หนุ่มใหญ่พกเงินแสนหายลึกลับ พบเป็นศพลอยอืดห่างบ้านแค่ 400 เมตร

6 ต.ค. 64

หนุ่มใหญ่พกเงินแสนติดตัว หายไร้ร่องรอย ล่าสุด เจอศพแล้ว ห่างจากบ้านเพียง 400 เมตร ส่วนเงินจำนวนดังกล่าว ญาติเผยเป็นเรื่องเข้าใจผิด

ที่ จ.เพชรบูรณ์ เจอแล้วร่างไร้วิญญาณหนุ่มใหญ่หายตัวปริศนาพร้อมเงินแสนกลายเป็นศพลอยอืดในคลอง ห่างบ้านราว 400 เมตรเพื่อนบ้านเผยเรื่องราวสุดขนลุก ขณะเดินค้นหาในป่าข้าวโพดหลังบ้าน เมื่อตะโกนเรียกชื่อ ลุงเจตน์ กลับมีเสียงตอบรับของผู้ตายซึ่งกล้ายืนยัน 100% เพราะเป็นเสียงที่คุ้นเคย

วันที่ 6 ตุลาคม 2564 พบแล้ว นายสมเจตน์ ขันตินนท์ อายุ 65 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 5 หมู่ 5 ตำบลซับเปิบ อำเภอวังโป่ง จังหวัดเพชรบูรณ์ หนุ่มหายตัวลึกลับออกจากบ้าน งานนี้มีหน้าแตกเมื่อร่างทรงบอกญาติว่าหนุ่มใหญ่หายตัวออกจากบ้านเพราะถูกสิ่งลี้ลับหลอกไปเก็บเห็ดแล้วบังตาเอาไว้จนหนุ่มใหญ่หาทางกลับบ้านไม่ถูก แต่สุดท้ายทีมค้นหากลับไปเจอกลายเป็นร่างไร้วิญญาณลอยอยู่ในคลองเชิงชาย ห่างจากบ้านราว 400 เมตร

ซึ่งวันนี้ทีมค้นหาทั้งญาติพี่น้องชาวบ้านและอาสากู้ภัยต่างระดมกำลังออกค้นหาทั้งทางบกและทางน้ำรวมไปถึงบนเทือกเขาปู่ ซึ่งห่างจากบ้านผู้สูญหายราว 3 กิโลเมตรตามคำบอกกล่าวของร่างทรงที่ให้ข้อมูลว่าผู้สูญหายนั้น ถูกสิ่งลี้ลับหลอกไปเก็บเห็ดแล้วบังตาไว้จนหาทางกลับบ้านไม่เจอ

ขณะที่การค้นหาช่วงค่ำคืนที่ผ่านและหนึ่งในผู้ร่วมค้นหาก็ได้เผยเรื่องราวประหลาดชวนขนลุก ขณะที่เดินหาตามป่าข้าวโพดข้างบ้านเมื่อเดินไปถึงต้นมะม่วง 3 ต้นพอถึงต้นที่ 3 ก็ได้ตะโกนเรียกชื่อลุงเจตน์ ลุงเจตน์ ก็ได้ยินเสียงขานรับดังออกมาจากหลังห้องน้ำ ซึ่งจำได้แม่นมั่นใจ 100% ว่าเป็นเสียงผู้สูญหาย แต่พอเข้าไปดูก็กลับไม่พบ

ทางญาติพี่น้องจึงได้จัดเตรียมเครื่องเซ่นไหว้ดอกไม้ธูปเทียนพร้อมนิมนต์พระ 3 รูปมาทำพิธีเปิดป่าตรงศาลพระภูมิบ้านตามความเชื่อบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทางสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อเปิดทางให้เจอผู้สูญหาย

นางจำรูญ ขันตินนท์ อายุ 65 ปี ภรรยาและ นางสาวอลิสา ฉิมมี อายุ 38 ปี ลูกสาวของผู้สูญหายพร้อมทีมค้นหาก็ได้แบ่งกำลังออกค้นหาต่อเนื่องเป็นวันที่2 เดินปูพรมเรียงหน้ากระดานโดยพื้นที่ๆ นำกำลังเข้าปูพรมค้นหาคือพื้นที่บนภูเขาปู่ซึ่งห่างจากบ้านผู้สูญหายราว3กม.ตามคำบอกกล่าวของร่างทรงและตามหลังบ้านป่าเชิงเขาสวนมะขามไร่ข้าวโพดไร่มันสำปะหลัง

ล่าสุดทีมค้นหาก็ได้พบร่างไร้วิญญาณของนายสมเจตน์ขันตินนท์อายุ65ปี สภาพกลายเป็นศพลอยคว่ำหน้าขึ้นอืด ไม่สวมเสื้อผ้าอยู่ภายในคลองเชิงชายห่างจากบ้านผู้ตายราว 400 เมตรซึ่งคลองเส้นนี้ไหลผ่านทั้งหน้าบ้านและข้างบ้านของผู้ตายจึงได้ช่วยกันนำศพขึ้นมาจากคลองทำการชันสูตรพลิกศพ

จากการสอบถามนางสาวอลิสา ฉิมมี อายุ 38 ปี ลูกสาวผู้ตายเผยว่าก่อนหน้านี้ได้โทรหาพ่อทั้งวันเสาร์วันอาทิตย์ แต่ติดต่อไม่ได้คิดว่าพ่อปิดเครื่องเนื่องจากกลัวฟ้ากลัวฝนก็พยายามโทรตลอด จนแม่มาโทรหาพ่ออีกทีวันอังคารก็ยังติดต่อไม่ได้ เลยให้น้าข้างบ้านมาดูพ่อให้

พอเข้ามาที่บ้านก็เห็นว่าข้าวของในบ้าน เครื่องกรองน้ำพังลงมา แก้วแตก น้าข้างบ้านเลยรีบโทรกลับมาบอกและให้เพื่อนบ้านมาช่วยดู โดยส่วนตัวนั้นก็ได้ไปพึ่งร่างทรงให้ช่วยดูให้ ร่างทรงบอกว่าพ่ออยู่หลังบ้านถูกบังตาไม่ให้เห็น เจ้าที่เจ้าทางบังตาเหมือนว่าได้ข้าวโพดแล้วไม่เลี้ยงเจ้าที่ ไม่ให้ไก่ไม่ให้เหล้า ซึ่งตนเองก็เตรียมทำพิธีแก้ให้แล้ว แต่วันนี้เป็นวันพระยังทำไม่ได้ต้องรอพรุ่งนี้ซึ่งใครบอกอะไรแนะนำอะไรก็ทำให้ทุกทางแล้ว อยากเจอพ่อ โดยพ่อนั้นมีอาการเป็นโรคซึมเศร้าแต่ก่อนเคยกินยา แต่ว่าหยุดกินยามา 3 ปีแล้ว แต่ก่อนนั้นตนก็ได้มาหาพ่อบ่อยๆ แต่พักหลังติดปัญหาสถานการณ์โควิดจึงไม่ค่อยได้มาหา

ด้าน นางไพรัตน์ วันพุทธ อายุ 46 ปี เพื่อนบ้านเล่าว่า เมื่อวันที่3 ตุลาคม 2564 ตนเองเข้ามาเก็บค่าน้ำตรงหน้าบ้านผู้ตายแต่ผู้ตายไม่ได้ออกมานั่งอยู่ตรงประตู ยังได้พูดคุยกันอยู่เลยว่าเอาอะไรมาครอบให้หน่อยทรายมันถมหมดแล้ว ผู้ตายยังตอบกลับมาว่าเออ ซึ่งแกก็นั่งอยู่บนโต๊ะหน้าบ้านช่วงเวลาเกือบเที่ยงแล้วตนก็ไปเก็บค่าน้ำหลังต่อไป

พอมาวันที่ 4 ตุลาคม 2564 ตนเองก็ยังได้ย้อนกลับมาอีกครั้งมาขอบอนสีข้างโอ่งบ้านผู้ตายเพราะสวยดี โดยขณะนั้นผู้ตายยืนอยู่ข้างหลังหันหลังอยู่ ผู้ตายก็ตอบกลับมาว่าไม่มีด้วยน้ำเสียงตะคอกแล้วแกก็เดินหนีไปเฉยๆ ไม่พูดไม่จา

ขณะเดียวกันเงินสดจำนวนกว่าหนึ่งแสนบาทของผู้ตายที่ได้มาจากการขายข้าวโพด 2 รอบ จากการตรวจสอบของคนในครอบครัวพบเงินจำนวน 45,000 บาท ถูกเก็บไว้ในกระป๋องตั้งอยู่ในบ้านและอีกส่วนพบว่าผู้ตายได้นำไปชำระหนี้ให้ ธกส .เรียบร้อยแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ