จากกรณีเมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. ของวันที่ 4 ต.ค. 64 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ประชาชื่น รับแจ้งเหตุมีชายถูกแทงเสียชีวิตบริเวณปากซอยพงษ์เพชรนิเวศน์ ถนนประชาชื่น แขวงและเขตจตุจักร กทม. จึงรุดตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบศพ นายเกียรติศักดิ์ ใจดี หรือเปี๊ยก อายุ 25 ปี สภาพนุ่งกางเกงขายาว
ร่างกายพบบาดแผลถูกของมีคมแทงบริเวณหลัง 5 แผล และต้นขาซ้าย 1 แผล รวมจำนวน 6 แผล นอนหงายจมกองเลือดเสียชีวิตอยู่บริเวณ
วันที่ 5 ต.ค. 64 ทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ ปากซอยพงษ์เพชรนิเวศน์ ถนนประชาชื่น เขตจตุจักร กทม. พบว่า สามแยกกลางถนนยังมีกองเลือดของคนตายตกอยู่บนพื้นถนน ซอยดังกล่าวเป็นทางเข้าออกที่ทำงานประจำของนายเกียรติศักดิ์ ผู้ตาย และบริเวณปากซอยยังมีร้านสะดวกซื้อ เป็นที่ลับสายตาคน ประกอบกับลับตามุมกล้องวงจรปิด จึงทำให้คนก่อเหตุ 2 คนมาดักรออยู่ข้างร้านสะดวกซื้อ ก่อนที่จะเจอคนตายขับรถผ่านและก่อเหตุ
ทีมข่าวตรวจสอบพบกล้องวงจรปิดของเขตจตุจักร บันทึกเหตุการณ์ช่วงวินาทีเกิดเหตุ เวลาประมาณ 20.40 น. นายเกียรติศักดิ์ คนตาย ได้ขับรถมอเตอร์ไซค์ใส่เสื้อสีแดง และมีลักษณะคล้ายคุยโทรศัพท์ขับออกมาจากปากซอย จังหวะที่คนตายจอดรถชะลอเพื่อให้รถทางตรงผ่านเป็นช่วงเวลาไม่ถึง 3 วินาที คนก่อเหตุ 2 คน วิ่งตามประกบจนกระทั่งรถคนตายล้มลง ผู้ตายได้พยายามวิ่งหนีเอาตัวรอด แต่คนก่อเหตุทั้ง 2 คนไม่ยอม จึงมีเรื่องกับผู้ตายและเข้ารุมชกต่อย ก่อนที่เจ้าตัวจะถูกแทงจากด้านหลัง ล้มลงอยู่บริเวณกลาง สามแยก การก่อเหตุเกิดขึ้นอย่างอุกอาจท่ามกลางสายตาของชาวบ้าน และแม่ค้าในย่านดังกล่าว
นางสาวเจน (นามสมมติ) อายุ 22 ปี น้องสาวของคนตาย เปิดเผยว่า ตนเองรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่พี่ชายถูกแทงมากถึง 6 แผล จนตาย ซึ่งสาเหตุตอนนี้ที่พี่ชายถูกฆ่าตายอาจเป็นเพราะเรื่องของติดเงินเพียงแค่ 2,000 บาท แต่ก็อาจจะไม่ใช่สาเหตุหลักที่จะต้องถึงขั้นฆ่ากันตายได้ ส่วนหนึ่งตนเองก็เชื่อว่าอาจจะเป็นประเด็นเรื่องของชู้สาว เพราะเนื่องจากแฟนสาวคนที่คบหาปัจจุบันมีลักษณะรัก ๆ เลิก ๆ ฝ่ายหญิงก็ไม่ได้คบหาหรืออยู่กับพี่ชายของตนเองตลอดเวลา อาจมีการไปพูดคุยหรือมีผู้ชายอื่นเข้ามาจีบ จึงทำให้เกิดความไม่พอใจ จนถึงขั้นมาทำร้ายพี่ชายของตนเองถึงตายครั้งนี้
และช่วงประมาณ 1-2 สัปดาห์ก่อนที่จะเกิดเหตุ ยอมรับว่าฝั่งของคู่กรณีหรือฝั่งของผู้ต้องสงสัยมีการโพสต์ลักษณะไม่พอใจ หรือมีการหาเรื่องกันไปมาบ่อยครั้ง โดยตนเองก็เพิ่งจะเห็นโพสต์ข้อความรวมทั้งคำพูดที่มีการหาเรื่องกันไปมา ซึ่งตนเองก็เชื่อว่าข้อความเหล่านั้นอาจเป็นชนวนเหตุที่ทำให้เกิดความรุนแรงขึ้น
ส่วนตัวยอมรับว่ายังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะไม่คิดว่าพี่ชายจะมาเจอกับชะตากรรมแบบนี้ ตอนนี้พ่อและแม่ยังร้องไห้ทำใจไม่ได้ หลังจากนี้ตนเองเตรียมที่จะรับศพของพี่ชายมาเชิญดวงวิญญาณในสถานที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งนำร่างของพี่ชายครับไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดในจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมทั้งอยากจะฝากถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มีการติดตามคนร้าย ซึ่งมีกล้องวงจรปิดจับภาพได้ชัดเจน ให้นำตัวมารับโทษตามกฎหมาย และเป็นไปได้ ตนเองก็อยากจะถามจากปากของคนที่ก่อเหตุว่ามีเหตุผลอะไรที่ต้องแทงพี่ชายถึงขั้นตายแบบนี้
ทีมข่าวยังได้รับแชตข้อความ ซึ่งคนตายมีการพูดคุยกับกลุ่มผู้ต้องสงสัย พูดคุยทำนองว่า "ใครบอกให้มึงรอ ปยอ. มีอะไร 1-1 ก็ได้อะ ไม่ใช่หมาหมู่", "ลำคานแม่มึงดิ แม่มึงไปรำ(ค-ย)ให้ฝรั่งอยู่หรอ (ดูดค-ย)ให้ฝรั่งอยู่หรอแม่มึง สงสัยแม่มึงชอบ(ค-ย)ฝรั่ง" ซึ่งเป็นข้อความที่ฝั่งของผู้ต้องสงสัยตอบและคุยกับผู้ตายในข้อความเฟซบุ๊ก
นอกจากนี้กลุ่มผู้ต้องสงสัย ยังมีการโพสต์พร้อมทั้งมีการแท็กถึงคนตาย ระบุว่า "เปี๊ยก เปี๊ยก ว่าไงลูกอีด-กเพื่อนรักกูถอกกระ-อรอพวกมึง มายิงกูแล้วนะครับรอนานแล้ว รอมูนเปิดมีงรอไปเถอะ กู ขับรถถอกกระ-อรอมิ่ง ทั่วไปหมด อยากเจอแบบกลาง ทางแล้วร่วงไปเลยอะ มีปะเก่งจริงปะมาทำให้รู้สึกหน่อยดิ ช่วงนี้ไม่มีใครมาทำให้ ตัวสั่นเลยอะ อยากตัวสั่นอยาก ร้องขอชีวิต มาจัดกูที่สิ"
ฝั่งของผู้ต้องสงสัยมีการโพสต์หาเรื่องคนตาย แคปภาพของเฟซบุ๊กคนตายอ้างว่ามีการโชว์อาวุธปืน และมีการลงสตอรี่เรื่องราว พร้อมทั้งระบุข้อความ "เหี่ยนี่แม่งลาวจริงเห้อ พึ่งเคยเล่นปีนฮ่อ โชว์จังมีไม่กล้ายิงอย่โชว์ เลยลาวมูนเปิดแล้วเจอกันมีคนท้าลบว่ะ ถ่ายปีนโชว์กล้ยิงป่าว เจอกันมูนเปิด จะเม็ดหรือหมัดมุงเลือกมากูได้หมดเต็กกะแบ๊เกินมี หนี้ไม่จ่ายถุย"
นางลำยวล รองกรัด อายุ 54 ปี คนเห็นเหตุการณ์ เปิดเผยว่า ช่วงเวลาที่ตนเองกำลังเก็บร้านก่อนที่จะเข้าบ้าน เห็นรถมอเตอร์ไซค์ของคนตายขับออกมาจากซอยหลังเลิกงาน และช่วงจังหวะที่กำลังจะออกจากแยก ชะลอให้รถทางตรงผ่าน คนก่อเหตุ 2 คนซึ่งมีลักษณะสวมใส่หมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า คาดว่านั่งรออยู่บริเวณข้างร้านสะดวกซื้อ เห็นรถชนตายขับผ่านจึงได้รีบเข้าไปก่อเหตุ ตอนนั้นตัวเองเห็นว่าเป็นเพียงแค่การชกต่อย และปลุกปล้ำกันเท่านั้น ไม่ทันเห็นว่ามีอาวุธปืนหรืออาวุธมีดใช้ก่อเหตุ
หลังจากที่ตัวเองเห็นว่าวัยรุ่นเริ่มทะเลาะกัน ก็ได้ตัดสินใจวิ่งเข้าไปในร้านสะดวกซื้อเพื่อความปลอดภัย ในช่วงที่เกิดเหตุก็ไม่ได้ยินเสียงคนโวยวายหรือทะเลาะกันก่อน เหมือนมีลักษณะคนก่อเหตุตั้งใจที่จะมามีเรื่อง เพราะมาถึงก็ใช้อาวุธทำร้ายร่างกายโดยทันที
ไม่นานตัวเองได้กลับออกมาดู ก็ไม่เห็นคนก่อเหตุแล้ว ตัวเองไม่เคยคุ้นชินหน้าตาของคนตายหรือคนก่อเหตุ ยอมรับว่าซอยดังกล่าวมีคนเข้าออกจำนวนมาก แต่ตัวเองสังเกตเห็นว่าตอนนั้นตัวของนายเกียรติศักดิ์ คนตาย ยังไม่หมดสติ มีลักษณะเหมือนพยายามจะขึ้นมาที่ร้านสะดวกซื้อเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่คาดว่าอาจจะทนพิษบาดแผลไม่ไหว ล้มลงบริเวณกลางแยก มีชาวบ้านและวินเข้าไปช่วยเหลือ และคนตายเริ่มมีอาการรวยริน
หากย้อนกลับไปก่อนหน้านี้หลายปีที่ผ่านมา ตนเองก็เคยอยู่ในเหตุการณ์วัยรุ่นทะเลาะกัน ตอนนั้นขับมอเตอร์ไชค์มาไล่ยิงกัน กลุ่มวัยรุ่นไม่เจ็บหรือตาย แต่ทำให้พ่อค้าลูกชิ้นได้รับบาดเจ็บสาหัส จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้ช่วงที่เกิดเหตุเมื่อมีวัยรุ่นทะเลาะกันตนเองจึงวิ่งหนีเอาตัวรอดไว้ก่อน กลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยในอดีต
เมื่อเวลา 15.00 น. ครอบครัวของนายเกียรติศักดิ์ คนตาย ได้รับร่างออกมาจากนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ ขึ้นรถตู้มาประกอบพิธีเชิญดวงวิญญาณที่เกิดเหตุ มีการนิมนต์พระ 1 รูปประกอบพิธี ซึ่งได้ให้ญาติจุดธูปถวายอาหารให้กับคนตายที่บริเวณจุดเกิดเหตุ ก่อนที่จะให้ญาติจุดธูปบอกกล่าวเชิญดวงวิญญาณกลับบ้านตามกลิ่นควันธูป
ก่อนที่จะเคลื่อนย้ายร่างออกจากที่เกิดเหตุกลับไปที่บ้านในจังหวัดฉะเชิงเทรา สังเกตว่านางสาวเจน น้องสาวของคนตาย และญาติ ได้มีอาการร้องไห้เสียใจ พร้อมกับเข้าไปเคาะโลง บอกให้คนตายกลับบ้านไปเจอพ่อแม่ที่รออยู่ ทีมข่าวสังเกตเห็นว่าช่วงที่มีการเชิญดวงวิญญาณแฟนสาวของคนตายไม่ได้มาร่วมพิธี ยืนคุยโทรศัพท์อยู่ห่างจากจุดที่มีการเชิญดวงวิญญาณ
นางสาวอ้อยใจ (นามสมมติ) แฟนผู้ตาย เผยสั้น ๆ ว่า ตนเองยังไม่พร้อมที่จะให้สัมภาษณ์หรือให้ข้อมูล เพราะยังทำใจไม่ได้ ตนเองก็ไม่รู้สาเหตุว่าการตายของแฟนเกิดจากอะไรกันแน่ ตนเองไม่รู้จักกับฝั่งของคู่อริหรือผู้ต้องสงสัยที่ปรากฏอยู่ในกล้องวงจรปิด แต่ก่อนหน้านี้ยอมรับว่าพอจะทราบบ้างว่ามีการโพสต์ หรือส่งข้อความหาเรื่องกันในแชต ตนเองก็ไม่รู้สาเหตุว่าเรื่องอะไรกันแน่
นางสาวมิดา (นามสมมติ) อาของคนตาย เปิดเผยว่า ในปีนี้เป็นปีที่ครบรอบ 25 ปีพอดี ของนายเกียรติศักดิ์คนตาย ตัวเองก็เชื่อว่าเป็นปีเบญจเพสที่ทำให้ถึงฆาตถูกแทงเสียชีวิต แต่ก่อนหน้านี้พี่ชายของนายเกียรติศักดิ์ ฝันเป็นลางบอกเหตุทำนองว่า กลับไปที่บ้านในจังหวัดฉะเชิงเทรา แล้วมีการตั้งงานศพของใครบางคนที่อยู่ในบ้าน แต่ไม่เห็นรูปหน้าศพว่าเป็นศพของใคร โดยเป็นการฝันต่อเนื่อง 4-5 วัน จากนั้นในคืนวันเดียวกันกับที่เกิดเหตุนายเกียรติศักดิ์ถูกแทงตาย ได้มีบริษัทส่งของเอกชนมาส่งของที่หน้าบ้าน โดยถูกส่งมาจากจังหวัดอุบลราชธานี จ่าหน้าซองถึงแม่คนตาย และมีการเก็บเงินปลายทางจำนวน 189 บาท ซึ่งตอนนั้นตัวแม่ของคนตายก็มีการรับ และจ่ายเงินให้กับขนส่งเอกชนโดยไม่ได้คิดอะไร เมื่อแกะออกมาพบว่าเป็นเสื้อสีดำ ซึ่งแม่ของคนตายก็ตกใจว่าใครเป็นคนสั่งหรือส่งมาให้ จึงได้สอบถามญาติที่อยู่ในจังหวัดอุบลราชธานี ยืนยันว่าไม่มีใครสั่งหรือส่งเสื้อสีดำมาให้ที่บ้าน จึงมองว่าเป็นเรื่องแปลกที่มีคนส่งเสื้อสีดำมาให้ที่บ้านในวันเกิดเหตุ เชื่อว่าเป็นลางบอกเหตุให้รับรู้ว่านายเกียรติศักดิ์ถูกแทงตาย
สำหรับพ่อและแม่ของนายเกียรติศักดิ์ยอมรับว่าตอนนี้เสียใจมากที่ลูกถูกแทงตาย ร้องไห้เสียใจเป็นลมไปแล้วหลายรอบ ไม่ได้เดินทางมาร่วมรับศพลูกที่กรุงเทพฯ แต่จะรอให้ญาตินำร่างของนายเกียรติศักดิ์ไปให้ที่บ้านเกิดเพื่อจะประกอบพิธีทางศาสนา ส่วนตัวยอมรับว่าชนวนเหตุไม่ว่าจะเป็นเรื่องของประเด็นชู้สาว หรือประเด็นเรื่องของเงินเพียงแค่ 2,000 บาท ก็ไม่ควรถึงขั้นที่จะฆ่ากันตาย มีอะไรก็ควรที่จะคุยกันได้ เพราะนายเกียรติศักดิ์ก็เพิ่งอายุ 25 ปี ยังเด็ก ยังมีอนาคตไกล
ส่วนความคืบหน้าทางคดี ชุดสืบสวนตำรวจนครบาล อยู่ระหว่างการแกะรอยจากกล้องวงจรปิดเพื่อหาเส้นทางหลบหนี รวมทั้งมีการเรียกสอบพยานเพื่อที่จะยืนยันตัวของผู้ต้องสงสัย ก่อนที่จะมีการออกหมายจับ 2 คนที่ปรากฏอยู่ในกล้อง ในข้อหาร่วมกันเจตนาฆ่าผู้อื่น ซึ่งตอนนี้อยู่ในขั้นตอนของการทำงานของชุดสืบสวน
