กรณีพ.ต.อ.ยุทธนา งามชัด ผกก.สภ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น พร้อมพนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน คุมตัวนายศุภชัย ใจเย็น อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 108 ม.11 ต.กุดเค้า อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ผู้ต้องหาก่อเหตุลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ภายในรีสอร์ตของนายพรชัย เค้าแก้น นักกีฬาเซปักตะกร้อทีมชาติไทย มาชี้จุดประกอบคำรับสารภาพ
หลังจากที่ได้ลงมือก่อเหตุ ขโมยทรัพย์สินในรถเก๋งของผู้เช่าอาศัยภายในห้องเช่าแห่งหนึ่ง โดยได้เงินไปประมาณ 200 บาท พร้อมทั้งล็อกแม่กุญแจประตูหน้าห้องไม่ให้ผู้เสียหายออกมา แต่ขากลับหัวขโมยกลับลืมไม่ค้ำยันดัดแปลงเป็นปืนยาวไว้หลังภายในรีสอร์ต
ล่าสุดวันที่ 13 ต.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายังจุดเกิดเหตุ ที่ห้องเช่าแห่งหนึ่ง ซึ่งมีนายพรชัย เค้าแก้น นักกีฬาเซปักตะกร้อทีมชาติไทย เป็นเจ้าของรีสอร์ต โดยที่เกิดเกตุมีลักษณะเป็นห้องแถว ขณะที่ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ ผู้เสียหายที่เป็นเจ้าของห้องเช่า ไม่อยู่ที่ห้องดังกล่าว เนื่องจากออกไปทำงาน
ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายทิฐวัฒน์ เพ็งจันทร์ อายุ 31 ปี ผู้ดูแลรีสอร์ตและห้องเช่าที่เกิดเหตุ ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อวันที่ 3 ต.ค.64 เวลาประมาณ 01.00 น. นายศุภชัย ปั่นจักรยานมาที่ขวัญคีรีรีสอร์ต และเข้าไปค้นข้าวของในรถเก๋งของน.ส.รุ่ง ซึ่งเป็นผู้เช่าห้อง กระทั่งได้เงินสดจำนวน 200 บาท แล้วเขาก็ไปล็อกกุญแจที่ประตูห้องของน.ส.รุ่ง ซึ่งมีน.ส.รุ่งอยู่ในนั้น ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะปั่นจักรยานหลบหนีไป แต่เขาลืมไม้เท้าค้ำยันเอาไว้
ส่วนน.ส.รุ่ง ผู้เสียหาย หลังจากรู้ตัวว่าถูกคนร้ายล็อกประตูห้อง ก็ได้โทรศัพท์หาเจ้าของรีสอร์ตให้มาเปิดประตูห้อง จากนั้นน.ส.รุ่ง ก็ได้ตรวจสอบทรัพย์สินภายในรถเก๋ง ก็พบว่าข้าวของกระจัดกระจายถูกรื้อค้น และพบว่ามีเงินสดจำนวน 200 บาท ที่เก็บไว้ในรถหายไป จึงได้เดินทางไปแจ้งความไว้ที่ สภ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น
โดยหลังจากเกิดเหตุ ตนได้ไปพบไม้เท้าค้ำยันของผู้ก่อเหตุที่ลืมเอาไว้ที่รีสอร์ต โดยไม้เท้าดังกล่าวตอนแรกตนก็นึกว่าเป็นไม้เท้าธรรมดา แต่พอสังเกตดี ๆ ก็พบว่าเป็นไม้เท้าที่ดัดแปลงเป็นปืน คาดว่าผู้ก่อเหตุคงประดิษฐ์ขึ้นมาเอาไว้ป้องกันตัว สำหรับตนเคยเห็นนายสุภชัย มาที่รีสอร์ตเป็นครั้งแรก คาดว่าเขาตั้งใจมาก่อเหตุอย่างแน่นอน
ต่อมาทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายังบ้านของนายศุภชัย ต.กุดเค้า อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ลักษณะเป็นบ้าน 2 ชั้น ครึ่งไม้ครึ่งปูน มีรถจักรยานของนายศุภชัย จอดอยู่ที่หน้าบ้าน โดยนายสิมมะลี เย็นใจ อายุ 72 ปี พ่อของผู้ก่อเหตุ ได้พาทีมข่าวไปดูห้องนอนของนายศุภชัย ในห้องนอนของศุภชัย มีแคร่ไม้อยู่ 1 อัน บนแคร่ไม้เต็มไปด้วยอุปกรณ์เครื่องมือช่างต่าง ๆ เศษโทรศัพท์จำนวนหลายเครื่องวางกองรวมกัน
นายสิมมะลี ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อ 2 ปีก่อน นายศุภชัย ได้ประสบอุบัติเหตุรถล้ม แล้วท่อไอเสียทับขาจนต้องตัดขาซ้ายทิ้ง และใส่ขาเทียม เมื่อวานนี้ (12 ต.ค.64) ตำรวจมาที่บ้านเพราะลูกชายไปก่อเหตุลักทรัพย์ที่รีสอร์ต พอทราบข่าวตนก็ไม่ได้รู้สึกตกใจ หรือเสียใจแต่อย่างใด กลับรู้สึกดีใจอยากให้ตำรวจจับตัวลูกชายไปดำเนินคดี และไม่ต้องให้ลูกชายกลับมาบ้านอีก เพราะเวลาลูกชายอยู่บ้าน จะมีนิสัยอาละวาดใส่พ่อแม่ และเคยขู่จะฆ่าพ่อแม่มาแล้ว ตนก็จะไม่ประกันตัวลูกชายด้วย
ส่วนกรณีไม้เท้าค้ำยันของลูกชายที่ดัดแปลงเป็นปืนนั้น ตนก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่าลูกชายดัดแปลงไม้เท้าเป็นปืน โดยก่อนหน้านี้เขาจะไม่ให้ตนมาใกล้ห้องนอนเขา ถ้าตนเข้าใกล้ก็จะด่าทันที ตนจึงไม่รู้ว่าเขาดัดแปลงไม้เท้าเป็นปืนมาก่อน รวมถึงไม่รู้ว่าลูกชายประดิษฐ์ปืนสั้นไว้อีก 1 กระบอกด้วย
"ส่วนข้าวของและอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่พบในห้องนอนลูกชาย คาดว่าน่าจะไปเก็บมาตามหมู่บ้าน แล้วมาประกอบดัดแปลงเป็นเครื่องมือ ซึ่งลูกชายไม่เคยเป็นช่าง หรือเรียนช่างมาก่อน คิดว่าเขาอยากทำอะไรเขาก็จะประดิษฐ์หรือดัดแปลงของเขาขึ้นมาเอง" พ่อของผู้ก่อเหตุ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ทีมข่าวเดินทางไปยัง สภ.มัญจาคีรี และได้พบของกลางเป็นไม้เท้าค้ำยันที่ดัดแปลงเป็นปืน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจอนุญาตให้ทีมข่าวจับไม้เท้าดังกล่าวได้ เนื่องจากได้พิสูจน์หลักฐานไปแล้ว โดยไม้เท้าดังกล่าวมีลักษณะความยาวประมาณ 120 ซม. ส่วนกลางของไม้เท้าจะมีเหล็กที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นมาเป็นปืน เหล็กดังกล่าวมีรูอยู่ตรงกลางเพื่อใส่กระสุน