เมื่อเวลาประมาณ 17.30 น. ของวันที่ 21 ต.ค. 64 เกิดเหตุคนร้ายเมายาบ้าคุ้มคลั่งไล่ทำร้ายประชาชน บริเวณหน้าอู่ซ่อมรถอุดมเซอร์วิส ใกล้ปากทางเข้าหมู่บ้านศรีบุรินทร์ ถนนอภัยบริรักษ์ ต.คูหาสวรรค์ อ.เมือง จ.พัทลุง
ภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพชายชกรรณ์ ทราบชื่อ นายพงษ์พันธ์ อุทัยทัศน์ อายุ 36 ปี ตัวสูงใหญ่ ไม่สวมเสื้อและรองเท้า สวมเพียงกางเกงสีน้ำเงิน ในมือถือมีดปอกผลไม้ยาว 24 ซม. ไล่ฟันชาวบ้าน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยชาวบ้านหลายคนต่างพากันวิ่งหนีเอาตัวรอด ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามระงับเหตุต่อสู้กับคนร้าย
โดยมีตำรวจ 1 นาย คือ ร.ต.ต.สายัญ สุทธิดาจันทร์ รอง สว.(ป.) สภ.เมืองพัทลุง วิ่งตามจับคนร้าย แต่ถูกคนร้ายทำร้าย และแทงที่แขนซ้ายล้มลงกับพื้น และพยายามลุกขึ้นมาเอาตัวรอด ขณะนั้นคนร้ายกำลังจะมาแทงซ้ำ แต่ตำรวจคู้บัดดี้คือ ดาบตำรวจเสรี หนูสังเวช ผู้บังคับหมู่ป้องกันปราบปราม สภ.เมืองพัทลุง ที่วิ่งตามมายิงระงับเหตุ กระสุนถูกที่สะโพกทะลุไปที่ขาซ้ายของคนร้าย ทำให้คนร้ายได้รับบาดเจ็บ และหยุดก่อเหตุได้
ล่าสุด ร.ต.ต.สายัญ เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลพัทลุง และออกมาพักฟื้นที่บ้านพักแล้ว ส่วนผู้ก่อเหตุนายพงษ์พันธ์ อุทัยทัศน์ ยังรักษาอาการที่โรงพยาบาลพัทลุง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาพยายามฆ่าเจ้าพนักงานที่กระทำตามหน้าที่ ตอนนี้อยู่ระหว่างการตรวจหาสารเสพติดในตัวผู้ก่อเหตุ เพื่อดำเนินคดีเพิ่มเติมต่อไป
วันที่ 22 ต.ค. 64 ทีมข่าวลงพื้นที่เกิดเหตุ อู่ซ่อมรถอุดมเซอร์วิส เลขที่ 247 ใกล้ปากทางเข้าหมู่บ้านศรีบุรินทร์ ใกล้ทางแยกถนนอภัยบริรักษ์ ต.คูหาสวรรค์ อ.เมือง จ.พัทลุง ยังมีคราบเลือดของผู้ก่อเหตุไล่ฟันชาวบ้าน แล้วถูกตำรวจยิงระงับเหตุ และพบบังรดน้ำพลาสติกสีฟ้า ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ป้อนกันตัว
ดาบตำรวจเสรี หนูสังเวช ผู้บังคับหมู่ป้องกันปราบปราม สภ.เมืองพัทลุง เล่าว่า วันเกิดเหตุตนได้รับแจ้งเหตุมีชายฉกรรจ์คลั่งทำร้ายแม่ จึงรีบไปที่จุดเกิดเหตุถนนอภัยบริรักษ์ พบผู้ก่อเหตุนั่งอยู่หน้าบ้าน ก้มหน้า ถามอะไรไม่ตอบ ตอนนั้นตำรวจทั้ง 2 คนไม่กล้าเข้าไปชาร์จตัวหรือทำอะไร รอเจ้าหน้าที่หน่วยเสริมนำอุปกรณ์ ทั้งโล่ป้องกันและปืนช็อตไฟฟ้ามาระงับเหตุ แต่ระหว่างรอเจ้าหน้าที่อีกหน่วยหนึ่ง มีชาวบ้านคาดว่าเป็นญาติของผู้ก่อเหตุเดินเข้ามามุงดู ผู้ก่อเหตุเริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้ คลั่งจำครอบครัวและญาติตัวเองไม่ได้ เอามีดที่แอบไว้ข้างกายวิ่งไล่แทง ชาวบ้านต่างคนต่างหนีเอาตัวรอด
ส่วนตนกำลังจะวิ่งไปชาร์จคนร้าย แต่คนร้ายหันกลับย้อนไปหาร้อยตำรวจตรีสายัณห์ ใช้มีดจ้วงแทง 1 ครั้ง ตอนนั้นร้อยตำรวจตรีสายัณห์ก็ล้มลงที่แปลงผักหน้าอู่ซ่อมรถ จากนั้นก็เห็นว่าคนร้ายจะจ้วงแทงอีก จึงคิดว่าต้องใช้ปืนเพื่อระงับเหตุแล้ว เพราะกลัวอันตรายเกิดขึ้นกับร้อยตำรวจตรีสายัณห์ เนื่องจากมีอายุมาก จึงหาจังหวะที่ผู้ก่อเหตุออกห่างจากร้อยตำรวจตรีสายัณห์ คือตอนที่ผู้ก่อเหตุใช้เท้าถีบร้อยตำรวจตรีสายัณห์ ตอนนั้นก็ชักปืนยิงทันที โดยตั้งใจยิงบริเวณขา กระสุนถูกผู้ก่อเหตุบริเวณขาซ้าย
ตนยืนยันกับทีมข่าวว่าไม่ต้องการให้ผู้ก่อเหตุได้รับอันตรายร้ายแรง แต่จังหวะนั้นเป็นห่วงร้อยตำรวจตรีสายัณห์ บัดดี้คู่กับตน เพราะ ล้มลงแล้วมีโอกาสสูงมากที่คนร้ายจะจ้วงแทงยังจุดที่สำคัญ และเป็นห่วงประชาชนในละแวกนั้น เพราะผู้ก่อเหตุตัวสูงใหญ่ วิ่งเร็ว และไล่แทงคนอื่นไปทั่ว
นางพวงทิพย์ อุทัยทัศน์ อายุ 65 ปี แม่คนห่อเหตุ เล่าว่า ในวันเกิดเหตุลูกชายมีอาการลงแดง จากการพยายามเลิกยาเสพติด ก่อนเกิดเหตุได้ขังตัวเองอยู่ในห้องน้ำเป็นชั่วโมง เอาผ้าชุบน้ำโป๊ะศีรษะ ขอให้น้องสาวผัดข้าวให้กิน น้องสาวของผู้ก่อเหตุยังเล่าให้แม่ฟังว่าพี่เอสมือไม้สั่นไปหมด เสร็จแล้วก็ไปนอนตากแดดข้างบ้าน แม่ก็เลยไปเรียกดู ผู้ก่อเหตุก็โบกมือไล่แม่ให้ออกไป จากนั้นก็วิ่งมาเตะแม่ที่แขนข้างขวา แม่ของผู้ก่อเหตุจึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาควบคุมตัว แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมายิ่งทำให้ผู้ก่อเหตุเกิดอาการคลั่ง วิ่งเอามีดจากในบ้านไล่แทงชาวบ้าน ตอนนั้นทั้งน้องชายผู้ก่อเหตุน้องสาวผู้ก่อเหตุก็ช่วยกันวิ่งไล่สกัด ผู้ก่อเหตุไม่ให้ทำอันตรายกับผู้อื่น แต่สุดท้ายก็แทงเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ จนเจ้าหน้าที่ต้องใช้ปืนยิงลูกชายแม่ เพื่อให้เหตุการยุติ ตอนนี้ตนอยากให้เอาไปบำบัด
ก่อนหน้านี้ลูกชายเคยคลั่งเดินถือมีดที่สนามกีฬาจังหวัดสงขลา จึงโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจจับตัวนำไปบำบัด 6 เดือน พอออกมาไม่นาน เมื่อต้นปี 2564 ก็ถูกเจ้าหน้าที่จับนำไปบำบัดอีกที่สถานบำบัดในจังหวัดพัทลุง อีก 3 เดือน และกลับมาอยู่บ้านได้ 5 เดือนแล้ว ก็มาก่อเหตุล่าสุด