สาวอ้างเป็นอรหันต์เครียดจัด ไม่ตายตามคำพระทำนาย "หมอปลา" จี้จับพระทำชีวิตพัง (คลิป)

กรณีนายสันติ บับภาเอก อายุ 33 ปี ได้ร้องเรียนสื่อมวลชนหลายสำนัก เนื่องจากนางสาวณัชพร อายุ 49 ปี ผู้เป็นแม่ มีความเชื่อในพิธีกรรมทางศาสนาเกี่ยวกับการละสังขาร คิดว่าตัวเองมีดวงจิต 2 ดวง ประทับอยู่ในร่าง ได้แก่ 1.พระอริยะเจ้า 2.พระลูกแก้ว และตั้งใจว่าจะละสังขารในวันที่ 30 ต.ค.64 อีกทั้งยังชักชวนในนางสาวเมย์ อายุ 19 ปี ลูกสาวต้องละสังขารในเดือน มี.ค.65 เพื่อไปด้วยกัน

ล่าสุดวันที่ 30 ต.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี รางานที่สำนักสงฆ์ซำป่าหัน ใน ต.บ้านจีต อ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี โดยเช้าวันนี้เมื่อทีมข่าวไปถึง พระสุนิตร หายตัวออกจากวัดไปพร้อมกับลูกศิษย์ เรียบร้อยแล้ว แต่โลงแก้วยังตั้งอยู่สภาพเดิม ไม่ได้เคลื่อนย้ายหรือถูกทำราย โดยที่สำนักสงฆ์เหลือเพียงโยมที่มาถือศีลเพียง 4-5 คน ทีมข่าวได้รับข้อมูลว่า พระสุนิตร ได้ออกเดินทางไปพร้อมกับโยมที่เป็นญาติประมาณ 3-4 คน ตั้งแต่ตอนเช้ามืด ก่อนออกไปก็ไม่ได้พูดอะไร ซึ่งยังไม่รู้จุดหมายว่าพระสุนิตร จะไปที่ไหน

ล่าสุดวันที่ 30 ต.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมาที่บ้านพักแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.บางน้ำจืด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เวลา 08.00 น. บรรยากาศที่ด้านหน้าหมู่บ้าน สื่อมวลชนหลายสำนักก็ยังเกาะติดที่บริเวณหน้าหมู่บ้านดังกล่าว เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของหมู่บ้านไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไป ขณะที่หน้าบ้านนายสันติ ลูกชายของนางสาวณัชพร ยังคงมีรถกระบะจอดอยู่บริเวณหน้าบ้าน

ทีมข่าวได้โทรไปสอบถามนายสันติ ลูกชาย ให้ข้อมูลว่า เหตุการณ์ยังปกติดี และยังไม่พร้อมให้สัมภาษณ์กับสื่อแต่อย่างใด ตนขอความช่วยเหลือให้ผู้สื่อข่าวติดต่อรถพยาบาลและประสานตำรวจ พร้อมกับต้องการยานอนหลับมาจำนวนที่มากพอ เนื่องจากตอนนี้แม่ของตนไม่สามารถนอนหลับเพื่อเข้าสู่นิพพานได้ และตนอยากให้แม่ไปพักดูอาการที่โรงพยาบาล และนายสันติยังให้ผู้สื่อข่าวติดต่อประสานตำรวจ ให้มาที่บ้านของเขาอีกด้วย

จากนั้นเวลาประมาณ 08.35 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ย่อยบางน้ำจืด 2 นาย ได้เดินทางมายังบ้านของนายสันติ โดยเข้าไปพูดคุยกับครอบครัวนายสันติ ในบ้านประมาณ 1 ชั่วโมง

เวลา 09.45 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย ได้ออกจากบ้านนายสันติ แล้วได้บอกกับทีมข่าวสั้น ๆ ว่า "ไม่มีอะไร นางสาวณัชพร ยังนอนอยู่ในบ้านตามปกติ" อย่างไรก็ตาม เวลา 10.12 น. ยังไม่มีรถโรงพยาบาลมาที่บ้านของนางสาวณัชพร แต่อย่างใด

เวลา 14.00 น. นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา ได้เดินทางมาที่บริเวณหน้าหมู่บ้านดังกล่าว โดยไม่ได้เข้าไปในหมู่บ้านแต่อย่างใด เนื่องจากไม่ได้รับอนุญาต จากนั้นหมอปลา จึงโทรศัพท์หานายสันติ ลูกชายของนางสาวณัชพร ซึ่งรอบแรกนายสันติไม่รับสาย จากนั้นอีกประมาณ 10 นาที นายสันติโทรกลับมาหาหมอปลา และมีการพูดคุยกับหมอปลา ดังต่อไปนี้ 

นายสันติ เล่าว่า ตอนนี้แม่ก็อยู่กับตนที่บ้าน ซึ่งแม่ไม่เป็นอะไรแล้ว แม่มีอาการผ่อนคลายได้ค่อนข้างเยอะ ซึ่งตนยังไม่พร้อมที่จะออกมาคุยกับหมอปลาที่หน้าหมู่บ้าน เนื่องจากต้องดูแลแม่อย่างใกล้ชิด ตอนนี้แม่อยากหลับ แต่ก็นอนไม่หลับ ตนต้องคอยบีบนวดให้แม่ เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก ๆ และสภาพจิตใจแม่ก็ไม่ค่อยสู้ดีนัก เพราะว่ามีสื่อมวลชนมารอที่หน่าหมู่บ้านค่อนข้างมาก โดยแม่ก็ยังมีความคิดที่จะละสังขารเหมือนเดิม แต่ตอนนี้แม่ขอเพียงแค่ให้นอนหลับ หรือนอนหลับไปเลย

หมอปลาถามนายสันติว่า พระอาจารย์สุนิตร ติดต่อมาหาแม่บ้างหรือไม่ นายสันติ ตอบกลับว่า ตนไม่ให้แม่ติดต่อกับพระสุนิตรแล้ว และไม่ให้แม่ถือโทรศัพท์ โดยให้น้องสาวเป็นคนถือโทรศัพท์ไว้ ที่ไม่ให้แม่ถือโทรศัพท์ ตนก็ได้บอกแม่ว่า ถึงใช้โทรศัพท์ติดต่อกับพระสุนิตร อาการแม่ก็ไม่สงบ ส่วนอาการของน้องสาว ตอนนี้น้องสาวก็ทำตามที่ตนบอก คือทำทุกอย่างให้แม่สบายใจไปก่อน ตอนนี้ยังไม่มีความคิดที่จะนำแม่ไปรักษาที่โรงพยาบาล ซึ่งให้ญาติ ๆ พากันดูแลแม่ไปก่อน

"ตอนนี้ผมไม่ได้รู้สึกเครียด ยังรู้สึกสบาย ๆ เพราะผมได้พูดคุยกับแม่ ได้ปลอบประโลมแม่ไปบ้างแล้ว ซึ่งแม่ก็มีจิตใจที่อ่อนลง มีเป้าหมายที่เบาลง ส่วนกรณีที่แม่โทรศัพท์ไปหานักข่าวบางสำนักนั้น เพราะแม่รู้สึกไว้ใจนักข่าวและเป็นเหมือนการโทรไปลาครั้งสุดท้าย เพราะคิดว่าจะต้องละสังขาร ผมก็รับทราบว่าพระผู้ใหญ่ต้องการให้พระสุนิตรสึก ผมก็ได้บอกแม่ว่า ถ้า 8 โมงแม่ไม่ละสังขาร พระสุนิตรเขาจะทุบโลงแก้วนะ ซึ่งแม่ก็ดูเหมือนมีสภาพจิตใจที่อ่อนลง แต่ก็ยังคงคิดเหมือนเดิมว่าจะละสังขาร ซึ่งวันนี้แม่ไม่ได้มีการกลั้นลมหายใจแล้ว" นายสันติ กล่าว 

ส่วนประเด็นที่ตนร้องขอให้สื่อมวลชนติดต่อรถโรงพยาบาลนั้น เพราะเมื่อเช้าแม่ตื่นขึ้นมาแล้วทุกอย่างไม่เป็นตามที่แม่คิด คือ แม่ไม่ละสังขาร แล้วแม่บอกว่าอยากหลับให้สนิท ตนจึงขอเรื่องสื่อให้เรียกรถโรงพยาบาล พร้อมให้พยาบาลนำยานอนหลับมาให้แม่ เพราะตอนแรกตนมีการวางแผนว่าอยากให้แม่นอนหลับ แล้วจะได้พาแม่ไปที่โรงพยาบาล แต่รถโรงพยาบาลก็ไม่มาสักที โดยวันนี้แม่ก็ทานข้าวตามปกติ และแม่ไม่มีอาการโกรธเกลียดตนอีกแล้ว โดยวันนี้ตนไม่สามารถออกมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน หรือออกไปไหนได้ เพราะต้องดูแลแม่ และก็ต้องแอบคุยโทรศัพท์ด้วย

หมอปลาถามนายสันติอีกว่า สรุปแล้ววันนี้แม่ก็จะละสังขารใช่หรือไม่ นายสันติ กล่าวว่า "ใช่ครับ" หมอปลาจึงจี้ถามอีกว่า "ก็เห็นว่าเลยเวลา 08.00 น. ซึ่งเป็นเวลาตามกำหนดมาแล้ว" นายสันติ แจ้งให่ทราบว่า เวลา 08.00 น. แม่ของตนไม่ได้ละสังขาร ตนจึงให้เวลาแม่ถึง 08.30 น. จากนั้นแม่ก็ไม่ละสังขาร แม่จึงได้ตื่นขึ้นมาแล้วบอกว่าอยากนอนหลับ และขอยานอนหลับ ตนจึงโทรบอกสื่อให้เรียกรถโรงพยาบาลและให้เอายานอนหลับมาด้วย แต่รถโรงพยาบาลก็ไม่มา กระทั่งตนได้เข้าไปคุยกับแม่ จนแม่เปลี่ยนใจไม่เอายานอนหลับ จากนั้นแม่ก็บอกให้ตนไปเอาข้าวมาให้กิน กินข้าวเสร็จแม่ก็ไปนอน แต่ก็นอนไม่หลับ จากนั้นแม่ก็เรียกให้น้องสาวขึ้นไปหาบนบ้าน เพื่อคอยคุยเผื่อแม่จะหลับ ต่อมาช่วงบ่ายแม่ได้เรียกให้ตนขึ้นไปหา ตนจึงได้เข้าไปบีบนวดเท้าให้แม่ ซึ่งแม่ก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้น

จากนั้นหมอปลาได้ถามนายสันติว่า "เห็นว่าแม่จะย้ายวันละสังขารไปวันพรุ่งนี้ใช่ไหม" นายสันติจึงตอบว่า "ไม่ได้ย้ายไปพรุ่งนี้ แต่ย้ายไปละสังขารคืนนี้แทน โดยแม่ก็ยังคงมีเป้าหมายเดิม แต่ไม่ได้บอกเวลาที่จะละสังขาร ซึ่งแม่พูดว่าคืนนี้ขอแต่ให้แม่ได้หลับ แล้วร่างกายแม่จะไปเลย แต่ไม่ใช่การฆ่าตัวตาย ซึ่งแม่ก็ได้ขอให้ผมอยู่ข้างกายตลอดเวลา"