จากกรณีนางสาวเก๋ (นามสมมติ) อายุ 46 ปี ชาว อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี หลังได้รับการติดต่อขอความช่วยเหลือ เนื่องจากถูกนางเอ๋ (นามสมมติ) หญิงที่อ้างตัวว่าเป็นร่างทรงท้าวเวสสุวรรณ เจ้าแม่กวนอิม ญาณทิพย์ของหลวงปู่โต และหลวงปู่แหวน หลอกขอยืมเงินไปกว่า 1 ล้านบาท ปัจจุบันต้องแบกรับภาระหนี้สินรวมกว่า 2 ล้านบาท
วันที่ 15 พ.ย. 64นางสาวเก๋ (นามสมมติ) อายุ 46 ปี เปิดเผยว่า ตนได้รู้จักกับนางเอ๋ เมื่อประมาณปี 2542 โดยครั้งแรกที่รู้จักกัน นางเอ๋ ได้แสดงตัวว่าเป็นร่างทรง และทักว่าตนถูกคนทำคุณไสย ทำให้ชีวิตวุ่นวาย ทุกวันโกนจะมีเรื่องต้องเจ็บปวดร่างกาย ซึ่งก็ตรงกับชีวิตของตนในช่วงนั้นพอดี จึงทำให้ตนเชื่อใจยอมทำพิธีแก้เคล็ด ต่อมาก็ได้เดินทางไปตำหนักของนางเอ๋ ที่ย่านพระราม 2 เพื่อรับขันธ์ 5 จากนั้นในทุกปี ตนจะเดินทางไปไหว้ครูปีละครั้ง เพื่อเสริมบารมี
กระทั่งปี 2558 ตนก็ได้มีโอกาสเข้ามาใกล้ชิดกับนางเอ๋มากขึ้น ไปมาหาสู่กันทุกสัปดาห์ ต่อมาตนได้นำที่ดินจำนวน 17 ไร่ ไปจำนองได้เงินมาจำนวน 900,000 บาท เพื่อหวังมาลงทุนในกิจการ และนำไปซื้อที่ดินจากญาติจำนวน 6 ไร่ หลังจากที่นางเอ๋รู้ก็เริ่มมาขอยืมเงิน อ้างว่าญาณทิพย์ท้าวเวสสุวรรณ และเทพองค์อื่น ๆ ให้ตนต้องช่วยเหลือ
เนื่องจากนางเอ๋ที่เป็นร่างทรงต้องปฏิบัติธรรม ทำให้ไม่มีอาชีพไม่มีรายได้ หากช่วยเหลือนางเอ๋แล้ว ตนจะมีโชคลาภต่าง ๆ เข้ามา ในครั้งแรกตนจึงให้ยืมไป 300,000 บาท จากนั้นไม่นาน นางเอ๋ก็มาขอยืมเงินเพิ่มอีกเรื่อย ๆ รวมเป็นเงินกว่า 1 ล้านบาท
จนเวลาผ่านไป ตนแบกรับภาระดอกเบี้ยจากเงินกู้เป็นจำนวนมาก จนถึงขั้นจะถูกยึดที่ดิน 6 ไร่ จึงได้ไปทวงถามขอเงินคืน กลับถูกปฏิเสธและบ่ายเบี่ยง อีกทั้งยังอ้างเทพไม่ให้ตนไปรบกวน หากไม่เชื่อชีวิตจะตกต่ำ แต่ตนทนไม่ไหว จึงขอทวงเงิน 6 แสนบาท เพื่อไปไถ่ถอนที่ดิน ซึ่งนางเอ๋ก็ระดมทุนหาเงินมาใช้หนี้ให้ ว่าหลังจากนั้นตนต้องหาเงินมาใช้คืนนางเอ๋ทั้งหมด พร้อมทั้งต้องยกที่ดินผืนนั้นให้นางเอ๋ เพื่อเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน ตนจึงต้องจำยอมยกที่ดินให้ชั่วคราว แล้วทำเรื่องขายฝากที่ดิน เพื่อนำเงินก้อนไปจ่ายคืนให้นางเอ๋
ทั้งนี้ การที่ตนตัดสินใจเปิดเผยเรื่องราวที่เกิดขึ้น เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้กับผู้อื่นว่าอย่าไปหลงเชื่อ หรือเชื่อใจใครง่าย ๆ รวมทั้งต้องการขอความช่วยเหลือจากนายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา และสื่อมวลชนให้ช่วยเปิดโปง ให้หยุดพฤติกรรมหลอกลวงเช่นนี้
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยังบ้านของร่างทรงดังกล่าว พื้นที่ย่านพระราม 3 แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร เป็นบ้านทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น มีฉัตรเงิน ฉัตรทอง 9 ชั้นอยู่บริเวณหน้าบ้าน
นางเอ๋ (นามสมมติ) ร่างทรง บอกว่า ตนไม่ขอชี้แจงอะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมให้คู่กรณีเตรียมทนายแล้วไปพบเจอกันในศาล โดยอ้างว่าวันนี้ผู้พิพากษาเดินทางมาพบตนที่บ้าน เพราะรู้จักกับตน และรู้ว่าจะมีการไหว้ครูทุก ๆ ปี ซึ่งตนมั่นใจว่าไม่ได้ไปหลอกใคร และที่บ้านก็อยู่กับคนในครอบครัว ไม่ได้เปิดเป็นสำนักอยู่กับลูกศิษย์แต่อย่างใด
ซึ่งปมสาเหตุ ตนมองว่านางเก๋ ออกมาแฉเพราะตนไม่สนใจอะไรในตัวเขา เวลาตนบอกให้ทำอะไร แนะนำอะไรก็ไม่ฟัง สร้างแต่ปัญหาให้ไม่จบไม่สิ้น และมองว่าไม่มีความจำเป็นที่ต้องมาชี้แจง
นางสาวนุช (นามสมมติ) เพื่อนบ้าน บอกว่า นางเอ๋เป็นร่างทรงเท้าเวสสุวรรณ เคยทำนายทายทักดูดวงชะตาให้กับตนและแม่ของตน ก็ค่อนข้างแม่น โดยดูให้ฟรีไม่คิดเงิน และก็ไม่เคยเรียกเงินกับทางครอบครัวตน ตนต้องขอบอกก่อนว่าตนไม่ใช่ลูกศิษย์ เป็นแค่เพื่อนบ้านเท่านั้น แต่เชื่อว่าเขามีจิตสัมผัส
เท่าที่สัมผัสพฤติกรรม นางเอ๋เป็นคนจิตใจดี ชอบเข้าวัดทำบุญเป็นประจำ แม่ของตนทำงานอยู่ที่วัดแห่งหนึ่ง ก็มักจะเจอนางเอ๋มาทำบุญเป็นประจำ ในวันนี้ที่บ้านของนางเอ๋เมื่อช่วงกลางวันที่ผ่านมามีการจัดงานไหว้ครู ตนก็เห็นว่ามีลูกศิษย์เดินทางมาค่อนข้างหลายคน แต่ไม่เยอะเท่าปีก่อนหน้านี้ เท่าที่สังเกตก็เป็นชาวบ้านปกติ ไม่ใช่ไฮโซหรือคนรวยมาก ไม่ทราบเหมือนกันว่าเขามีการทำบุญกับนางเอ๋อย่างไรบ้าง
ด้านนายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา บอกว่า จากกรณีดังกล่าวที่มีร่างทรงอ้างเป็นตัวแทนของเทพเจ้า หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์หลายร่าง ตนก็มองว่าเป็นเรื่องเดิม ๆ สำหรับการอุปโหลกตัวเองขึ้นมาเป็นร่างทรงของใครสักคน หากินกับความเชื่อและไสยศาสตร์ สร้างบารมีแต่แอบอ้างแต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งบุคคลที่อ้างว่ามีจิตสัมผัส ก็เป็นเพียงแค่กลวิธีในการหากินกับความเชื่อของบุคคล ตนมองว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องมีการจับคนเหล่านี้เข้าคุก ไม่เช่นนั้นจะก่อความวุ่นวายให้กับชาวบ้านที่หลงเชื่อ โดยเฉพาะชาวบ้านที่ไม่มีที่พึ่งอื่นทางใจ ซึ่งอยากฝากไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย
ทั้งนี้ ตนอยากลงพื้นที่ไปสื่อสารกับบุคคลที่อ้างตัวว่าเป็นร่างทรงท้าวเทพสุวรรณ ญาณพระแม่กวนอิม และอีกหลายพระองค์ว่าอยู่ในร่างของเขาจริงหรือไม่ "แล้วเจอกันนะจ๊ะ"
