คดีพลิกยิง 2 ศพ จ่าทหารไม่ได้ฆ่า หญิงตายคาบ้านเป็นเมีย ญาติงงเสี่ยโผล่คบหา (คลิป)

8 พ.ย. 64

กรณีวันที่ 6 พ.ย. 64 เวลาประมาณ 16.30 น. ร.ต.อ.ยุทธชัย อินเสน พนักงานสอบสวนเวร สภ.เมืองนครปฐม รับแจ้งเหตุมีการยิงกันเสียชีวิต 2 ศพ เหตุเกิดที่บ้านใน ต.พระประโทน อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม พบศพ จ.ส.ต.ยุทธนา สราคำ อายุ 38 ปี นอนเสียชีวิต สภาพศพมีบาดแผถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. เข้าที่ลำตัวจากด้านหลัง 4 นัด

426588

ถัดไปในห้องนอนบนเตียงพบศพนางกัณฐมณี หรือ มิ้นท์ อายุ 42 ปี นอนเสียชีวิตบนเตียง สภาพนอนคว่ำหน้า มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาดเดียวกัน เข้าที่ขมับขวาทะลุซ้าย 1 นัด ที่เกิดเหตุพบอาวุธปืนขนาด 9 ตกอยู่ข้างศพนางกัณฐมณี และพบหัวกระสุนจำนวนหนึ่ง จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน

586882

วันที่ 8 พ.ย. 64 ทีมข่าวอมรินทร์เดินทางไปยังโรงพยาบาลนครปฐม ญาติของนางกัณฐมณี และญาติของ จ.ส.ต.ยุทธนา ผู้เสียชีวิต เดินทางมารับศพที่นิติเวชโรงพยาบาลนครปฐม โดยแพทย์เพิ่งมีการเริ่มผ่าในช่วงเช้าที่ผ่านมา

titled

นางสาววันวิสา สราคำ น้องสาวผู้เสียชีวิต บอกว่า ตนเคยเห็นนางกัณฐมณี ผู้เสียชีวิต ไปที่บ้านของตนที่ จ.สุพรรณบุรี หลายครั้ง โดยหลังที่แต่งงานกันมาได้ 3 ปี ซึ่งไม่ได้มีบุตรด้วยกัน ตอนที่แต่งงานกันก็มีทางญาติของนางกัณฐมณีเดินทางมาด้วย ข้อมูลที่ตนทราบคือนางกัณฐมณีอ้างว่านายสุนทรเป็นพ่อ พอมาทราบจากข่าวว่ามีความสนิทสนิมกันตนก็รู้สึกตกใจเข้าไปอีก ว่ามาหลอกพี่ชายตนทำไม

616055

ตนยอมรับว่าพี่ชายตนเป็นคนดีมาก เป็นความภาคภูมิใจและความหวังของครอบครัว เพราะเป็นคนเดียวที่รับราชการ ซึ่งตนก็ไม่แน่ใจว่าที่มาจดทะเบียนสมรสกับพี่ชายตนนั้นเพราะมีเหตุผลอะไรแฝงหรือไม่ ตนก็คิดแค่ว่าเขาทั้ง 2 คนรักกันเลยแต่งงานกัน

317615

ตอนนี้สภาพจิตใจของตนและครอบครัวในขณะนี้ก็ยังตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กะทันหันมาก ไม่มีลางสังหรณ์ โดยเฉพาะพี่ชายของตน หลัง ๆ มาไม่ค่อยได้ติดต่อมาครอบครัว กลับมาบ้านที่ จ.สุพรรณบึรี ก็มาแบบไปเช้าเย็นกลับ และไม่ค่อยเล่าเรื่องทุกข์ใจให้ใครฟัง ส่วนคนลงมือก่อเหตุนั้น ถึงแม้ว่าจะเป็นไปตามรายงานข่าวว่านางกัณฐมณีเป็นคนยิงพี่ชายตน ก็ขอรอผลชันสูตรและผลตรวจ DNA ลายนิ้วมือก่อน ตอนนี้ยังตอบไม่ได้ว่าจะอโหสิกรรมให้หรือไม่

758841

นายสุนทร ฤกษ์ศิริรัตน์ ชายคนสนิทของนางกัณฐมณี ผู้เสียชีวิต และเป็นผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ เปิดใจว่า ตนเป็นแฟนกับนางกัณฐมณี และคบหากันมาได้ 8 ปีแล้ว เมื่อวันที่ 6 พ.ย.64 ตนเดินทางมาที่บ้านของนางกัณฐมณีในช่วงบ่าย จากนั้นก็ได้ทานข้าวด้วยกัน ก่อนจะขึ้นไปที่ห้องนอนชั้น 2 ตอนนั้นตนก็ยังไม่เห็น จ.ส.ต.ยุทธนา อยู่ในบ้านหลังเกิดเหตุ ขณะอยู่ในห้องนอน นางกัณฐมณีได้นำชาไข่มุกมาให้ตน 1 แก้ว แล้วก็เผลอหลับไป ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเผลอหลับไปในเวลาไหน ต่อมาได้ยินเสียงดัง 2 ครั้ง คล้ายกับมีคนทำของหล่นทำให้ตัวเองสะดุ้งตื่นขึ้นมา

นางกัณฐมณี ได้เดินเข้ามาถามตัวเองว่า "ป๋า ป๋าจะมีใครอีกหรือเปล่า" ตัวเองจึงตอบว่า "จะบ้าหรอ ป๋าจะมีใคร" จากนั้นกัณฐมณี เขาได้ใช้ปืนยิงเข้าที่ขมับ 1 นัด แล้วล้มต่อหน้าตัวเอง จากนั้นตัวเองก็ได้วิ่งลงไปที่ชั้น 1 แล้วตะโกนเรียกให้คนมาช่วย จังหวะนั้น นางสาวสุชาดา ลูกสาวของกัณฐมณี ได้มาถึงที่บ้านพอดี ตัวเองจึงบอกเขาว่าแม่ได้ยิงตัวตายแล้ว ตอนวิ่งลงจากชั้น 2 นั้น ตัวเองได้มองเห็นร่างของยุทธนาที่นอนอยู่หน้าประตูของอีกห้อง ตัวเองคาดว่านายยุทธนาน่าจะถูกยิงเสียชีวิตก่อน แต่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนยิงใคร เพราะตัวเองไม่เห็นเหตุการณ์ ทั้งนี้ ตัวเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของกัณฐมณีและนายยุทธนา สำหรับอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุเป็นปืนของนางกัณฐมณีเอง ซึ่งเขาซื้อเมื่อ 1 เดือนที่แล้ว ตัวเองเคยเตือนไม่ให้เขาซื้อแต่เขาก็ไม่ฟัง

690541

นางสาวสุชาดา อายุ 24 ปี ลูกสาวของนางกัณฐมณี ผู้เสียชีวิต กล่าวว่า สำหรับการตายของแม่ ตนก็ยังตอบไม่ได้ว่าจะติดใจสาเหตุการตายหรือไม่ ต้องรอฟังผลทางคดีจากตำรวจเสียก่อน ตอนนั้นตนเจอแต่แม่อยู่ที่บ้านคนเดียว ไม่เจอนายสุนทรและนายยุทธนา พอซื้อของให้แม่เสร็จและกลับมาถึงบ้านก็เจอกับนายสุนทรที่เข้ามาบอกว่า "แม่เสียชีวิตแล้ว" ซึ่งตนก็ไม่ได้ยินเสียงปืน หรือเห็นเหตุการณ์ ส่วนความสัมพันธ์ของนายสุนทรและแม่เป็นแฟนกัน และก็รู้จักกันมานานแล้ว ส่วนนายยุทธนาแม่บอกกับตนว่าเป็นเพื่อน

243935

ขณะเดียวกันทีมข่าวเดินทางไปยังบ้านของนายสุนทร พบว่าเป็นร้านซ่อมกระจกรถยนต์ ทีมข่าวได้เข้าไปสอบถามนางสาวนุช (นามสมมติ) ลูกน้องของนายสุนทร บอกว่า ตนไม่ทราบข่าวและไม่รู้จักนางกัณฐมณี โดยในวันนี้ไม่ทีใครอยู่ ภรรยาของนายสุนทรไปต่างจังหวัด ส่วนลูกชายของนายสุนทรออกไปทำงานนอกพื้นที่ และคาดว่าคงยังไม่มีใครทราบเรื่องที่เกิดขึ้น

ปกติแล้วนายสุนทรเป็นเจ้านายที่ดี และไม่เคยเห็นว่าจะมีการทะเลาะอะไรกันเลย ตอนนี้ทางด้านของนายสุนทรก็ไม่อยู่ บอกแค่ว่าไม่สบายเลยไปหาหมอ ส่วนเรื่องส่วนตัวเรื่องอื่น ๆ ตนขอไม่ออกความเห็น เพราะเป็นเรื่องภายในครอบครัวของเจ้านาย

468235

เวลา 13.00 น. ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางลงพื้นที่วัดดอนมะเกลือ ตำบลปากสะแก อำเภอเดิมบาง จังหวัดสุพรรณบุรี สถานที่จัดงานบำเพ็ญกุศลศพของ จ.ส.อ.ยุทธนา บรรยากาศที่วัด ญาติเเละเพื่อนข้างบ้านของนายยุทธเดินทางมาร่วมงานศพ

350748

นางตา (นามสมมติ) อายุ 47 ปี ลูกพี่ลูกน้องนายยุทธ เปิดเผยวว่า นายยุทธนาเป็นลูกคนที่ 2 จาก 5 คน ตนเเละนายยุทธรู้จักกันมาตั้งเเต่เล็ก ๆ กินนอนเล่นมาด้วยกัน สนิทกันมาก นายยุทธเป็นทหารบก เเละได้เลื่อนยศเป็นจ่าสิบเอกมา 6 เดือนเเล้ว เพียงเเค่ยังไม่ได้เปลี่ยนบัตร นิสัยของนายยุทธเป็นคนดีมากไม่เจ้าชู้ ซื่อ ๆ พูดง่าย ๆ ว่าเป็นคนซื่อบื้อ ตนยังเคยพูดอยู่เลยว่า "ชาตินี้จะมีเมียไหม" ซึ่งก่อนหน้าที่นายยุทธจะเเต่งงานกับนางมิ้น นายยุทธเคยมีภรรยามาก่อนเป็นชาวศรีสะเกษ ไม่มีลูกด้วยกัน เเต่ที่เลิกรากันเพราะเข้ากันไม่ได้ ก่อนจะมาคบกับนางมิ้น คนในครอบครัวก็รับรู้ว่านางมิ้นมีลูกติดจากสามีเก่าอยู่เเล้ว

ตนยืนยันว่า นายยุทธเเละนางมิ้นรักกันดีเเละเป็นสามีภรรยากันจริง งานเเต่งงานจัดขึ้นวันที่ 19 พฤษภาคม 2561 ที่ร้านอาหาร ในวันเดียวกันบ่าวสาวก็มาจัดงานเลี้ยงต่อที่บ้านของนายยุทธ ที่บ้านตำบลปากสะแก อำเภอเดิมบาง จังหวัดสุพรรณบุรี ตนยังไปงานกินเลี้ยงที่บ้านของนายยุทธอยู่เลย ญาติ ๆ เพื่อนข้างบ้านมาเป็นสักขีพยานกันเต็มไปหมด

นิสัยใจคอของผู้หญิงชื่อมิ้นก็ดี เขาเป็นคนพูดจาดี เวลามาที่บ้านก็มักจะพูดคุยกัน เวลาที่บ้านมีงานอะไร นางมิ้นก็จะมาช่วยเหลือ เเละมาร่วมงานตลอด ตนไม่เคยเห็นมาก่อนว่านางมิ้นจะมีผู้ชายหลายคนเข้ามาติดพัน ส่วนข่าวที่ออกไปว่านายยุทธเป็นเพียงเพื่อน หรือญาติ ตนก็สงสัยว่าทำไมนางมิ้นถึงไม่บอกว่านายยุทธเป็นสามี เพราะมีทะเบียนสมรส ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตตนก็ยังไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร ตอนเเรกตนก็คิดว่าเป็นนางมิ้นยิงนายยุทธ เเต่ตอนนี้ความคิดเปลี่ยนไป เพราะมีคนอื่นอยู่ในเหตุการณ์ด้วย เเต่ตนก็ยังไม่ปักใจเชื่อ ต้องรอเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้ง

253081

นายบุญช่วย สราคำ อายุ 65 ปี ผู้เป็นพ่อ เดินมารดน้ำศพลูกชายเป็นคนเเรก หลังจากรดเสร็จก็ร้องไห้ ต่อด้วยนางสิมมา อายุ 63 ปี ผู้เป็นเเม่ บรรดาญาติ เเละเพื่อนบ้านที่มาร่วมรดน้ำศพ ก่อนนำศพนายยุทธลงโลง นางสาววันวิสา น้องสาว ก็ได้มากราบเท้าพี่ชายเป็นครั้งสุดท้าย และร้องไห้อย่างหนัก

พ่อเเละเเม่ของนายยุทธ เปิดเผยว่า ลูกชายคนนี้มีความฝันตั้งเเต่เล็กแล้วว่าอยากเป็นทหาร พ่อกับเเม่ก็พยายามสนับสนุนมาตลอด จนเขาได้เป็นจ่าสิบเอก ตนภูมิใจในตัวลูกชายคนนี้มาก ตนยังทำใจกับการตายของลูกชายไม่ได้ ตอนนี้ลูกชายก็ยังไม่มีกลับมาหาตน ตนเชื่อว่าลูกชายรักพ่อกับเเม่มาก คงจะไม่กลับมากวน "หากชาติหน้ามีจริง ขอให้นายยุทธกลับมาเป็นลูกของพ่อกับเเม่อีกนะ"

ตนก็ยืนยันคำเดิมว่าลูกชายกับนางมิ้น เเต่งงานกันจริง มีเงินสินสอด 100,000 บาท ส่วนเรื่องที่สองคนนี้ทะเลาะอะไรกันหรือไม่ ตนก็ไม่ทราบ เพราะปกติลูกชายจะไม่ค่อยเล่าเรื่องส่วนตัวให้ฟัง เเต่เท่าที่เห็นก็คบกันตามปกติ ส่วนนิสัยใจคอของสะใภ้ก็เป็นคนอัธยาศัยดี พูดเก่ง เวลามาหาครอบครัวตน นางมิ้นก็ปกติดี ส่วนเรื่องที่สะใภ้ป่วยเป็นโรคหวาดระแวง ครอบครัวตนก็ทราบเมื่อไม่กี่ปีก่อน นางมิ้นเพิ่งกลับมาจากการรักษาเมื่อ 2 เดือนก่อนหน้านี้เอง

เรื่องของผลการชันสูตร ตอนนี้ก็ยังไม่ออก หากถามว่าใครเป็นยิงจะใช่นางมิ้นจริงหรือไม่ ตนคงยังพูดไม่ได้เต็มปาก เเต่อย่างไรทั้ง 2 ครอบครัวก็สูญเสียด้วยกันทั้งนั้น ตอนนี้ก็รอผลจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เเต่หากเป็นนางมิ้นยิงจริง ตนเเละครอบครัวก็ขออโหสิกรรมให้ ส่วนทางญาติของฝั่งนางมิ้นจะมากราบขอขมาศพลูกชาย ตนก็ยินดี ส่วนเรื่องจดหมายลาตายของลูกชาย ตนยอมรับว่าเพิ่งเห็นเมื่อเช้าตอนที่ไปรับศพลูกชาย เเต่น้องชายของนายยุทธเป็นคนอ่านเเละเป็นคนเห็น เนื้อความข้างในตนไม่ทราบ เพราะไม่ทันได้อ่าน

773358

นายพรชัย สราคำ อายุ 37 ปี น้องชายของจ่าสิบเอกที่ได้อ่านจดหมายลาตาย เปิดเผยว่า เมื่อเช้าตนเเละครอบครัวไปรับศพพี่ชายที่โรงพยาบาลนครปฐม เเละได้เจอกับนางสาวสุชาดา ลูกสาวของนางมิ้น ซึ่งนางสาวสุชาดาได้เอาจดหมายที่อ้างว่าเป็นจดหมายลาตายของพี่ชายมาให้ตน เมื่อตนเปิดอ่านเป็นกระดาษ เขียนด้วยปากกา ความยาวประมาณ 5-6 บรรทัด เห็นลายมือก็รู้แล้วว่าไม่ใช่ของพี่ชายตน ยิ่งพออ่านสรรพนามที่ใช้ก็ไม่ใช่ของพี่ชายตนเเน่นอน เพราะใช้คำว่า "หนู" เเต่พี่ชายจะใช้คำว่า "ผม" ไม่เคยใช้คำว่าหนูเลย

386656

สรุปเนื้อหาใจความได้ว่า "ทั้งคู่ยอมที่จะปลิดชีพ เเต่ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน ซึ่งเมื่อปลิดชีพเเล้ว ห้ามย้ายศพเเยกจากกัน ขอให้ศพของทั้งคู่ได้จัดงานคู่กัน" พร้อมกับลงชื่อนายยุทธนา เเละลงวันที่ 6 พ.ย.64 ซึ่งพออ่านจบเเล้วไม่ใช่จดหมายของพี่ชาย ตนก็จำไม่ได้ว่าเอาจดหมายไปไว้ที่ไหน เเต่คาดว่าตนคงจะคืนนางสาวสุชาดาไป เเละไม่ได้มีใครถ่ายภาพไว้เลย หลังจากนั้นก็ไปเดินเรื่องเอกสารรับศพพี่ชายต่อ

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส