เหยื่อสาวฉะหมอซึ่งหน้า ถ้าลูกถูกลวนลามจะทนไหม โผล่แฉพรึ่บถูกคลึงเต้า (คลิป)

20 พ.ย. 61
จากกรณีมีผู้เสียหายถูกสูตินรีแพทย์คลินิกแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ จ.นครสวรรค์ กระทำอนาจารระหว่างรับการรักษา ขณะเข้าตรวจภายใน ซึ่งต่อมาพบว่ามีผู้เสียหายอีกหลายรายออกมาเปิดเผยข้อมูลว่า เคยถูกหมอคนดังกล่าวกระทำในลักษณะเดียวกัน (อ่าน : เหยื่อสาวถาม “เดชา” ทำไมไม่ป้องเพศแม่ ทนายนิด้ายันหลักฐานแน่น ที่เห็นแค่ 10% )
รายการต่างคนต่างคิด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 18.50 น.
วันที่ 19 พ.ย. 61  น.ส.ตูน ผู้เสียหาย ให้สัมภาษณ์ในรายการต่างคนต่างคิด ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์อมรินทร์ ทีวี ช่อง 34 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 18.50 น. โดยเปิดเผยว่า ตนเคยไปรักษากับที่คลินิกดังกล่าวเมื่อปี 58 ด้วยอาการฝีที่หว่างขา ซึ่งขณะนั้นตนก็ถูกล่วงละเมิดทางเพศ ต่อมาในปี 59 ตนมีอาการฝีที่หว่างขาในบริเวณเดิมอีกครั้ง ขณะนั้นทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ ซึ่งตนก็พยายามไปพบหมอที่คลินิกอื่นแล้ว แต่หมอบอกว่า ยังไม่สามารถรักษาได้ เนื่องจากฝีของตนยังไม่ออกหัว ตนจึงตัดสินใจกลับบ้านที่ จ.พิจิตร และเข้ารับการรักษากับหมอคนเดิม เมื่อกลับไปพบหมอคนเดิมอีกครั้ง ขณะนั้นก็คิดเอาไว้แล้วว่าอาจต้องเจอเหตุการณ์แบบเดิม ซึ่งขณะที่ตรวจก็เป็นไปอย่างที่ตนคาดจริง ๆ คือ หมอใช้สรรพนามเรียกตนว่า "ที่รัก" จากนั้นก็ใช้นิ้วสอดใส่ที่อวัยวะเพศ แต่คราวนี้ทำหนักกว่าเดิม คือ นอกจากจะแอ่นเป้ามาถูกอวัยวะเพศของตนแล้ว ยังขยับสะโพกไปมา กระทั่งเลือดจากฝีของตนติดที่เป้าของหมอ จากนั้นหมอคนดังกล่าวก็ก้มลงไป และใช้ลิ้นเลียที่อวัยวะเพศของตน ขณะนั้นตนรู้สึกตกใจมาก แต่ก็ไม่กล้าร้องเรียกความช่วยเหลือ เพราะกลัวว่าหากร้องไปก็ไม่มีหลักฐาน รวมถึงหมออาจปฏิเสธการรักษาได้ ซึ่งหลังจากหมอทำพฤติกรรมทั้งหมดอยู่ครู่ใหญ่ ตนร้องว่าไม่ไหวแล้ว หมอจึงยอมบีบฝีให้ จากนั้น หมอคนดังกล่าวจึงได้ให้เงินตน 2,000 บาท แต่ตนไม่รับ และวางไว้กับผ้าถุงในห้องเปลี่ยนเสื้อ
น.ส.ตูน (นามสมมติ) ผู้เสียหาย
ต่อมา น.ส.ตูน (นามสมมติ) ผู้เสียหาย เปิดเผยหลังจบรายการต่างคนต่างคิดว่า หลังเกิดเรื่อง เมื่อปี 59 ตนได้ไปแจ้งความ โดยตำรวจให้ตนเรียกค่าเสียหายจากหมอ แล้วแบ่งเงินครึ่งหนึ่ง ให้กับตำรวจด้วย ซึ่งตนไม่ยินยอม กระทั่งตำรวจเรียกหมอคู่กรณีมาพบ และเจรจาตกลงกัน โดยหมอยอมรับผิดจริง ตำรวจให้ตนเรียกค่าเสียหาย ตนจึงเรียกไป 80,000 บาท ซึ่งหมอไม่ยินยอมจ่าย พร้อมบอกตนว่าให้ไปเจอกันบนศาล ตนก็ตอบตกลง หลังจากนั้น ตำรวจถามตนอีกครั้งว่า จะเรียกค่าเสียหายแค่ 40,000 บาทหรือไม่ เพื่อให้เรื่องจบ จากนั้น หมอก็ไปกดเงินมาจำนวน 40,000 บาท พร้อมยื่นให้ตน แล้วตำรวจถ่ายภาพเก็บไว้เป็นหลักฐาน อย่างไรก็ตาม เงินจำนวน 40,000 บาท ตนไม่ได้แบ่งให้ตำรวจ แล้วรีบกลับบ้าน หลังจากนั้น ตำรวจโทรมาหาตนและจะขอแบ่งเงินจำนวนดังกล่าว นอกจากนี้ ในระหว่างดำเนินคดี ตนถามกับหมอว่า "หมอมีลูกสาวหรือไม่ และหากเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นกับลูกสาวของหมอบ้าง จะทำอย่างไร ?" ปรากฏว่าหมอพยักหน้า และตอบว่า "อื้ม"
นางบัวเรียน สุขสมบูรณ์วงศ์ ร้านค้าฝั่งตรงข้ามกับคลินิก
นางบัวเรียน สุขสมบูรณ์วงศ์ ร้านค้าฝั่งตรงข้ามกับคลินิก กล่าวว่า ตนเปิดร้านค้าอยู่บริเวณนี้มาเป็นเวลากว่า 30 ปี ก่อนที่หมอจะมาตั้งคลิกนิก ตนในฐานะเพื่อนบ้านเห็นว่า หมอเป็นคนดี ตนไม่เคยรักษาและตรวจภายในกับหมอ แต่เคยปรึกษาเรื่องลูกไม่สบาย โดยไม่เคยคิดเงิน ตนยืนยันว่า คนแถวนี้รักคุณหมอกันทุกคน เมื่อเห็นข่าวครั้งแรก ตนก็รู้สึกตกใจ ช็อก เพราะตนไม่เชื่อ เนื่องจากหมอเป็นคนดีมาก ใจเย็น ตนจึงไม่คิดว่าหมอจะทำพฤติกรรมตามที่เป็นข่าว ถึงแม้จะข่าวที่ออกมาจะยังไม่สรุปแน่ชัดว่าใช่หรือไม่ แต่ความรู้สึกลึก ๆ ในใจตน เห็นว่า อย่างไรก็ไม่เชื่อ ซึ่งวันแรกที่เป็นข่าว ตนเห็นนักข่าวมาเป็นจำนวนมาก แต่ตนก็ยังไม่เชื่อ เนื่องจากคิดว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ นางบัวเรียน กล่าวว่า ตนเห็นหมอมารักษาคนไข้ตามปกติ ไม่ได้หนีไปไหน เมื่อวาน (18 พ.ย.) ตนก็ยังเห็นหมออยู่ โดยอยากบอกคุณหมอว่า "ให้คุณหมอสู้ ๆ หมอเป็นคนดีสำหรับเรา" ตนทราบว่าหมอท่านนี้โดนข่าวแบบนี้เมื่อปีที่แล้วในลักษณะเดียวกัน ทั้งนี้ หากตนไม่สบายก็ยังกล้าเข้าไปรักษากับหมอคนดังกล่าวแน่นอน เรื่องที่เกิดขึ้นจะจริงเท็จอย่างไร ตนไม่รู้ แต่ที่รู้คือตัวเองชอบหมอคนนี้ เพราะอัธยาศัยดี รวมถึงไม่เคยหยิ่งกับตนเองและคนแถวนี้เลย
น้องซี (นามสมมติ) ผู้เสียหาย
น้องซี (นามสมมติ) ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ตนท้องลูกคนแรก อายุครรภ์ได้เพียง 1 เดือน พี่สะใภ้จึงแนะนำให้ไปฝากครรภ์ที่คลินิกแห่งนี้ เนื่องจากเป็นหมอชื่อดังของ จ.นครสวรรค์ อีกทั้งเป็นอาจารย์หมอของโรงพยาบาลประจำจังหวัด ตนจึงเดินทางไปที่คลิกนิกดังกล่าวพร้อมกับพี่สะใภ้ เมื่อเข้าไปถึง หมอจึงเรียกตนเข้าไปในห้องเพื่อพูดคุยกันตามปกติ กระทั่งผ่านไปครู่หนึ่ง หมอบอกให้พี่สะใภ้ออกไปจ่ายเงินด้านนอก จากนั้นหมอจึงลุกไปปิดประตู ล็อกห้อง และเริ่มถามตนในเรื่องต่าง ๆ รวมถึงสั่งให้ตนถอดเสื้อเพื่อตรวจ ตนจึงเปิดเสื้อขึ้น หมอคนดังกล่าวก็นำมือมาจับที่หน้าอกเพื่อบีบเค้น และพูดกับตนว่า “นมสวย แบบนี้แฟนคงหลงน่าดู” ขณะนั้นตนยอมรับว่ารู้สึกตกใจ แต่ไม่กล้าพูดอะไร จากนั้นหมอยังคงไม่เลิกบีบเค้น และพูดกับตนว่า “มีอะไรกับแฟนบ่อยไหม มีอะไรกับแฟนได้นะ แฟนทำเก่งไหม” ซึ่งเมื่อจบประโยคที่หมอบอก ตนคิดว่าไม่ใช่การตรวจแล้ว จึงเอาเสื้อลง และวิ่งออกจากห้องไปหาพี่สะใภ้ เพื่อบอกให้พากลับบ้าน จากนั้น ตนเล่าเรื่องดังกล่าวให้ที่บ้านฟัง แม่ของตนจึงบอกว่าให้เปลี่ยนหมอทันที ซึ่งขณะนั้นตนก็ไม่กล้าไปแจ้งความ เพราะไม่รู้ว่าพฤติกรรมของหมอ เป็นสิ่งที่เรียกว่าการตรวจหรือไม่ ทั้งนี้ ตนรู้สึกตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น และคาดว่าอาจมีผู้เสียหายหลายคนที่ถูกกระทำเหมือนกับตน แต่ส่วนใหญ่ไม่มีใครกล้าทำอะไร เนื่องจากไม่รู้ว่าสิ่งที่หมอทำคือการตรวจ หรือทำเพื่อวัตถุประสงค์อื่น เรื่องที่ตนออกมาเปิดเผยนั้นไม่ได้เพื่อดิสเครดิตหมอ เพราะตนถูกกระทำจริง และตนไม่ได้รับเงินใครเพื่อมาทำลายชื่อเสียงของหมอ
น้องฟ้า (นามสมมติ) ผู้เสียหาย
น้องฟ้า (นามสมมติ) ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เมื่อ 3 ที่แล้ว ตนอยู่กินกับแฟนมาประมาณ 3 ปี  ตนต้องการมีบุตร จึงมาที่คลินิกดังกล่าว เนื่องจากเป็นคลินิกที่มีชื่อเสียง หลังจากนั้น พยาบาลให้แฟนของตนขึ้นไปที่ ชั้น 2 ของอาคาร เพื่อตรวจปริมาณอสุจิ ส่วนตนเข้าไปที่ห้องของหมอ และได้เปลี่ยนใส่ผ้าถุง เมื่อเข้าไปในห้องพบว่า หมอใช้มือกดที่หน้าท้อง และถามตนว่าเจ็บไหม จากนั้นจึงบอกว่าตนมีปัญหาเรื่องมดลูกต่ำ ต้องตรวจที่ขาหยั่ง จากนั้นหมอสวมใส่ถุงมือและใช้นิ้วแหย่เข้าไปในช่องคลอด โดยบอกว่า “หมอขออนุญาตนะ หมอต้องตรวจข้างใน” และเมื่อนิ้วของหมอเข้าไปข้างในช่องคลอด หมอก็บอกอีกว่า “มดลูกคว่ำนะ มีบุตรยาก เราจะต้องทำแบบนี้ ใช้ท่านี้ ให้แฟนเล้าโลมก่อนจะได้มีน้ำหล่อลื่นขึ้นมา อสุจิจะได้เข้าไปได้ง่าย ๆ” จากนั้น หมอจึงสาธิตท่าทาง โดยหมอโน้มตัวลงมา เป่าหู และควักอวัยเพศส่ายไปส่ายมาที่อวัยวะเพศของตน รวมถึงสอดมือใส่เข้าออกที่บริเวณช่องคลอดอยู่ตลอดเวลา ขณะนั้นตนรู้สึกแปลกใจ และตกใจมาก เนื่องจากตนไม่เคยเจอหมอที่ไหนตรวจภายในแบบนี้ โดยหมอทำประมาณ 5 นาที หมอจึงใช้นิ้วแตะตรงอวัยวะเพศ และบอกว่า “เห็นไหมต้องให้แฟนทำแบบนี้ ก็มีอารมณ์แล้ว” ซึ่งตนตั้งข้อสังเกตว่า “หากจะสาธิตวิธีแบบนี้ ทำไมไม่สอนกับแฟนของตน มาทำกับตนทำไม” จากนั้น หมอจึงเรียกแฟนเข้ามาในห้อง และบอกผลตรวจว่า แฟนของตนอสุจิไม่ค่อยแข็งแรง เมื่อกลับถึงบ้าน ตนจึงพูดคุยกับแฟน ถึงพฤติกรรมของหมอในห้องตรวจ ซึ่งขณะนั้นแฟนตนก็สงสัยว่า เหตุใดหมอจึงทำแบบนี้ หรือว่าเป็นวิธีการตรวจรักษา แต่หลังจากที่ตนเล่าให้เพื่อนฟัง เพื่อนก็บอกว่าเจอแบบนี้หลายคน หากไปที่คลินิกแห่งนี้ก็ต้องเจอพฤติกรรมแบบนี้ และคิดว่าอาจเป็นเรื่องปกติ เป็นวิธีการสอนให้ถึงอารมณ์ น้องฟ้า เปิดเผยอีกว่า หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว ตนกลับเข้าไปรับการตรวจจากคุณหมอรายเดิมอีกครั้ง แต่ครั้งนี้แฟนเข้าไปด้วย พบว่าหมอให้ตนขึ้นเตียงขาหยั่งเหมือนเดิม แต่ไม่มีการใช้นิ้ว หรือมาเป่าหู ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าอาจเป็นเพราะแฟนของตนอยู่ในห้องด้วยหรือไม่ จึงไม่เกิดเหตุการณ์เหมือนครั้งแรกขึ้น ทั้งนี้ ตนยอมรับว่า หมอรายดังกล่าวเก่งมากเรื่องสูตินารีเวช เรื่องของการมีบุตรยาก แต่ตนก็ไม่รู้เหมือนกันว่าวิธีการรักษาทำไมถึงเป็นแบบนี้

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ