สุดงงเด็กวัดเตะเณรอ้างสมภารสั่งคุมพระ - หนูน้อยยอมสึกดับฝันเป็นเจ้าอาวาส (คลิป)

กรณีแฟนเพจ “อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น part 1” โพสต์ภาพสามเณรวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมกับระบุว่า “เป็นผู้ใหญ่อายุก็ 30-40 เข้าไปแล้ว แต่ทำร้ายรังแกเณร อายุแค่ 14 ทำไปได้ไง กม.คุ้มครองเด็กมี #อยุธยา สงสารเณรจัง ถ้าไม่อย่างนั้นพรุ่งนี้สึกนะเณร นอนไม่หลับเลยเป็นห่วงเณรจัง เด็กวัดทำร้ายร่างกายเณร เด็กวัดอายุเยอะแต่ไม่มีความคิด แค่เรื่องของสังฆทานทำไมไม่คุยกับเณรดี ๆ มาทำร้ายร่างกายกันทำไม

เรื่องนี้จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เด็กวัดทำร้ายร่างกายเณร เด็กวัดอายุประมาณ 30-40 ปี เณร อายุ 14 ปี มันชั่วมากพี่ รู้ไหมมันพูดว่าไง ไปแจ้งเลยตำรวจ มันพอใจจะเตะแล้วใครจะทำไม มันท้าทายและกร่างมาก”

ล่าสุดวันที่ 26 ต.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางลงพื้นที่ไปยังวัดที่เกิดเหตุ ตั้งอยู่ในต.คานหาม อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา โดยพบว่าวันดังกล่าวมีพระสงฆ์จำวัดอยู่ประมาณ 20 รูป สามเณรอีกประมาณ 2-3 รูป และมีลูกศิษย์วัดอยู่อีกประมาณ 3 คน เป็นวัดขนาดใหญ่ ซึ่งขณะที่ทีมข่าวเดินทางลงพื้นที่ พระในวัดไม่ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ส่วนเจ้าอาวาสติดกิจนิมนต์ต่างพื้นที่ ยังไม่ได้เดินทางกลับ โดยวัดดังกล่าวเมื่อเข้าสู่ประตูซุ้มวัด จะมีศาลาอาคารสำหรับทำบุญ ซึ่งมีพระพุทธรูปและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ผู้ที่เดินทางมาวัดได้กราบนมัสการ และขอพร แต่มีป้ายกำกับบอกวิธีถวายสังฆทาน แต่ในขณะที่ทีมข่าวลงพื้นที่พบว่าบรรยากาศภายในวัดค่อนข้างเงียบ ไม่มีผู้คนเดินทางมาทำบุญแต่อย่างใด

ทีมข่าวตรวจสอบพบว่า หลังจากเกิดเหตุสามเณรคอม ซึ่งเป็นผู้เสียหาย เจ้าเอาวาดวัดได้ให้ลาสิกขากลับไปอยู่ที่บ้าน เพราะกลัวว่าจะเกิดเหตุรุนแรงขึ้นภายในวัดซ้ำ โดยวันนี้สามเณรคอม ได้เก็บของภายในกุฎิ และจีวรผ้าเหลืองที่ใช้ขณะบวชเป็นเณรออกจากพื้นที่วัดไปซักทำความสะอาด และนำไปตากผึ่งแดดเอาไว้ที่บ้าน ก่อนที่จะพับและนำไปคืนให้กับวัดในภายหลัง

เด็กชายคอม อายุ14ปี อดีตเณร ผู้เสียหาย กล่าวว่า เหตุการณ์ในวันดังกล่าวตนไม่ได้ขโมยสังฆทานไปโดยพลการตามที่ถูกกล่าวหา เพราะในวันนั้นตนไปนั่งอยู่ที่ศาลาถวายสังฆทานร่วมกับหลวงพ่อรูปหนึ่ง จากนั้นท่านก็อนุญาตให้นำสังฆทานไปกระจายตามกุฎิต่าง ๆ ตนจึงทำหน้าที่นำไปกระจายให้กับพระและเณรในวัด แต่เมื่อผ่านไประยะหนึ่ง นายหนึ่ง ลูกศิษย์วัดได้เข้ามาต่อว่าตน พร้อมกับส่งเสียงโวยวายไม่พอใจ ที่มีการเคลื่อนย้ายสังฆทานออกไป และยังบ่นทำนองว่าสังฆทานมีน้อย แต่ตนก็ไม่รู้ว่าเป็นการไปยุ่งเกี่ยวกับสังฆทานที่อาจเป็นหน้าที่ของนายหนึ่งรับผิดชอบหรือไม่ แต่ตนยืนยันว่าได้รับอนุญาตจากหลวงพ่อ จึงได้มีการเคลื่อนย้ายและนำไปกระจาย ไม่ได้แอบไปหยิบโดยพลการ

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ใช่ครั้งแรกที่ตนถูกนายหนึ่ง ข่มขู่และจะทำร้ายร่างกาย ก่อนหน้านี้จำได้ว่าช่วงที่เข้ามาบวช 3 เดือนก่อน ก็ถูกนายหนึ่ง ข่มขู่และหาเรื่อง โดยพูดว่า “มึงมองหน้าหา…อะไร กูเป็นลูกศิษย์วัดที่นี่ มึงควรเคารพ” และไม่ใช่เพียงแค่ 1 ครั้งที่พูดหยาบคายใส่ตน แต่ตนก็เลี่ยงที่จะไม่โต้ตอบ เพราะกลัวจะเกิดเป็นเรื่องบานปลาย

"ความฝันของผม อาศัยบวชเรียนเพราะผมไม่มีเงินเรียนสูง ๆ ครับ เพื่อหวังจะศึกษาพระธรรม หรือหากมีโอกาสก็อยากจบการศึกษาทางพุทธศาสนาที่สูงขึ้น หรือหากอนาคตเป็นจะเอาวาสวัดได้ ก็จะทำความฝันนั้นให้เป็นจริง แต่ก็ไม่คิดว่าทุกอย่างจะจบลง เพราะพฤติกรรมของลูกศิษย์วัดที่ใช้ความรุนแรงในวัด" อดีตเณร ผู้เสียหาย กล่าว 

นายหนึ่ง เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนยอมรับผิด ที่ตนทำร้ายร่างกาย แต่ไม่ได้ทำร้ายจนเลือดตกยางออก แต่เหตุผลที่ทำร้ายเณร เป็นเพราะว่าตนได้สอบถามเกี่ยวกับสังฆทานที่ถวายจากญาติโยมหายไป แต่เณรรูปดังกล่าว ไม่ยอมตอบจึงทำให้ตนเกิดความโมโห

แต่ด้วยพฤติกรรมที่ผ่านมาของเณร ตนยอมรับว่าเคยเห็นหลายครั้งแล้ว แม้ว่าจะตักเตือน แต่ก็ไม่ยอมปรับปรุงตัว ปกติตนจะทำหน้าที่นำสังฆทานมารวมกัน และกระจายไปให้พระหรือเณร แต่ในเมื่อเณรแอบหยิบไปใช้โดยที่ไม่บอกใคร จึงทำให้จำนวนของสังฆทานน้อยลง และเกิดเป็นเรื่องในวันดังกล่าว

การกระทำครั้งนี้ ตนเรียกว่าเป็นการสั่งสอนในฐานะสิทธิ์ที่ได้รับการแต่งตั้งจากเจ้าอาวาส  เพราะตนได้รับหน้าที่ให้ช่วยปกครองพระและความเรียบร้อยภายในวัด ดังนั้น ทุกอย่างในวัดตนก็ต้องจัดการตามคำสั่ง ในเมื่อเณรทำผิดหรือไม่เป็นไปตามระเบียบ ก็ต้องมีการว่ากล่าวตักเตือนและสั่งสอน ส่วนที่ตนทำร้ายร่างกายก็ได้ถูกเปรียบเทียบปรับในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น จำนวน 1,000 บาท และที่สำคัญตนก็ไม่คิดว่าเรื่องนี้จะกลายเป็นเรื่องใหญ่