ศาลอุทธรณ์ สั่งจำคุก 8 เดือน "สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม" กปปส.ขวางเลือกตั้ง

20 ต.ค. 64

ศาลอุทธรณ์ พิพากษากลับ สั่งจำคุก 8 เดือน "สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม" คดี กปปส.ขวางเลือกตั้ง "เสรี - สมบัติ - สกลธี" ยกฟ้อง

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 20 ตุลาคม 2564 ที่ ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นายเสรี วงศ์มณฑา นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชนและการตลาด นายสกลธี ภัททิยกุล อดีต ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ , นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อดีตอธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และอดีตประธานคณะกรรมาธิการปฏิรูปการเมือง และสภาปฏิรูปการเมือง (สปช.) และ นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม แกนนำ กปปส. ผู้บริหารท็อปนิวส์ ได้เดินทางมาศาล เพื่อฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีขัดขวางการเลือกตั้ง

ศาลอุทธรณ์อ่านคำพิพากษาในคดี กปปส. ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม อายุ 59 ปี แกนนำ กปปส., นายสกลธี ภัททิยกุลอายุ 44 ปี อดีต ส.ส.กทม., นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อายุ 70 ปี อดีตอธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และอดีตประธานคณะกรรมาธิการปฏิรูปการเมือง และสภาปฏิรูปการเมือง (สปช.) และ นายเสรี วงศ์มณฑา อายุ 72ปี นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชนและการตลาด เป็นจำเลยที่ 1- 4 ในความผิดฐานร่วมกันเป็นกบฏ, กระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หรือวิธีอื่นใดที่ไม่ใช่การกระทำในความมุ่งหมายตามรัฐธรรมนูญเพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือความไม่สงบในราชอาณาจักรฯ, อั้งยี่, ซ่องโจร, มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้ายให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองโดยมีอาวุธ โดยเป็นหัวหน้าหรือเป็นผู้มีหน้าที่สั่งการ, เจ้าพนักงานสั่งให้เลิกการกระทำนั้นแต่ไม่เลิก, ยุยงให้ร่วมกันหยุดงาน การร่วมกันปิดงานงดจ้างเพื่อบังคับรัฐบาล, ร่วมกันบุกรุก ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 113 , 116, 117, 209, 210, 215, 362, 364, 365 และร่วมกันขัดขวางเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง, ร่วมกันขัดขวางการปฏิบัติงานของ กกต. ความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และการได้มา ซึ่ง ส.ว. พ.ศ. 2550 มาตรา 76 ,152 รวม 8 ข้อหา

โดยคดีสำนวนแรกนี้ อัยการยื่นฟ้อง ตั้งแต่ปี 2557 จำเลยทั้ง 4 รายให้การปฏิเสธทุกข้อหาพร้อมตั้งทนายความสู้คดี ระหว่างพิจารณาคดีจำเลยทั้งสี่ก็ได้รับการปล่อยชั่วคราว ซึ่งคดีเริ่มสืบพยานตั้งแต่ปี 2558-2562

คดีนี้ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาเมื่อวันที่ 25 ก.ค.62 พิพากษายกฟ้องโดยพิเคราะห์พยานหลักฐานที่โจทก์-จำเลย นำสืบหักล้างกันแล้ว เห็นว่า พยานหลักฐานที่อัยการโจทก์นำสืบมารับฟังได้เพียงว่าจำเลยทั้ง 4 รายได้เข้าร่วมชุมนุมกับ กปปส. แต่ไม่ได้เป็นแกนนำที่สั่งการผู้ชุมนุมหรือขึ้นปราศรัยสั่งการให้กระทำการรุนแรง โดยการชุมนุมของ กปปส.ศาลรัฐธรรมนูญก็ได้วินิจฉัยไว้แล้วในคำวินิจฉัยที่ 59/2556 ว่าการชุมนุมของ กปปส. สืบเนื่องมาจากการแสดงความคิดเห็น เป็นสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญฯ มาตรา 63 ซึ่งสืบเนื่องจากเหตุที่คัดค้านการออกร่างกฎหมายนิรโทษกรรมและไม่พอใจการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบมาจึงยังไม่พอฟังได้ว่าจำเลยทั้งสี่ได้กระทำความผิดตามฟ้องทั้ง 8 ข้อหา จึงพิพากษายกฟ้อง

หลังจากการพิจารณาคดีวันนี้ ศาลอุทธรณ์ตัดสินจำคุกนายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม จำเลยที่ 1 เป็นระยะเวลา 1 ปี แต่เนื่องจากจำเลยให้การเป็นประโยชน์ จึงลดโทษเหลือ 8 เดือน ไม่รอลงอาญา พร้อมเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี

ทนายฝ่ายจำเลยได้เตรียมหลักทรัพย์เป็นเงินสด 100,000 บาท ยื่นขอประกันตัวนายสนธิญาณ ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลว่าจะอนุญาติให้ปล่อยตัวชั่วคราวหรือไม่

ส่วนนายสกลธี ภัททิยกุล, นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์, นายเสรี วงศ์มณฑา จำเลยที่ 2-4 ศาลยกฟ้อง เนื่องจากพยานหลักฐานไม่เพียงพอ

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ