จากกรณี กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ บก.ปคบ. แถลงผลการจับกุม น.ส.ณัฐชานันท์ อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาใช้เอกสารของแพทย์หญิงสมัครทำงานเป็นแพทย์นอกเวลา ในคลินิกเสริมความงามหลายแห่ง พบประวัติเคยถูกจับ 2 ครั้ง ศาลสั่งจำคุก 7 ปี เพิ่งพ้นโทษเมื่อเดือน ส.ค. 2564 กลับมากระทำความผิดซ้ำอีก
สำหรับพฤติการณ์ ผู้ก่อเหตุได้โพสต์ข้อความและภาพถ่ายของบุคคลสวมเสื้อแพทย์ ปักชื่อของแพทย์ผู้อื่น ทำหัตถการด้านศัลยกรรมความงามอยู่ในสถานเสริมความงามแห่งหนึ่ง
โดยการตรวจสอบพบว่าบุคคลดังกล่าวได้แอบอ้างนำใบอนุญาตให้ประกอบวิชาชีพ เวชกรรมของแพทย์หญิงท่านหนึ่งมาใช้สมัครงาน เป็นแพทย์นอกเวลา ในสถานเสริมความงามหลายแห่ง
ปคบ. ร่วมกับ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) จึงรวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมสอบปากคำแพทย์หญิงที่ถูกนำใบอนุญาตวิชาชีพเวชกรรมไปใช้ และเจ้าของคลินิกแห่งหนึ่งย่านบางแค ที่ผู้ต้องหานำเอกสารของแพทย์หญิงไปใช้เพื่อสมัครทำงานเป็นแพทย์นอกเวลา รวมถึงผู้เสียหายที่เข้ารับการทำหัตถการ จนสามารถยืนยันได้ว่าผู้ต้องหารายนี้คือ น.ส.ณัฐชานันท์ จึงได้ขออนุมัติศาลอาญาธนบุรีออกหมายจับ
กระทั่ง วันที่ 7 ตุลาคม 2564 ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. ทำการจับกุม น.ส.ณัฐชานันท์ พร้อมตรวจยึดของกลาง เป็นชุดที่ผู้ต้องหาสวมใส่ขณะทำงานหัตถการ จำนวน 5 ชุด และอุปกรณ์ทางการแพทย์ นำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ล่าสุด ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังบ้านพักของผู้ต้องหา เป็นจุดที่มีการจับกุม อยู่ในพื้นที่ย่านบางเเค ลักษณะเป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น ซึ่งผู้ต้องหาเตรียมจะเปิดเป็นคลินิกเสริมความงาม
ครอบครัวของผู้ต้องหา ประกอบด้วย เเม่ น้องสาว และเเฟนหนุ่มของน้องสาว เดินทางเข้ามาดูบ้าน เปิดเผยว่า อาคารดังกล่าว เป็นของเเฟนหนุ่มของน้องสาวที่ซื้อไว้เเต่ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์ ทางเเฟนหนุ่มของน้องสาวเห็นว่า น.ส.ณัฐชานันท์ ผู้ต้องหา เคยติดคุก 4 ปี เเละเพิ่งพ้นโทษออกมาไม่ถึงเดือน เห็นว่าไม่มีที่ไป จึงให้ที่พักอาศัยเพราะความสงสาร เเต่ก็ได้กำชับตลอดว่าห้ามทำสิ่งผิดกฎหมายอีก มิเช่นนั้นจะไม่ให้อยู่ เเต่ก็ไม่ทราบว่าตลอดระยะเวลา 1 เดือน ที่ผ่านมา น.ส.ณัฐชานันท์ ทำอะไรกับบ้านหลังนี้บ้าง จนกระทั่งถูกตำรวจจับกุม เจ้าของบ้านก็รู้สึกตกใจ และรู้สึกผิดหวังมาก
ทั้งนี้ น.ส.ณัฐชานันท์ มีอาการทางจิตเวช ตั้งเเต่ ม.ต้น ต้องเข้ารับการรักษาเเละทานยามาโดยตลอด เเต่ช่วง 3-4 ปีหลัง ไม่ยอมไปหาหมอ เเต่ได้ซื้อยาทานเอง ทำให้การรักษาไม่ต่อเนื่อง เเต่ทางครอบครัวไม่ทราบว่า น.ส.ณัฐชานันท์ มีพฤติกรรมหลอกลวงคนอื่น จนเมื่อปี 2559 ถูกตำรวจจับกุม เเละศาลพิพากษาจำคุก 4 ปี ทางครอบครัวจึงทราบความจริง โดยตลอดระยะเวลา 4 ปี ที่อยู่ในเรือนจำ เเม่เป็นคนที่ไปเยี่ยมตลอด เเละพยายามขอร้องให้ลูกหยุดพฤติกรรม
ซึ่งหลังจากพ้นโทษออกมา น.ส.ณัฐชานันท์ ก็ไม่ค่อยได้ติดต่อกับครอบครัว จึงไม่ทราบความเคลื่อนไหว จนกระทั่งมาถูกจับกุมในครั้งนี้ ทางครอบครัวก็เสียใจ โดยเฉพาะเเม่ที่เครียดจนนอนไม่หลับ อยากให้ลูกกลับเนื้อกลับตัวใหม่ อย่าทำเเบบนี้อีก ส่วนในเรื่องคดี ขอให้ได้รับโทษตามกฎหมาย ทางครอบครัวไม่ขอประกันตัว ให้รับผลของการกระทำตัวเอง
