แม่ค้าสาดน้ำร้อนไล่คนจรแจงถูกบุกร้านแย่งกระบวย เหยื่อเนื้อเหวอะแจ้งจับ (คลิป)

กรณีแฟนเพจเฟซบุ๊ก “Survive – สายไหมต้องรอด” ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอ ชายเร่ร่อนสวมใส่เสื้อยืดสีฟ้า นั่งโอดโอยเจ็บปวดอยู่บริเวณร้านสะดวกซื้อ บริเวณเขตสายไหม สืบเนื่องจากเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยว ภายในซอยสายไหมซอย 3 ได้สาดน้ำร้อนใส่ชายเร่ร่อนคนดังกล่าว เพราะเข้ามาขอก๋วยเตี๋ยวขณะมีลูกค้าค่อนข้างเยอะ แต่เนื่องด้วยชายเร่ร่อนไม่หลบ ทำให้น้ำร้อนลวกเป็นแผลพุพองขนาดใหญ่

โดยเบื้องต้นแฟนเพจฟบุ๊กดังกล่าว นำโดยนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ช่วย ส.ส.เขตสายไหม จะช่วยเหลือนำตัวชายเร่ร่อนรายนี้ ไปปฐมพยาบาลและรักษาเบื้องต้น และหาที่พักให้พักอยู่ชั่วคราว ในระหว่างติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 

ล่าสุดวันที่ 25 ต.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้พูดคุยกับ นายชัยญา แสงสง่า อายุ 49 ปี ชายเร่ร่อนถูกสาดน้ำร้อน เล่าให้ฟังว่า ในวันที่เกิดเหตุตนเดินไปคุยกับเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยว ซึ่งร้านก๋วยเตี๋ยวร้านนี้ ตนเคยไปขอข้าวก่อนไม่ได้บ่อยครั้ง โดยตนเพียงแค่เดินไปคุยเล่น แต่ยอมรับว่าในวันดังกล่าวตนเมาสุรา ซึ่งตนรู้จักกับเจ้าของร้านเลยเข้าไปพูดคุยทักทายตามปกติ ส่วนเหตุที่เขาสาดน้ำร้อน เนื่องจากลูกค้าภายในร้านของเขาเยอะจริง ตนก็พูดว่า “พี่ ผมขอกินก๋วยเตี๋ยวสักถ้วยได้ไหม ผมไม่มีตังค์”

จากนั้นเจ้าของร้านก็ได้ตอบว่า “ให้ไม่ได้ ถ้าไม่ไป เดี๋ยวจะเอาน้ำร้อนสาด” ส่วนเรื่องที่ตนบอกว่า “ขอใส่เลือดเยอะ ๆ และขอเลือดสาวด้วย” ตนไม่ได้พูด ขณะที่ตนเดินออกมาจากหน้าร้าน และก็เห็นว่าเจ้าของร้านเอาน้ำร้อนใส่กระบวย และเดินตามหลังมา ก่อนจะสาดน้ำร้อนใส่ตนทันที ตนยืนยันว่าไม่ได้ก่อกวน และไม่ได้พูดคุกคามสาว ๆ ภายในร้าน

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังซอยสายไหม ซอย 3 แขวงสายไหม เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร พบเป็นร้านค้าก๋วยเตี๋ยวเรือขนาดใหญ่ บริเวณรอบข้างมีร้านค้าขายอาหารหลายร้าน

ทีมข่าวพูดคุยกับน.ส.กรองกาญจน์ ลิ้มสกุล อายุ 33 ปี เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยว เปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 ต.ค.64 เวลาประมาณ 11.00 น. ลูกค้ากำลังเริ่มเข้ามายังร้านก๋วยเตี๋ยว กระทั่งชายเร่ร่อนคนดังกล่าวลักษณะมึนเมา คาดว่าอาจจะดื่มสุราหนัก เดินเข้ามายังร้านก๋วยเตี๋ยวเป็นประจำตลอดระยะเวลาประมาณ 7 ปีที่ผ่านมา โดยทุกครั้งที่เข้ามานั้นมักจะเข้ามาขอข้าว น้ำ ตนไม่เคยปฏิเสธแม้แต่ครั้งเดียว ขอทานข้าวก็ให้ข้าวรับประทาน ขอน้ำดื่มก็ให้น้ำดื่ม

แต่ในแฟนเพจเฟซบุ๊กสายไหมต้องรอด โพสต์เรื่องราวนั้น ตนมองว่าไม่เป็นความจริง ในวันเกิดเหตุตรงกับวันที่ 24 ต.ค.64 เวลา 11.00 น. ชายเร่ร่อนเดินเมาโซเซมาที่ร้าน อีกทั้งไม่สวมใส่หน้ากากอนามัย ตนก็ไล่เขาว่า “อย่ามากวน อย่ามาวุ่นวาย คนกำลังจะทำมาหากิน” ก่อนจะขู่ว่าจะเอาน้ำร้อนสาด เมื่อตักน้ำร้อนขู่เขาก็วิ่งหนี เพียงระยะเวลาประมาณ 3 นาที เขาก็วิ่งกลับมาใหม่ และขณะเดียวกันมีลูกค้าผู้ใหญ่เข้ามาที่ร้าน ชายเรร่อนคนดังกล่าวก็พูดแซวหญิงสาว “ขอเลือดข้น ๆ ขอเลือดสาวด้วยนะ” และพยายามจะยียวนกวนอารมณ์

ทั้งนี้ ตนจึงตักน้ำร้อนใส่กระบวย ก่อนจะพูดว่า “มึงจะไปไม่ไป กูจะทำมาหากิน กูจะค้าขาย” เมื่อชายเร่ร่อนยังคงไม่ออกไปจากหน้าร้าน และพยายามที่จะแย่งกระบวยใส่น้ำร้อนที่ตนถือ ตนจึงได้สาดใส่ก่อนที่จะเข้ามาประชิดตัว หลังจากสาดน้ำชายเร่ร่อนก็ได้วิ่งออกไปจากหน้าร้าน

อย่างไรก็ตาม ชายเร่ร่อนคนดังกล่าวยังมีพฤติกรรมขอเงินคนอื่น ๆ ตามข้างทาง เคยมาขอที่ร้านตนด้วย เพียงแต่ตนไม่ให้เข้าร้าน ส่วนใหญ่ก็จะอยู่หน้าร้าน ตนยังไม่เคยเห็นว่าชายเร่ร่อนทำร้ายร่างกายใคร แต่มักจะไปก่อกวนคนอื่น แล้วชาวบ้านทำร้ายร่างกายบ้าง โดนตีบ้าง ถ้าสังเกตดี ๆ บริเวณใบหน้าจะปูดบวม เนื่องจากไปก่อกวนชาวบ้านมากมายเมื่อดื่มสุรามึนเมา ตนยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ชายเร่ร่อนไม่ได้มาขอข้าวกิน เพียงแค่เดินมาก่อกวนลูกค้า และสร้างความรำคาญ ตนยอมรับถ้ามาขอข้าวกิน ตนก็ให้เป็นประจำทุกครั้ง ไม่เคยปฏิเสธ

นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ช่วย ส.ส.เขตสายไหม กล่าวว่า ทางเพจสายไหมต้องรอดได้รับแจ้งจากพลเมืองดี พบว่านายชัยญา แสงสง่า ชายเร่ร่อนไม่มีบ้านเป็นหลักแหล่ง โดยมีชาวบ้านแถวชายคลองให้ที่พักพิงพักอาศัย และเขาได้รับบาดเจ็บจากการโดนน้ำร้อนสาดใส่บริเวณช่วงลำตัวข้างขวา มีแผลพุพอง ทั้งนี้ ตนอยากฝากถึงเจ้าของร้านค้าว่าไม่ว่าด้วยเหตุใดก็แล้วแต่ อาจจะก่อกวนหรืออย่างไร อยากให้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาไกล่เกลี่ย ไม่ควรนำน้ำร้อนไปราดผู้อื่น คนไม่ใช่สัตว์ ถึงแม้สัตว์ยังมีกฎหมายคุ้มครอง ถือว่าไม่ควรทำอย่างยิ่ง

นอกจากนี้ ตนจะหาแนวทางเพื่อที่จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ไม่อยากให้ใช้วิธีการเช่นนี้ ไม่ว่ากับใครก็ตาม บ้านเมืองของเรานั้นมีกฎหมาย ตนยืนยันจะดำเนินคดีเอาผิดคนที่ทำร้ายร่างกายชายเร่ร่อนคนดังกล่าว ในวันพรุ่งนี้ (26 ต.ค.64) ตนจะพานายชัยญา เดินทางเข้าแจ้งความกับสน.สายไหม ในข้อหาทำร้ายร่างกาย โดยจะให้เป็นกรณีตัวอย่างที่ไม่ควรเห็นคนเร่ร่อน หรือคนที่พูดจาไม่รู้เรื่องแล้วไปก่อเหตุทำร้ายร่างกายเขา หลังจากดำเนินแจ้งความแล้วเสร็จ จะประสานติดต่อกับหน่วยงานที่สามารถให้ความช่วยเหลือได้ เช่น กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อให้เข้าช่วยเหลือต่อไป