รวบแก๊งอุ้มฆ่าน้องบาสโยนคลอง เปิดคลิปมัดทิ้งคลองทั้งเป็น แม่ร่ำไห้เชื่อฆ่าล้างหนี้ (คลิป)

15 พ.ย. 64

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่พบศพน้องบาส อายุ 3 ขวบ เสียชีวิตภายในน้ำ บริเวณใต้สะพานคลองชวดพร้าว ถนนรัตนโกสินทร์ 200 ปี หมู่ที่ 4 ต.บางบ่อ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ โดยที่มีร่องรอยพกช้ำตามลำตัว คล้ายถูกทำร้ายร่างกาย ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ข้อมูลและเบาะแสตัวคนร้าย และเข้าทำการจับกุม 3 ผู้ต้องหาที่ลงมือก่อเหตุดังกล่าว

784963755323

โดยผู้ต้องหาประกอบไปด้วย น.ส.อนิสรา จีนสมบูรณ์ อายุ 27 ปี, นายเรวัติ์ จีนสมบูรณ์ อายุ 48 ปี และน.ส.วราภรณ์ อิ่มสมบูรณ์ อายุ 28 ปี ได้ที่บ้านพักย่านบางขุนเทียน กทม. พร้อมของกลางเป็นรถจักรยานยนต์ Honda PCX สีขาว ทะเบียน 1 กบ 9663 ร้อยเอ็ด ที่ผู้ต้องหาใช้ในการนำตัวเด็กไปทิ้งที่คลองชวดพร้าว ในเขต อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ

696373835346

จากการสอบปากคำทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า เป็นคนลงมือฆ่าเด็ก แล้วนำมาทิ้งน้ำจริง ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำไปตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และนำตัวส่งศาลเพื่อฝากขังต่อไป ทั้งนี้ภายหลังที่ผลชันสูตรศพน้องวัย 3 ขวบออกมาพบว่ามีเชื้อโควิด-19 สอดคล้องกับผลตรวจของแม่เด็กที่ติดเชื้อเช่นกัน โดยต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจเลยนำตัวทั้ง 3 ผู้ต้องหาตรวจหาเชื้อโควิด-19 เพื่อความปลอดภัย ผลปรากฏว่าทั้ง 3 คนไม่ได้ติดเชื้อโควิด-19 ตามที่นำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้

859379

ล่าสุดวันที่ 15 พ.ย.64 เวลา 13.20 น. ที่ สภ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาออกจากห้องขัง เพื่อขึ้นรถตำรวจนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดสมุทรปราการ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการแจ้งข้อหา ร่วมกันฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เนื่องจากผลชันสูตรของทางน้องวัย 3 ขวบ พบว่าเสียชีวิตจากการจมน้ำ ไม่ได้เสียชีวิตจากการทำร้ายร่างกายก่อนหน้านี้ เท่ากับว่าขณะที่น้องบาสถูกโยนลงน้ำยังมีลมหายใจอยู่ จึงไม่เข้าข่ายฐานความผิดซ่อนเร้นอำพรางศพ

408290

ทั้งนี้ ขณะที่ 3 ผู้ต้องหาได้เดินขึ้นรถตำรวจนั้น ทางด้านน.ส.อนิสรา มีสีหน้าที่โศกเศร้าและร้องไห้ออกมา เช่นเดียวกับน.ส.วราภรณ์ แฟนสาวก็ได้ใช้ผ้าขาวคลุมหน้าปกปิดไว้ ขณะที่นายเรวัติ์ พ่อของน.ส.อนิสรา ก็มีสีหน้าที่ตึงเครียดหลังต้องนอนในคุก 1 คืน

titled_4

ทีมข่าวพยายามสอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยทางด้าน น.ส.วราภรณ์ และน.ส.อนิสรา ได้ยกมือไหว้พร้อมบอกว่าขอโทษทั้งน้ำตา เมื่อถามว่าอยากจะบอกอะไรกับครอบครัวผู้สูญเสียหรือไม่ ทั้งคู่กล่าวว่า "ขอโทษ หนูพร้อมชดใช้ทุกอย่าง ยอมรับผิดและสำนึกผิดกับสิ่งที่ทำไป"

959897

ขณะที่ นายเรวัติ์ ก็ได้แสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิต เมื่อถามว่าเหตุการณ์วันนั้นทราบหรือไม่ว่าน้องเสียชีวิตหรือไม่ก่อนนำไปทิ้งน้ำ ทางเจ้าตัวบอกว่า "ผมไม่ทราบ เห็นแค่น้องตัวเเข็งครับ"

766086

ขณะที่ทางญาติของน้องบาส ให้ข้อมูลว่า สำหรับพิธีทางศาสนานั้น ตอนนี้ทางครอบครัวยังไม่ได้เดินทางไปรับร่างของน้องบาสที่โรงพยาบาล ยังอยู่ในขั้นตอนของการเดินเอกสาร เบื้องต้นคาดว่าพรุ่งนี้ (16 พ.ย.64) ทางครอบครัวจะเดินทางไปรับร่างของน้องบาสมาประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดบางเสาธงนอก ย่านบางพลี โดยจะมีการฌาปนกิจศพทันที

794471

เนื่องจากน้องบาสติดเชื้อโควิด-19 จึงต้องทำพิธีให้แล้วเสร็จในวันเดียว ขณะที่แม่ของน้องบาสยังคงพักรักษาตัวจากการติดเชื้อโควิด-19 ไม่สามารถเดินทางมาร่วมส่งดวงวิญญาณของลูกชายได้

472626377911

ต่อมาทีมข่าวได้รับภาพกล้องวงจรปิดในช่วงเวลาที่เกิดเหตุ โดยเป็นภาพจากหน้าร้านสะดวกซื้อ เวลา 23.01 น. จะเห็นวินาทีรถของผู้ต้องหาขี่มาจากถนนเส้นใหญ่ ก่อนจะจอดพูดบริเวณต้นไม้กับรถมอเตอร์ไซค์อีกคันหนึ่ง ซึ่งไม่มั่นใจว่าเป็นคนในพื้นที่ หรือเพียงแค่สอบถามทาง ก่อนที่ช่วงเวลา 23.04 น. รถมอเตอร์ไซค์ของผู้ต้องหาได้ขับผ่านหน้าร้านไปยังจุดเกิดเหตุ โดยที่กล้องวงจรปิดจับภาพเอาไว้ได้

968718

ยายสมร (นามสมมติ) อายุ 63 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ เปิดเผยว่า ตนไม่ได้ยินเสียงแต่อย่างใด เนื่องจากหากสังเกตดี ๆสะพานดังกล่าวค่อนข้างมีรถสัญจรผ่านไปมาตลอดเวลา และจะเป็นรถใหญ่ ทำให้จะค่อนข้างเสียงดัง ตนเชื่อว่าช่วงที่ผู้ต้องหานำเด็กมาทิ้งนั้น น่าจะใช้จังหวะเสียงรถวิ่งผ่านโยนเด็กทิ้งลงคลอง แต่ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าจะใช่หรือไม่ 

359311

ทีมข่าวได้ย้อนกลับไปยังบ้านพักของนายเรวัติ์ พ่อของน.ส.นริสรา ซึ่งเป็นจุดที่วางแผนและปรึกษากันเรื่องการนำเด็กมาทิ้ง ทีมข่าวได้รับกล้องวงจรปิด จำนวน 3 มุม โดยมุมแรกจะเป็นภาพถนนใหญ่ที่รถของผู้ต้องหาขี่รถเข้ามาโดยในช่วงเวลา 20.38 น. จะเห็นว่าน.ส.วราภรณ์ เป็นคนขับขี่ และน.ส.นริสรา เป็นคนซ้อนท้าย โดยมีน้องบาสอยู่ตรงกลาง

712272

ส่วนกล้องมุมที่ 2 บริเวณหน้าหอพัก จะเห็นว่าช่วงเวลา 20.38 น. ทั้งคู่ขี่รถมาจอดบริเวณด้านนอกของหอพัก โดยมีนายเรวัติ์ ไปยืนรออยู้บริเวณด้านนอก ก่อนที่เขาจะเป็นคนอุ้มเด็กเปิดประตูรั้วเข้ามาภายในหอพัก ลักษณะของน้องบาสคล้ายคนนอนหลับ

446096

ขณะที่ กล้องวงจรปิดจุดที่ 3 เวลา 20.39 น. บริเวณหน้าห้องพักของนายเรวัติ์ จะเห็นว่าเขาอุ้มน้องบาส มาหน้าห้องก่อนจะเปิดประตู และนำน้องบาสเข้าไปในห้องพัก

หลังจากนั้นผ่านไปประมาณ 2 ชั่วโมงกว่า ๆ ภาพกล้องวงจรปิดมุมเดิมก็ได้จับภาพหน้าห้อง ในช่วง 22.03 น. ผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย พากันอุ้มน้องบาสออกจากห้อง ก่อนจะเดินลงไปที่รถ และขี่รถออกไปมุ่งหน้าไปยังถนนใหญ่

925211

ป้าพรพิมล (นามสมมติ) เจ้าของหอพักดังกล่าว เล่าให้ฟังว่า ช่วงเกิดเหตุตนไม่ได้เห็นเหตุการณ์ เพิ่งจะมาเห็นเหตุการณ์ในกล้องวงจรปิดหลังจากที่เป็นข่าว ตนยอมรับตกใจเพราะไม่คิดว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นกับคนใกล้ตัว หากถามตนว่าในวันนั้นพบเสียงลักษณะคล้ายเด็กร้องหรือไม่ ตนยืนยันว่าไม่ได้ยินเสียงอะไรทั้งสิ้น

ทีมข่าวถามว่าก่อนหน้านี้เคยเห็น น.ส.วราภรณ์ และน.ส.นริสรา เดินทางมาที่หอพักก่อนหน้านี้หรือไม่ ป้าพรพิมล บอกว่า ตั้งแต่นายเรวัติ์ มาพักอาศัยอยู่ที่นี้ประมาณ 1 ปีกว่า ๆ น.ส.วราภรณ์ ก็เดินทางมาหาช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งทุกครั้งที่มาก็จะมีเด็กชายวัย 3 ขวบ หรือ น้องบาส มาด้วยตลอด แต่ตนไม่ได้สอบถามว่าลูกใคร ไม่ได้มีเหตุการณ์รุนแรงต่อหน้าตน กระทั่งมาทราบข่าวก็ถือว่าช็อกมาก ๆ ไม่คิดว่าเขาจะใจคอโหดร้ายขนาดนี้

656882

"คนเป็นพ่อมีลักษณะอย่างไร ทางเจ้าของหอเองก็ยืนยันส่าเขาเองก็ดื่มปกติตามสไตล์ผู้ชาย ซึ่งทุกครั้งที่ตนเตือนหรือแนะนำเขา เขาเองจะตอบว่าครับและไม่เคยเถียงหรือแสดงอารมณ์ก้าวร้าวใส่ เรียกว่าเป็นคนดีคนหนึ่ง เมื่อถามว่าเขาเองรักลูกสาวหรือ "น.ส.วราภรณ์" มากไหมจากที่สังเกต ทางเจ้าของหอก็บอกว่า พ่อทุกคนก็นักลูกเหมือนกันหมด แต่อยู่ที่ว่ารักลูกถูกทางไหม ตนอบากถามคนเป็นพ่อว่าทำไมเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นถึงไม่เตือนลูก เข้าใจว่ารักลูกแต่แบบนี้ไม่ถูกต้อง ยังมีทางแก้ไขได้ดีกว่านี้ เศร้าใจสงสารเด็กไม่น่ามาเจอเหตุการณ์แบบนี้ คนทำก็ใจดำทำได้ลงคอ" เจ้าของหอพัก กล่าว 

180560

ทีมข่าววิดีโอคอลพูดคุยกับน.ส.นิดา เสถียรเพียร อายุ 29 ปี แม่ของน้องบาส อายุ 3 ปี ผู้เสียชีวิต โดยที่ตัวเธอเองนั้นยังคงพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล หลังทราบผลว่าติดเชื้อโควิด-19 โดยน.ส.นิดา เปิดใจทั้งน้ำตาว่า ตนยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่ต้องสูญเสียลูกชายอันเป็นที่รักไป ทั้งที่ไม่ได้มีการบอกลาหรือพูดคุยกัน ตอนนี้ตนเหมือนตายทั้งเป็น ไม่มีจิตใจจะทำอะไรทั้งสิ้น

หากจะถามตนว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น ส่วนตัวรู้จักกับผู้ก่อเหตุได้อย่างไร ตนต้องเล่าให้ฟังว่าย้อนกลับไปเมื่อ 10 กว่าปีก่อน ตนได้รู้จักกับน.ส.นริสรา และชวนมาอยู่ด้วยกัน จนเขาโตขึ้นก็ย้ายออกไปข้างนอก โดยที่ตนรักเขาเหมือนน้องและเป็นคนที่ตนเชื่อใจมากที่สุด ถึงขั้นฝากลูกให้เขาดูแลมาแล้ว 1 คน ซึ่งตอนนั้นเขาก็ไม่ได้มีพฤติกรรมโหดแบบนี้ ตรงกันข้ามเขากลับเป็นคนน่ารัก และอ่อนโยนกับเด็ก ๆ 

530937

สำหรับปัญหาที่ตนคิดว่าน่าจะเป็นเหตุที่ทำให้น้องเสียชีวิต สืบเนื่องมาจากตนได้นำน้องบาสไปฝากเขาเลี้ยง ในวันที่ 28 ตุลาคม 64 ที่ผ่านมา หลังจากนั้นวันที่ 5 พฤศจิกายน 64 ช่วงเช้าตนได้ติดต่อไปว่า รบกวนให้นำน้องบาสมาส่งให้ที่บ้าน เนื่องจากตนติดงาน แต่ผู้ก่อเหตุบอกว่าไม่สะดวก ตนเลยบอกว่า "งั้นจะเดินทางไปรับ เป็นวันที่ 7-8 พฤศจิกายน" ซึ่งผู้ก่อเหตุตอบว่า "งั้นถ้าเป็นวันที่ 7-8 พฤศจิกายน ขอค่าดูแลเป็นเงิน 800 บาท" ตนจึงขอต่อรองเพราะไม่มีเงินจริง ๆ เหลือเพียง 400 แต่ผู้ก่อเหตุปฏิเสธว่าไม่ได้ และขู่ว่าถ้าไม่มีเงินก็ไม่ต้องมาเอาลูกคืน

"สุดท้ายแล้ว หนูก็ไม่ได้ลูกคืนตามที่เขาบอก ยอมรับว่าที่ไม่ไปรับน้องกลับ ไม่ใช่แม่ไม่รักน้องหรือไม่สนใจ แต่เพราะไม่มีเงินไปให้ผู้ก่อเหตุ หนูก็พยายามหาของเก่าเก็บขายเพื่อที่จะได้เงิน 800 บาทไปเอาน้องกลับมาอยู่ด้วย แต่ก็ไม่ทัน สุดท้ายหนูก็ไม่ได้ลูกคืน ซ้ำทำไมเขาถึงต้องมาทำร้ายเด็กถึงขั้นเสียชีวิต หนูอยากถามว่าทำไมถึงทำได้ลงคอ หากโกรธหากแค้นอะไรหนู ทำไมไม่มาลงที่หนู" แม่น้องบาส กล่าว 

669639

อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวไม่ได้ทะเลาะหรือมีปัญหากับผู้ก่อเหตุมาก่อน ส่วนการเรียกเก็บเงินค่าเลี้ยงเด็กก็ถือว่าเป็นครั้งแรกที่เขาทำแบบนี้ ส่วนที่หลาย ๆ คนถามว่าแล้วตนไม่ดูแลลูก ตนอยากจะบอกว่าตนก็หาเช้ากินค่ำ ทำงานเก็บของเก่าขาย ตนยืนยันว่าไม่เคยทอดทิ้งลูก ส่วนสามีนั้นเเยกทางกันนานแล้วตั้งแต่น้องบาสคลอดใหม่ ๆ และตนยืนยันว่าจะไม่ให้อภัยผู้ก่อเหตุ อยากถามว่าหากครอบครัวของเขาเจอเรื่องแบบนี้ในชีวิตจะคิดอย่างไร

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส