วันที่ 2 พ.ย. 64 เกิดอุบัติเหตุเรือบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ 2 ลำ ชนกันกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วงบริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดสมุทรปราการ เจ้าหน้าที่หลายฝ่าย ทั้งตำรวจน้ำ และเจ้าท่าสมุทรปราการ เร่งเข้าตรวจสอบ และเชิญผู้เกี่ยวข้องของเรือทั้ง 2 ลำ ไปทำการสอบสวน เคราะห์ยังดีที่อุบัติเหตุครั้งนี้ไม่มีลูกเรือได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตแต่อย่างใด
สอบสวนเบื้องต้น ทราบว่าก่อนเกิดเหตุเรือทั้ง 2 ลำ แล่นสวนมาทางกันมาตามแม่น้ำเจ้าพระยา โดยทางเรือ โอ.พี.เค. 3 เดินทางออกเดินทางจากท่าเทียบเรือกรุงเทพ กำลังแล่นมุ่งหน้าไปยังท่าเรือแหลมฉบัง ส่วนเรือ เอ็น.พี.ปทุมธานี ได้ออกเดินทางจากท่าเรือแหลมฉบัง มุ่งหน้าไปยังท่าเรือคลองเตย มาถึงช่วงบริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดสมุทรปราการ
โดยเรือเอ็น.พี.ปทุมธานี ได้ชนเข้ากับกราบซ้ายของเรือ โอ.พี.เค. 3 จนทำให้เกิดรอยแตกขนาด 1x1 เมตร ลึก 2 เมตร จนเรือ โอ.พี.เค. 3 ต้องรีบน้ำเรือเข้าเกยตื้น ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ฝั่งองค์พระสมุทรเจดีย์ เพื่อเร่งระบายสูบน้ำออกจากท้องเรือ
เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ และเจ้าท่าสมุทรปราการเร่งเข้าตรวจสอบทันที พร้อมประสานชุดเก็บกู้เรือของเอกชนที่มีความชำนาญเฉพาะทางเข้ามาเก็บกู้ตู้คอนเทนเนอร์จำนวน 51 ตู้ ของเรือเรือ โอ.พี.เค. 3 และประสานขอทุ่นลอยดักน้ำมันมาล้อมเรือที่ประสบอุบัติเหตุ เพื่อป้องกันคราบน้ำมันของเรือลอยกระจายไปตามแม่น้ำเจ้าพระยา ออกสู่อ่าวไทย ในเบื้องต้นไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
ส่วนเรือเอ็น.พี.ปทุมธานี ได้รับความเสียหายเล็กน้อย บริเวณส่วนหัวเรือ ได้จอดทอดสมออยู่ห่างออกไปราว 200 เมตร ส่วนเจ้าของเรือทั้ง 2 ลำได้เข้าให้การกับทางเจ้าหน้าที่แล้ว
ทีมข่าวอมรินทร์ลงพื้นที่ศาลากลางจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเรือยังคงจมอยู่กลางแม่น้ำ เจ้าหน้าที่กำลังทยอยยกตู้คอนเทนเนอร์ออกจากเรือที่จม ทราบว่ามีตู้คอนเทนเนอร์ทั้งหมด 51 ตู้ หลังจากที่ยกตู้คอนเทนเนอร์ออกทั้งหมด และรอน้ำลด ก็จะสามารถกู้เรือที่จมขึ้นมาได้ ซึ่งคาดว่าน่าจะใช้เวลา 1-2 วัน
นายวันชัย คงเกษม อายุ 57 ปี ผู้ว่าจังหวัดสมุทรปราการ เปิดเผยว่า สถานการณ์ขณะนี้กรมเจ้าท่าได้นำเรือเครนเข้าไปยกตู้คอนเทนเนอร์ออกจากเรือที่จม ซึ่งมีตู้คอนเทนเนอร์ 51 ตู้ มีน้ำหนัก 1,100 ตัน ซึ่งถ้ายกตู้ออกได้ทั้งหมดก็จะนำให้น้ำหนักลดน้อยลง และจะสามารถกู้เรือที่จมขึ้นมาได้
จากอบุติเหตุที่เกิดขึ้นนั้น ส่งผลกระทบในการเดินเรืออย่างมาก เนื่องจากจุดที่เกิดเหตุนั้นกีดขวางทางสัญจรของเรืออื่น ๆ ซึ่งจากการประเมินสถานการณ์ เชื่อว่าถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ก็น่าจะเก็บกู้ได้เสร็จภายในวันนี้ อย่างไรก็ตาม ตนอยากฝากเรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ให้คนที่สัญจรระมัดระวังในการใช้เส้นทางการเดินเรือ เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุในอนาคต
ด้านนายนราชัย ชุมศรี อายุ 55 ปี เจ้าของเรือที่จม บริษัท โอ.พี.เค.โกลโบล โลจิสติกส์ จำกัด เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุ เรือของตนนั้นกำลังแล่นเข้ากรุงเทพฯ ซึ่งอุบัติเหตุนั้นเกิดจากช่วงที่ขับสวนกับเรือคู่กรณี อีกฝ่ายได้ขาดการติดต่อและฝืนขับเบียดเส้นทางของตน ทำให้เรือเกิดการชนและทำให้เรือตนจม ซึ่งทำให้สินค้าที่อยู่ในตู้คอนเทนเนอร์เสียหาย ซึ่งไม่สามารถประเมินได้ แต่หลัก ๆ ค่าเสียหายของเรือของตนนั้น เสียหายประมาณ 10 ล้านบาท แต่โชคดีที่ลูกเรือสละเรือทัน และไม่มีใครเสียชีวิต
หลังเกิดเหตุ เรือของคู่กรณีไม่ได้รับความเสียหายมากนัก และเขาก็ขับไปส่งของต่อ ส่วนเรือของตนได้รับความเสียหายหนัก ทำให้เรือของตนจมลงทันทีภายใน 2 ชั่วโมงหลังจากเกิดเหตุชน ตอนนี้ตนได้คุยกับบริษัทประกันภัยแล้ว จะดำเนินการเรื่องค่าเสียหายในภายหลัง
