสรีย์ กุลดำรงวิวัฒน์ อายุ 60 ปี ลูกชายของผู้เสียชีวิต หลังก่อเหตุได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป จนเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสามารถจับกุมตัวได้เมื่อกลางดึกที่ผ่านมาแล้วนั้น

718607801031

วงจรปิดจากรีสอร์ตแห่งหนึ่งใน อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช วันที่ 16 พ.ย. 64 เวลา 17.42 น. ขณะที่นายเสรี ผู้ก่อเหตุ ขี่มอเตอร์ไซค์เข้าไปในรีสอร์ต โดยได้ข้อมูลว่าผู้ต้องหาขี่มอเตอร์ไซค์เข้ามาถามว่ามีห้องว่างไหม และบอกว่ามาจาก จ.สงขลา แล้วก็ขี่มอเตอร์ไซค์เข้าไปที่ห้อง จ่ายเงิน 600 บาท เพื่อแอบหลบอาศัย จนกระทั่งตำรวจมาจับกุมตัว

179164

ล่าสุด วันที่ 17 พ.ย. 64 เวลา 11.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 พล.ต.ต.นันทเดช ย้อยนวล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ร่วมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายเสรีย์ กุลดำรงวิวัฒน์ ผู้ต้องหา พร้อมของกลางอาวุธปืนขนาด 11 มม. กระสุนปืน 52 นัด เสื้อสีเหลือง เสื้อแจ็กเก็ตสีดำ และกางเกงขาสั้น รวมถึงรถจักรยานยนต์ฮอนด้าที่ใช้ในการก่อเหตุ

889232

พล.ต.ต.นันทเดช ระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หาดใหญ่ รับแจ้งเหตุนายพิศ ถูกลูกชายยิงเสียชีวิตในบ้านของตัวเอง หลังเกิดเหตุได้สอบถามทางเพื่อนบ้านทราบว่า พ่อลูกทะเลาะกันมานานแล้ว วันเกิดเหตุก็มีปากเสียงกัน มีหลักฐานชัดเจนเป็นกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าบ้าน หลังก่อเหตุผู้ต้องหาขับรถจักรยานยนต์หนีไป ซึ่งชุดสืบสวนสามารถติดตามจับกุมได้ในที่สุด

942945

ด้าน พ.ต.อ.ธนวัต เส้งสุย ผู้กำกับการกองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดสงขลา กล่าวว่า จากการซักถามนายเสรีย์ ผู้ก่อเหตุ อ้างว่าไม่พอใจที่พ่อล็อกประตูบ้าน แล้วออกมาเปิดบ้านช้า ทำให้เกิดความไม่พอใจ ประกอบกับที่ผ่านมาผู้ก่อเหตุกับพ่อมีปัญหากันมาตลอด เคยทะเลาะและลงไม้ลงมือกันมาแล้ว แต่ไม่ได้รุนแรงมาก วันเกิดเหตุอ้างว่าไม่ได้ดื่มเหล้า

714176

โดยหลังก่อเหตุผู้ต้องหาขับรถจักรยานยนต์ไปนอนที่รีสอร์ตใกล้บ้าน ก่อนหนีไป อ.สิชล ซึ่งอยู่ใกล้กับบ้านของภรรยาที่อยู่ใน อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ส่วนอาวุธปืน อ้างว่าซื้อมานานแล้ว และมักพกไปไหนมาไหนเป็นบ้างครั้ง โดยจากการซักถามก็ค่อนข้างสะเทือนใจ เนื่องจากผู้ต้องหาไม่มีท่าทีสำนึกผิด ซ้ำยังเรียกพ่อตัวเองว่า "เขา" ไม่เรียกว่า "พ่อ" แม้แต่คำเดียว ทั้งนี้ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพพูดคุยรู้เรื่อง ไม่ได้มีอาการทางจิต แต่อาจจะมีโลกส่วนตัวสูง ค่อนข้างเก็บกดจึงก่อเหตุดังกล่าวขึ้น

518688

จากนั้น ทีมข่าวเดินทางไปรีสอร์ตที่นายเสรีย์ ผู้ต้องหาไปพักหลังก่อเหตุเสร็จ อยู่ห่างจากบ้านที่เกิดเหตุประมาณ 2 กิโลเมตร สอบถามพนักงานรีสอร์ต เล่าว่า วันเกิดเหตุเวลาประมาณ 19.30 น. นายเสรีย์ ผู้ต้องหา ขับรถจักรยานยนต์เข้ามาเปิดห้องพักที่รีสอร์ต โดยมีพนักงานผู้หญิงอีกคนเป็นคนดูแลพูดคุย มีการขอบัตรประจำตัวประชาชนเพื่อเปิดห้อง แต่นายเสรีย์อ้างว่าไม่ได้พกบัตรเพราะรีบมา

317353

จากนั้นได้เปิดห้อง 1 คืน ราคา 500 บาท และมีค่ามัดจำคีย์การ์ด 100 บาท เมื่อจ่ายเงินเสร็จ นายเสรีย์ก็ขับรถไปที่ห้องพักตามปกติ กระทั่งช่วงเช้าเวลาประมาณ 10.00 น. นายเสรีย์มาคืนคีการ์ด และรับเงินมัดจำคืน ด้วยท่าทีปกติ จนมาทราบข่าวในช่วงสายวันเดียวกัน พนักงานต้อนรับที่ได้เจอนายเสรีย์ ก็จำได้ทันทีว่าเจ้าตัวคือผู้ก่อเหตุ และค่อนข้างตกใจเพราะทราบว่านายเสรีย์พกปืนติดตัวมาด้วย กลัวว่าจะมาก่อเหตุซ้ำอีก

980941601652

ทั้งนี้ กล้องวงจรปิดที่รีสอร์ตจับภาพนายเสรีย์ขับรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเข้ามาติดต่อพนักงาน ในเวลา 19.33 น. วันที่ 15 พ.ย. โดยเจ้าตัวใส่เสื้อสีเหลืองด้านใน มีแจ็กเก็ตทับ กางเกงขาสั้น จากนั้น วันที่ 16 พ.ย. เวลา 10.09 น. นายเสรีย์ ใส่เสื้อสีเหลือง กางเกงขาสั้น นำคีย์การ์ดมาคืนพนักงาน ก่อนขับรถจักรยานยนต์ออกไป

716786

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ซักถามนายเสรีย์ กุลดำรงวิวัฒน์ ผู้ต้องหา รับสารภาพว่าก่อเหตุยิงพ่อ อ้างว่าทำไปเพราะโมโหเรื่องประตู เนื่องจากตนกลับมาจากทำงาน แล้วพบว่าพ่อล็อกประตูขังภรรยากับลูกเลี้ยงตนไว้ในบ้าน ส่วนตัวพ่อไม่รู้ไปไหน ตนจึงงัดประตูเพื่อจะเปิดเข้าบ้าน เมื่อพ่อกลับมาก็โกรธที่ตนงัดประตู จึงมีปากเสียงกัน

830036

โดยพ่อเดินเข้าบ้านไปหยิบมีดพร้ามาจะฟันตน ตนบอกว่า "อย่า อย่าทำ ให้กลับไปนอน" แต่พ่อไม่ฟัง ยังจะกระโจนเข้ามา ตนจึงชักปืนยิง โดยไม่รู้ว่ายิงไปกี่นัด ส่วนปืนเป็นของตัวเองที่ซื้อมานานแล้ว ส่วนใหญ่จะเก็บเอาไว้ที่บ้าน ไม่ค่อยพกติดตัว หลังเกิดเหตุไม่ได้หนี แต่ออกมาตั้งหลัก โดยไปนอนรีสอร์ต และขับรถไปแวะหาภรรยาที่ จ.นครศรีธรรมราช จากนั้นก็จะขับรถไปเรื่อย ๆ โดยไม่มีจุดหมายปลายทาง

527377

นายโชค (นามสมมติ) เพื่อนของนายเสรีย์ ผู้ต้องหา เล่าว่า หลังเกิดเหตุเวลาประมาณ 18.30 น. ตนทราบข่าวที่นายเสรีย์ ก่อเหตุยิงพ่อตัวเองจึงตัดสินใจโทรศัพท์หาเพื่อน โดยถามแต่เรื่องทั่วไปว่าสบายดีไหม เจ้าตัวก็บอกว่าสบายดี และถามว่าตนอยู่ไหน จึงบอกว่าอยู่ จ.พัทลุง ยังไม่ได้กลับบ้าน ก่อนจะวางสายกันไป

จากนั้น ตนโทรศัพท์ไปหานายเสรีย์อีกรอบ บอกให้เพื่อนเข้ามอบตัว และสารภาพทุกอย่าง โทษหนักจะได้กลายเป็นเบา นายเสรีย์ ไม่ได้พูดอะไร แต่รู้สึกว่ามีอาการลุกลี้ลุกลน หลังจากนั้น เพื่อนก็เงียบหายไป จนมาทราบข่าวว่าตำรวจตามจับกุมตัวได้แล้ว ที่ผ่านมานายเสรีย์มีปัญหากับพ่อมานานแล้ว ประกอบกับอาจจะเครียดที่ต้องทำงานดูแลพ่อ ซึ่งช่วงโควิด-19 ก็ไม่ค่อยมีงานด้วย และมีความน้อยใจคิดว่าพ่อไม่รัก แต่ตนก็ไม่ทราบรายละเอียด

ส่วนเรื่องปืน นายเสรีย์ซื้อมานานแล้ว และมักจะพกไปไหนมาไหนตลอด ตนยังเคยเตือนเรื่องการพกปืน ให้พกเท่าที่จำเป็นเท่านั้น แต่คิดว่าเจ้าตัวน่าจะชื่นชอบจึงพกไว้ตลอด โดยตนกับนายเสรีย์เป็นเพื่อนร่วมรุ่นทหารเกณฑ์ และเคยปราบคอมมิวนิสด้วยกันมาเมื่อ 30-40 ปีที่แล้ว นายเสรีย์ก็น่าจะมีความชำนาญเรื่องการใช้ปืน เพราะเคยผ่านการเป็นทหารมาก่อน ทั้งนี้ เท่าที่รู้จักในฐานะเพื่อน นายเสรีย์เป็นคนดี มีน้ำใจกับเพื่อน ๆ ตนมองว่าเจ้าตัวน่าจะทำไปเพราะบันดาลโทสะ ไม่น่าจะวางแผนมาก่อน

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส