หนุ่มคว้ามีดปาดคอประชดเมียคบ 18 ปีขอเลิก สาวรับสุดทนกินเหล้าผลาญเงินแสน ลั่นตัดขาด (คลิป)

เมื่อวันที่ 24 ต.ค.64 เวลา 13.00 น. ที่ตลาดนัดสี่มุมเมือง ภายในร้านขายแตงกว่าร้านหนึ่ง โซนตลาดผัก ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังเกลี้ยกล่อมชายวัยกลางคนรายหนึ่ง กำลังใช้มีดทำครัว ยาวประมาณ 30 ซม. จี้คอตัวเอง ก่อนจะปาดคอ 4-5 ครั้ง จนเลือดไหล 

ล่าสุดทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ และมีโอกาสได้คุยกับ นางคราม (นามสมมติ) อายุ 48 ปี แม่ค้าขายแมลงทอด เปิดเผยว่า ชายที่ก่อเหตุปาดคอตัวเอง เป็นชาวกัมพูชา และเป็นสามีของลูกจ้างสาวร้านแตงกวาสัญชาติเดียวกัน เขา 2 คนมีลูกด้วยกัน 2 คน แต่ช่วงที่ผ่านมาทั้งคู่มีปัญหากันเป็นประจำ โดยเฉพาะฝ่ายสามีที่มักจะกินเหล้า ไม่ทำงานทำการ ทำให้ภรรยาไม่พอใจ พยายามตีตัวออกห่าง และตัดสินใจเลิกรากันไปเมื่อประมาณ 7 เดือนที่ผ่านมา

แต่ตลอดระยะเวลาดังกล่าว ฝ่ายชายก็ยังคงตามมาง้อภรรยาเป็นประจำ บางวันก็มาเดินวนไปวนมาอยู่ในตลาดในสภาพมึนเมา พูดจาเสียงดังจนทุกคนรำคาญ แต่ครั้งนี้ตนถือว่าหนักสุดเท่าที่ตนเห็น เพราะทำร่างกายตัวเอง ตนจึงเชื่อว่าเป็นการเรียกร้องความสนใจ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตลาด พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัย ก็ได้พาตัวไปทำแผลที่โรงพยาบาล ก่อนปล่อยกลับบ้านไป ส่วนฝ่ายหญิงหลังเกิดเหตุตนก็มีโอกาสได้พูดคุยกัน เขายืนยันว่าต่อให้สามีปาดคอจนเลือดสาดก็จะไม่ยอมคืนดี ถ้าไม่ปรับปรุงตัว ซึ่งจากเหตุที่เกิดขึ้น ตนยอมรับว่าสงสารทั้งคู่ แต่ในขณะเดียวกันถ้าตนเป็นภรรยา ก็คงไม่กลับไปคืนดี และคงเลิกขาดไปนานแล้ว

นางพิกุล (นามสมมติ) อายุ 34 ปี ภรรยาผู้ก่อเหตุ และเป็นลูกจ้างร้านขายแตงกวา เปิดเผยว่า ชายในคลิปคือสามีของตนจริง อายุ 35 ปี แต่งงานกันมา 18 ปีแล้ว และมีลูกด้วยกัน 2 คน กำลังเรียนทั้งคู่ คนโตเป็นผู้ชายอายุ 16 ปี คนเล็กเป็นผู้หญิงอายุ 13 ปี โดยครอบครัวตนย้ายมาจากประเทศกัมพูชา เพื่อมาทำงานอยู่ที่ไทยได้ 7-8 ปีแล้ว เดิมทีสามีตนทำงานรับจ้างเฝ้าร้านขายเสื้อผ้ามือสองอยู่แถวลาดพร้าว กทม. แต่พอมีสถานการณ์โควิด-19 ช่วง 2 ปีให้หลัง สามีก็ตกงาน ไม่มีงานทำ และเริ่มหันมากินเหล้าบ่อยขึ้น ส่วนตัวก็ทำงานอยู่ที่ตลาดสี่มุมเมืองและพักอยู่กับลูกในละแวกนี้มาตั้งแต่แรก โดยสามีจะมาหาสัปดาห์ละ 3 วัน

แต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา สามีเริ่มเครียดหนัก ไม่มีงาน ไม่มีเงิน ก็เลยดื่มเหล้าหนักขึ้น ตนก็พยายามบอกให้เลิกดื่ม แล้วเอาเวลาออกไปหางานหลายครั้ง สามีก็ไม่ฟัง แถมยังหนักขึ้น ถึงขั้นเอาเงินเก็บของครอบครัว 1 แสนบาท ไปกินเหล้า ไปเล่นการพนัน จนเกือบหมด ตนจึงบอกว่า หลังจากนี้หากไม่ปรับตัว แล้วเงินก้อนนี้หมด ก็ต่างคนต่างอยู่ เลิกกันไปเลยให้จบ ๆ และสุดท้ายมันก็หมดจริง ๆ จึงมีปัญหาทะเลาะกันอยู่บ่อย ๆ ตนก็ให้โอกาสมาตลอดเหมือนกัน เรียกง่าย ๆ ว่าไม่รู้กี่พันครั้งแล้ว จนกระทั่งเมื่อ 6-7 เดือนก่อน ตนรู้สึกหมดความอดทน ก็เลยขอแยกทาง ต่างคนต่างอยู่ 

"ตลอด 6-7 เดือนที่ผ่านมา มันก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง เขาทำในสิ่งที่เราขอไม่ได้ ซ้ำยังไม่เคยดูแลส่งเสียลูกทั้ง 2 คน ปล่อยให้เราทำงานรับผิดชอบแค่คนเดียวตลอด แล้วทุกครั้งที่เขาเมา เขาจะมารบกวนที่ร้าน ที่หอพัก จนพ่อค้าแม่ค้าคนอื่น ๆ ระอา และบางครั้งเวลาไปส่งลูกที่โรงเรียนก็เมา ทำให้ลูกอับอาย" นางพิกุล กล่าว 

อย่างเมื่อปี 2562 ตอนที่อยู่ด้วยกัน แล้วพอเขาเมา แล้วมีปัญหากัน เขาก็เอาขวดเบียร์ฟาดศีรษะตัวเอง และเมื่อปี 2563 ใช้มีดกรีดข้อมือตัวเอง ซึ่งตนรู้ดีว่าพฤติกรรมที่เขาทำ เป็นเพียงแค่การเรียกร้องความสนใจ ไม่ได้ทำให้ถึงแก่ชีวิต

อย่างไรก็ดี ตนยืนยันว่าขณะนี้ยังให้โอกาสสามีกลับไปแก้ตัว หางานทำเป็นเรื่องเป็นราว หากสามารถทำได้ก็ค่อยมาคุยกันใหม่ ตนรับปากว่าจะไม่กำหนดช่วงเวลา และจะไม่ไปมีคนอื่นด้วย เพราะตนก็ยังรักและสงสารลูก