ฆาตกรฆ่า 3 ศพเปิดปากแค้นคนหยามขี้คุก รับพลั้งมือยิง เพื่อนซวยถูกกระสุนตายแทน (คลิป)

จากกรณีวันที่ 20 ต.ค. 64 เวลาประมาณ 11.40 น. เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี บางสวรรค์ ได้รับแจ้งเหตุมีผู้บาดเจ็บ ถูกยิงด้วยอาวุธปืน บาดเจ็บ 2 ราย ภายในพื้นที่ ต.บางสวรรค์ อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี

โดยนายธวัชชัย สุขหนู อายุ 31 ปี เสียชีวิตในเวลาต่อมา ถูกยิงกลางหลัง 2-3 นัด เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลพระแสง รายที่ 2 นายสิทธิพร ติ้วต้ง อายุ 31 ปี ผู้บาดเจ็บ คนก่อเหตุทราบชื่อคือนายพีรวิชญ์ บางรักษ์ อายุ 31 ปี ทั้ง 3 คน เป็นเพื่อนกัน

ล่าสุด วันที่ 21 ต.ค. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยัง สภ.บางสวรรค์ ซึ่งเจ้าหน้าที่มีการสอบปากคำอีกครั้ง นำโดย พ.ต.อ.สมบัติ ฉ่ำแสง รอง ผบก.ภ.วจ.สุราษฎร์ธานี จากนั้นได้มีการนำตัวนายพีรวิชญ์ ผู้ต้องหา ไปชี้จุดทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

ซึ่งทีมข่าวได้มีโอกาสได้พูดคุยกับนายพีรวิชญ์ บางรักษ์ ผู้ต้องหา บอกปมสาเหตุการยิงว่า ถูกนายสิทธิพร ผู้บาดเจ็บ พูดจาดูถูกเหยียดหยาม และเอาตนไปเปรียบเทียบว่าเป็นคนขี้คุก ทั้งตระกูลตนมีแค่ตนคนเดียวที่ไม่เอาไหน

เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไปที่จุดแรก ครัวหลังบ้านของนายธวัชชัย ผู้เสียชีวิต ซึ่งไม่มีชาวบ้านหรือญาติเข้ามาดูการทำแผนฯ โดยนายพีรวิชญ์ ผู้ต้องหา บอกว่า ตนหลังที่เพิ่งพ้นโทษมาวันที่ 16 ต.ค.64 ปู่เสียพอดี แล้วก็มีญาติเดินทางมาต่างถิ่นกันเยอะ ตนก็รู้สึกน้อยใจ ไม่มีคนสนใจ เลยอยากหลบหน้าหลบตา จึงเดินทางมาที่บ้านของนายธวัชชัย ผู้เสียชีวิต กับอดีตแฟนสาว โดยมาขอนายธวัชชัย ผู้เสียชีวิต อาศัยอยู่ด้วย 1 คืน หลังเสร็จงานศพจะกลับไปอยู่บ้านตัวเองเหมือนเดิม

ซึ่งหลังจากนั้น นายสิทธิพร ผู้บาดเจ็บ ก็มาหานายธวัชชัย ผู้เสียชีวิตพอดี ก็เข้ามาทักทายและนั่งพูดคุยกัน แต่นายสิทธิพร ผู้บาดเจ็บพูดทักทายประมาณว่าตนเพิ่งออกจากคุกมานานแล้วหรอ คนอื่นเขาได้ดีไปถึงไหนแล้ว อย่างตัวของนายสิทธิพร ผู้บาดเจ็บก็เป็นทหาร พร้อมกับเอาปืนมาวางบนโต๊ะอาหาร บอกว่า "ชีวิตมึงตอนนี้เหมือนกับหมาข้างถนน ขนาดญาติยังไม่สนใจเลย นามสกุลบางรักษ์ของมึง เอาไปประดับนามสกุลคงไม่เหมาะ ควรเอาไปแกะสลักเป็นลายที่รองเท้าแตะช้างดาว"

ตนจึงรู้สึกโกรธโมโหหยิบปืนของปู่ที่เหน็บไว้ข้างเอว ยิงนายสิทธิพร ผู้บาดเจ็บก่อน จากนั้นนายธวัชชัย ผู้เสียชีวิต คว้าปืนของนายสิทธิพร ตนก็คิดว่านายธวัชชัยจะยิงตัวเองเลยชิงยิงนายธวัชชัยก่อน แล้ววิ่งหลบหนีไป "ตนอยากจะขอโทษญาติผู้เสียชีวิต ตนเสียใจที่ยิงนายธวัชชัย เพราะนายธวัชชัยเป็นเพื่อน ส่วนนายสิทธิพรนั้นเขาดูถูกเหยียดหยามตนเกินไป ใครจะอดทนได้"

จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจพาตัวไปยังจุดที่มีการทิ้งปืน จุดที่ 2 อยู่ในพื้นที่หมู่ 3 ต.บางสวรรค์ อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี เป็นลักษณะยุ้งข้าวเก่ารกร้าง โดยหลังเกิดเหตุนายพีรวิชญ์ ผู้ต้องหา โบกรถชาวบ้านให้มาส่ง แล้วก็เอาปืนมาทิ้งทั้ง 2 กระบอก ซึ่งเป็นปืนของตน 1 กระบอก อีกกระบอกเป็นของนายสิทธิพร ผู้บาดเจ็บ ในขณะที่ชี้จุดทิ้งปืน นายพีรวิชญ์ ผู้ต้องหา ก็พูดออกมาว่า "ใจผมไม่ได้อยากฆ่าใครให้ตาย ถ้าเขาไม่พูดกับผมแบบนั้น ผมก็คงไม่ยิง"

ทีมข่าวเดินทางไปยังศาลาเอนกประสงค์ประจำหมู่บ้านช่องช้าง ต.พรุพี อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี ภายในอาคารถูกจัดงานศพของนายธวัชชัย สุขหนู ผู้เสียชีวิต บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้าเสียใจ

นางสาวประเทือง เมืองแทน อายุ 40 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต บอกว่า ตนก็เป็นอีกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ ก่อนวันเกิดเหตุ 1 วัน นายพีรวิชญ์ ผู้ต้องหา มาขอนอนที่บ้าน เพราะผู้เสียชีวิตมีศักดิ์เป็นตา-หลานกัน ช่วงเวลาเกินเหตุตนเป็นคนไปซื้อข้าวเหนียวหมูมาให้นายพีรวิชญ์ ผู้ต้องหา ซึ่งก็นั่งกินที่โต๊ะกับข้าวหลังครัวปกติ ขณะนั้นนายธวัชชัยผู้เสียชีวิตเพิ่งตื่นนอน เลยจะชักชวนไปนั่งกินที่งานศพของปู่ด้วยกัน แต่นายสิทธิพร ผู้บาดเจ็บกลับจากค่ายทหาร แล้วซื้อเสื้อมาฝากตนกับนายธวัชชัยเพราะเป็นเพื่อนสนิทกัน

แต่นายพีรวิชญ์ ผู้ต้องหามองตานายสิทธิพรผู้บาดเจ็บขวาง เริ่มมีอาการสั่นกลัว เพราะเห็นปืนของนายสิทธิพร ผู้บาดเจ็บที่พกมาด้วย ด้านนายธวัชชัย ผู้เสียชีวิตก็บอกไปกับนายพีรวิชญ์ ผู้ต้องหา ว่าไม่มีอะไร ไม่มีใครทำอะไร คนกันเองทั้งนั้น จากนั้นนายสิทธิพร ผู้บาดเจ็บจึงเอาปืนมาวางที่โต๊ะ โดยแกะแม็กลูกปืนออกให้ดู เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ

จากนั้น นายพีรวิชญ์ผู้ต้องหาก็ชักปืนจากเอวยิงนายนายสิทธิพร ผู้บาดเจ็บ นายธวัชชัย ผู้เสียชีวิต ก็พูดว่าให้ผู้ต้องหาใจเย็น แต่ไม่เป็นผล นายพีรวิชญ์ ผู้ต้องหาก็ยิงสามีตัวเองด้วย ด้วยความตกใจตนจึงรีบวิ่งหนีเข้าไปหลบในห้องนอน จากนั้นก็ได้ยินเสียงปืนอีก 3-4 นัด จนกระทั่งนายพีรวิชญ์หนีไป ตนจึงรีบวิ่งมาดูอาการนายธวัชชัยที่โดนยิงทะลุแขนเข้าที่หัว ซึ่งก็ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตที่โรงพยาบาล

สภาพจิตใจของตนขณะนี้อยู่ในความเสียใจ กะทันหันมาก ซึ่งก่อนหน้านี้เขาก็ไม่เคยมีปัญหากัน ทุกคนรักและหวังดีกับนายพีรวิชญ์หมด ก็ไม่คิดว่าเขาจะมาก่อเหตุฆ่าคนซ้ำ ส่วนตัวไม่อยากให้มารับผิดชอบ เพราะสามีตนเสียชีวิตไปแล้ว และยังไม่พร้อมที่จะพูดคุยกับญาติคนก่อเหตุ หลังทราบว่าถูกฝากขังศาลแล้วก็รู้สึกเบาใจ ไม่อยากให้นายพีรวิชญ์พ้นคุก อยากให้สามีตนเป็นศพสุดท้าย