เสี่ยเจ๊กอภัยสาวดูดเงิน 10 ล้าน สุดช้ำโดนอีก 4 สาวลวงรัก แต่ยังเหลือที่ดิน 20 ล้าน (คลิป)

8 พ.ย. 64

กรณีกองปราบปรามนำกำลังเข้าจับกุมผู้ต้องหา ตามหมายจับฐานฉ้อโกงและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จฯ ได้บริเวณหน้าโรงแรมในเมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี มีการควบคุมตัว นางสาวชนกนันท์ หรือ นัดดา อายุ 27 ปี

902964

สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ได้มีนายนรศักดิ์ หรือ เจ๊ก ศรีพิรุณทิพย์ อายุ 63 ปี ชาวบ้าน ต.ประโคนชัย อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.ประโคนชัย อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ กล่าวหา น.ส.ชนกนันท์ ว่าได้หลอกลวงและฉ้อโกงเงินไปกว่า 10 ล้านบาท เมื่อคืนที่ผ่านมานายนรศักดิ์ เดินทางมาเยี่ยมผู้ต้องหา พร้อมกับเสื่อและพัดลมที่นำมาให้

903975

วันที่ 8 พ.ย. 64 เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจโรงพัก สภ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ได้มีการเบิกตัวนางสาวชนกนันท์ ผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกงขึ้นรถตำรวจ เพื่อเดินทางนำตัวฝากขังต่อศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ขณะที่มีการเบิกตัวออกจากโรงพักไปขึ้นรถนั้น ทีมข่าวได้พยายามสอบถาม เจ้าตัวปฏิเสธที่ตอบทุกคำถาม พูดเพียงว่า "ไม่มีอะไรพูดค่ะ"

121228

ระหว่างที่เจ้าตัวเดินออกจากโรงพักเพื่อไปขึ้นรถนั้น มีลูกชายเดินจุงมือกับนางสาวชนกนันท์ ถามแม่ตลอดทางว่าจะไปที่ไหน เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกเด็กว่าจะพาไปเที่ยว ก่อนที่จะพาทั้งแม่และลูกขึ้นรถ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการประสานญาติที่อยู่ในจังหวัดสุโขทัยให้มารอรับเด็กแล้ว

721393

ด้านของนายนรศักดิ์ หรือ เจ๊ก ผู้เสียหาย เดินทางมาที่โรงพัก สภ.ประโคนชัย เดินตรงเข้าไปที่พนักงานสอบสวนเวรประจำวัน เพื่อมีการลงบันทึกประจำวันเพิ่มเติม เตรียมหลักฐานซึ่งเป็นโฉนดที่ดินแบบสำเนาไปแจ้งลงบันทึกประจำวันเพิ่มเติม จะนำไปมอบให้กับทนายความ ดำเนินการฟ้องร้องเอาที่ดินคืน หลังจากที่นางสาวชนกนันท์นำไปขาย 7,500,000 บาท ในจำนวนที่ดิน 9 ไร่ เพราะเจ้าตัวมองว่าการชื้อขายยังไม่สมบูรณ์ ต้องมีการฟ้องเอาโฉนดคืนกลับมา

682882

นายนรศักดิ์ ผู้เสียหาย เปิดใจว่า ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย เมื่อนางสาวชนกนันท์หลอกเอาที่ดินไปขายและหลอกเอาเงินไปใช้ ก็ต้องรับโทษ แต่ตนเองก็ไม่ได้ติดใจ เพราะได้เงินจำนวน 2,800,000 บาทคืนแล้ว เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการตามอายัดเงิน และคืนเงินกลับมาให้เป็นที่เรียบร้อย จำนวนเงินดังกล่าวแบ่งเป็นสินสอด 190,000บาท และเงินที่แอบโอนออกจากบัญชี อีก 2,610,000บาท ตนเองก็ไม่ได้ติดใจ เนื่องจากได้เงินคืนแล้ว แต่สิ่งที่จะต้องทำหลังจากนี้คือการแต่งตั้งทนายความฟ้องดำเนินคดีกับคนที่เอาโฉนดที่ดินไป เนื่องจากการซื้อขายยังไม่สมบูรณ์ อีกทั้งมีการขายต่ำกว่าราคาที่ตั้งเอาไว้ ที่สำคัญเงินจำนวนดังกล่าวตนเองก็ไม่รู้ว่ามีการโอนจ่ายไปให้ใคร เพราะตำรวจมีหลักฐานเชื่อมโยงทั้งหมดแล้ว

492075837516255044

เมื่อคืนนี้ตนเองตั้งใจนำพัดลม หมอน เสื่อ และผ้าห่ม เป็นของใหม่ทั้งหมดเอามาให้นางสาวชนกนันท์ที่โรงพัก เพราะว่าที่ผ่านมาเคยตกลงกันไว้ว่าจะลงหลักปักฐานไปด้วยกัน ในเมื่อเกิดเหตุขึ้นเสียก่อจึงได้ซื้อสิ่งของเหล่านั้นมาให้กับนางสาวชนกนันท์ เพื่อทำตามคำสัญญา และตอนที่เจ้าตัวถูกจับนำตัวส่งมาที่โรงพัก ก็เป็นคนทวงเองว่า "ทำตามสัญญาด้วยนะพี่ หนูขอพัดลมหมอนเสื่อ เพื่อใช้สำหรับอยู่ในคุก" ตนเองจึงต้องทำตามคำมั่นสัญญา

142880852793466719

ขณะเดียวกัน ระหว่างที่คบหากันตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2564 จนกระทั่งปัจจุบันหลังเกิดเรื่อง ตนเองไม่เคยรู้มาก่อนว่านางสาวชนกนันท์มีลูกแล้ว เพิ่งจะมาทราบตอนที่ถูกจับ พบว่าเจ้าตัวมีลูกติด 1 คน ตั้งแต่ทีแรกที่ตนเองทักพูดคุยทางเฟซบุ๊กกับนางสาวชนกนันท์ เห็นตัวจริงที่สถานีขนส่งหมอชิต พบว่าไม่ตรงปก แต่ตนเองก็ยังเห็นว่าพอดูดี จึงได้ตัดสินใจนำเงิน 190,000 บาทที่พกติดตัวไปด้วย เป็นค่าสินสอดในการผูกข้อไม้ข้อมือที่สถานีขนส่งหมอชิตเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มีญาติฝั่งของนางสาวชนกนันท์ ซึ่งอ้างว่าเป็นป้า มาเป็นสักขีพยานในวันดังกล่าวด้วย หลังจากที่คบหากันทุกอย่างก็เป็นไปอย่างปกติ ตัวของผู้หญิงก็เลือกที่จะลงหลักปักฐานกับตนเอง จึงได้เกิดความไว้เนื้อเชื่อใจ สุดท้ายก็ถูกโอนเงินออกมูลค่ามากกว่า 2,600,000 บาท

503731203642

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเองยอมรับว่าจะไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับชีวิตอีก จะเลิกทักผู้หญิงเพียงแค่รูปภาพและจะไม่ยอมเสียเงินให้กับใครอีกจะทำเรื่องนี้ให้เป็นอุทาหรณ์ พร้อมทั้งฝากถึงผู้ชายคนอื่นที่อาจจะเป็นคนขี้เหงาเหมือนตนเอง ให้เลือกที่จะไม่ใช้วิธีเหล่านี้ไม่เช่นนั้นก็อาจจะตกเป็นเหยื่อของหญิงสาวที่ไม่มีตัวตนก็ได้

775313

นายนรศักดิ์โชว์สมุดบัญชี 2 เล่ม ซึ่งเล่มแรกเป็นธนาคารกสิกรไทย วันที่ 17 ก.พ.64 มีการฝากเงินเข้าบัญชีเพิ่ม 3,900,000 บาท ซึ่งเป็นเงินที่โอนมาจากบัญชีธนาคาร ธกส. เป็นเงินเก็บ แต่โอนมาไว้ในบัญชีนี้ เพราะมีระบบแบงกิ้งออนไลน์, วันที่ 22 ก.พ.64 มีการถอนเงินสดออกบัญชี 190,000 บาท ซึ่งนายนราศักดิ์บอกว่าเป็นเงินหมั้นหมายที่เอาไปให้นางสาวชนกนันท์

887097

นับตั้งแต่วันที่ 8 มี.ค. - 14 มิ.ย. 64 มีรายการโอนเงินออกต่อเนื่อง ขั้นต่ำหลักหมื่นบาท สูงสุด 420,000 บาท โดยนายนรศักดิ์ ยอมรับกับทีมข่าวว่าเงินที่มีการโอนออกดังกล่าวเป็นการโอนเพื่อช่วยเหลือครอบครัวของนางสาวชนกนันท์บางส่วน แต่บางส่วนที่มีการโอนเงินหลักหมื่น เป็นการเปย์หญิงสาวรายอื่นที่มีการเข้ามาพูดคุย

ตั้งแต่ 15 มิ.ย.-30 มิ.ย. 64 หลังจากที่นางสาวชนกนันท์ มีการขอหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน และทะเบียนบ้าน ไปทำการเปิดระบบแบงกิ้งออนไลน์ที่ธนาคาร ทำให้เจ้าตัวใช้โทรศัพท์แอบโอนเงินออก จากเดิมมียอดคงเหลือ 2,636,173.36 บาท ยอดเงินคงเหลือในบัญชีล่าสุดคือ 241.29 บาท

776862

นางสาวหล้า (นามสมมติ) อายุ 40 ปี สาวม่ายที่นายนรศักดิ์เคยมาจีบและขอคุยด้วย เปิดใจว่า ช่วงประมาณต้นปี นายนรศักดิ์ได้มาหาตนเองที่บ้าน เพราะตอนนั้นสามีของตัวเองเพิ่งเสียชีวิตไป ทางบ้านของนายนรศักดิ์มาขอเบอร์โทรศัพท์ และชวนคุยเรื่องราวต่า ๆ โดยเจ้าตัวเป็นคนขี้เหงา และโสดมานาน จะมีพฤติกรรมเวลาเจอหญิงสาวหน้าตาดีหรืออาจจะเป็นสาวแก่รุ่นเดียวกัน แต่ยังดูดีตัวของนายนรศักดิ์ก็จะเข้าไปขอคุยด้วย สิ่งที่ทุกคนเจอเหมือนกันคือมักจะมาอวดอ้างเกี่ยวกับทรัพย์สินเงินทองที่มี บอกว่ามีที่ดินหลายไร่ มีเงินเก็บในบัญชีหลักล้าน ผู้หญิงส่วนใหญ่ที่เข้าหาหรือยอมคุยกับนายนรศักดิ์ก็เป็นเพราะเรื่องของเงินส่วนใหญ่ สำหรับตนเองไม่มองถึงเรื่องเหล่านั้น แต่มองว่าตัวของนายนรศักดิ์ค่อนข้างแปลก และเป็นคนที่พูดไม่ค่อยถูกโฉลก จึงเลือกพูดคุยกับลุงตามภาษาเพื่อนบ้านกันทั่วไปเท่านั้น

ส่วนตัวตั้งข้อสังเกตว่า หลายต่อหลายครั้งที่มีผู้หญิงมากหน้าหลายตาเวียนกันมาให้ลุงจีบ ส่วนใหญ่ก็อาจจะเห็นจากโพรไฟล์หรือการพูดคุย แต่เมื่อมาดูบ้านหรือสภาพความเป็นอยู่แล้ว ผู้หญิงส่วนใหญ่อาจจะรับไม่ได้ เพราะลักษณะบ้านเป็นบ้านเก่าในสวน ไม่ได้ดูหรูหรา และเป็นบ้านเหมือนคล้ายบ้านร้างไม่น่าอยู่ ตนเองเคยไปเยี่ยมเยียน ก็ยังตกใจกับสภาพบ้านว่าลุงอยู่ได้อย่างไรมีเงินขนาดนี้ทำไมไม่ต่อเติมหรือสร้างบ้านใหม่ หรือแม้แต่ซื้อรถกระบะหรือรถเก๋งขับ ยังขี่รถมอเตอร์ไซค์คันเดิมไปรับหญิงสาว

ก่อนหน้านี้ลุงนรศักดิ์ก็มักจะขับรถมานั่งพูดคุยด้วยเป็นประจำ บางครั้งมีเรื่องราวอะไรก็มาแลกเปลี่ยนให้ฟัง ครั้งล่าสุดที่ได้มีโอกาสเจอกับลุงพูดถึงหญิงสาวคนล่าสุดคือนางสาวชนกนันท์ บอกว่าพามาอยู่ด้วยที่บ้าน แต่เมื่อพามาถึงหญิงสาวลงจากรถมอเตอร์ไซค์วิ่งเข้าไปอยู่ภายในห้องปิดประตูใส่กลอน ลุงมีเพียงแค่ออกไปซื้อข้าวซื้อน้ำมาให้ผู้หญิงกิน ผู้หญิงไม่ได้ให้แตะเนื้อต้องตัว ไม่ได้ออกมาพบพูดคุยอะไรกันมากนัก เพราะผู้หญิงมัวแต่ติดเล่นโทรศัพท์ ลุงก็ได้แต่ทำหน้าที่ซื้อข้าวซื้อน้ำมาให้ผู้หญิง โดยพฤติกรรมของลุงส่วนใหญ่ นอกจากเกิดจากความเหงาแล้ว ระยะหลังก็ไม่เห็นคบหากับใครนอกจากนางสาวชนกนันท์ จนกระทั่งมาเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น

สำหรับก่อนหน้านี้ยอมรับว่าจะมีการเปลี่ยนหญิงสาวแทบจะทุกเดือน และมักจะพาหญิงสาวเข้ามาที่บ้านหลังดังกล่าวบ่อยครั้ง แต่ก็เชื่อว่าทุกคนอาจจะอยู่ทนไม่ได้ ที่บ้านค่อนข้างโทรม และการใช้ชีวิตของลุงก็อยู่แบบเรียบง่าย เก็บผักผลไม้ หรือแม้แต่ขนมในบ้าน เอามาทำกับข้าวกิน บางวันก็จะเก็บเอาผักสวนครัวมาเดินขายให้กับเพื่อนบ้าน เงินส่วนใหญ่ที่เก็บในบัญชีมักจะหมดไปกับผู้หญิง

406672

ทีมข่าวเดินทางไปที่ตำบลประโคนชัย บ้านของนายนรศักดิ์ พบว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ปลูกสร้างอยู่อาศัยมานานแล้ว เป็นบ้านที่อยู่ติดกับถนนสายประโคนชัย-อำเภอนางรอง ถนนสายรอง มูลค่าที่ดินติดถนนส่วนใหญ่จะขายขั้นต่ำอยู่ที่ประมาณ 2 ล้านบาท และบ้านของลุงไม่มีรั้วรอบขอบชิด ทางเข้าคล้ายกับบ้านสวน มีหญ้ารกสูง

ใกล้กับบ้านของนายนรศักดิ์ มีทุ่งนาผืนกว้างประมาณ 10 ไร่ ทราบว่าเจ้าตัวมีการแบ่งขายไปแล้วบางส่วน แต่จะเหลืออีกประมาณ 9 ไร่ ที่เพิ่งถูกนางสาวชนกนันท์นำไปขายราคาถูก เพียงไร่ละ 800,000 บาท ที่ดินดังกล่าวมีลักษณะเป็นแปลงที่สวย ทำเลดี ติดกับถนนสายประโคนชัย-อำเภอนางรอง

155990

นางสาวสาวิตรี ปาละโท หรือ นก ชาวบ้านในพื้นที่ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ตนเองเห็นว่านายนรศักดิ์ มีการพาผู้หญิงคือนางสาวชนกนันท์ มาอยู่อาศัยซักระยะหนึ่งแล้ว จำได้ว่าช่วงนั้นเป็นช่วงเดือนมิถุนายน เห็นขับรถซ้อนท้ายกันไปมาผ่านหน้าร้านของตนเองเป็นประจำ โดยตัวของลักษณะหญิงสาวก็ไม่ได้สวยมากนัก แต่ก็ถือว่าเป็นคนดูดี กระทั่งนายนรศักดิ์ได้แวะมาหาที่บ้านพร้อมกับประกาศขายที่  บอกให้ราคาพิเศษตนเอง 2 ล้านบาทต่อไร่ แต่ตนเองไม่ต้องการซื้อทั้งหมด 9 ไร่ จะขอแบ่งซื้อเพียงแค่ 1 ไร่ จากนั้นตนเองก็ไปดำเนินการยื่นกู้เพื่อจะซื้อที่ดิน อยู่ระหว่างการดำเนินการ ทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้มีการตกลงซื้อขายอย่างเป็นทางการ นายนรศักดิ์กับตนเองก็มีการให้คำมั่นสัญญาในฐานะที่รู้จักกันแล้วว่าจะมีการขายให้ แต่ก็ไม่คิดว่านางสาวชนกนันท์จะมีการเอาไปขายเพียงแค่ไร่ละ 800,000 บาท อีกทั้งยังมีการไม่นำเงินดังกล่าวมาคืนให้กับลุง

นางสาวสาวิตรี เผยอีกว่า โดยนิสัยของนายนรศักดิ์เป็นคนที่ไม่มีครอบครัว ไม่มีภาระ มีทรัพย์สินเยอะ และยังมีเงินเก็บในบัญชี 1,000,000 บาท ส่วนใหญ่ก็จะหมดไปกับเปย์หญิงสาว และจำได้ว่าเมื่อประมาณ 2 เดือนก่อน ก็มีการแบ่งที่ดินจำนวน 2 งาน นำไปขายเพื่อหาเงินจำนวน 1,900,000 บาท ได้เงินจำนวนดังกล่าว นายนรศักดิ์บอกว่าจะนำไปจ่ายให้กับหญิงสาวที่กำลังคบหา แต่ไม่ใช่นางสาวชนกนันท์ และโดยนิสัยของนายนรศักดิ์เนื่องด้วยเป็นคนโสด และไม่มีครอบครัว เวลาไปเจอหญิงสาวหน้าตาดี ที่ร้านสะดวกซื้อก็จะมีการขอหมายเลขบัญชีหรือขอเบอร์โทรศัพท์ และมีการโอนเงินให้โดยเสน่หา และเมื่อเงินหมดก็จะแบ่งที่ดินหรือทรัพย์สินที่มีขาย นำเงินมาใช้ต่อแบบนี้

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส