แฉ! เด็ก 16 ควบกระบะชนคนตาย พ่อแม่เมินไม่ขมา คนเห็นซิ่งเกินร้อย ยังอ้างจยย.ตัดหน้า (คลิป)

26 ต.ค. 61
จากกรณีวันที่ 23 ต.ค. 61 เกิดเหตุรถกระบะพุ่งชนคน มีผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิต บริเวณฟุตปาธ บนถนนสีหบุรานุกิจขาออก ใกล้เคียงวิทยาลัยเทคนิคมีนบุรี แขวงและเขตมีนบุรี กรุงเทพฯ ตรวจสอบพบว่าที่เกิดเหตุ อยู่ริมถนนเยื้องโรงพยาบาลนวมินทร์ 1 ทราบชื่อผู้ก่อเหตุ คือ นายรัชชานนท์ ศรีปุณชยางกูร อายุ 16 ปี ส่วนผู้เสียชีวิตคือ นายสุริยา โคกสมบัติ (อ่าน : เปิดนาทีโจ๋ 16 ซิ่งกระบะเสยชนหนุ่มซื้อก๋วยเตี๋ยวให้เมียท้องแก่ดับ ร้านพังยับ จี้รับผิดชอบ)
จุดเกิดเหตุ รถกระบะพุ่งชนร้านอาหารตามสั่ง
จุดเกิดเหตุ รถกระบะพุ่งชนร้านอาหารตามสั่ง
เจ้าหน้าที่ซ่อมแซมเสาไฟฟ้า จุดเกิดเหตุ
วันที่ 25 ต.ค. 61  นายต่อ (นามสมมติ) เพื่อนของนายสุริยา โคกสมบัติ ผู้เสียชีวิต เล่าว่า ตนเองสนิทกับผู้ตายมาหลายปี เนื่องจากชอบเตะฟุตบอลเหมือนกัน ผู้ตายเป็นคนจิตใจดี เพื่อนฝูงรักใคร่ และสนิทกับลูกสาวของตนด้วย เมื่อลูกตนรู้ว่าผู้ตายเสียชีวิตก็เสียใจ โดยในวันที่เกิดเหตุ ผู้ตายกลับมาจากเตะฟุตบอลที่ซอยสุคสนธสวัสดิ์ 27 และขากลับ แวะซื้อก๋วยเตี๋ยวให้ภรรยา ซึ่งเป็นร้านที่ซื้อประจำ แต่ยังไม่ทันซื้อก็ถูกรถชนเสียชีวิตก่อน โดยตนทราบข่าวจากกลุ่มเพื่อนก็เดินทางมาที่เกิดเหตุ พบคนขับรถอายุ 16 ปี กดมือถืออยู่ แต่ยังไม่ทันพูดคุย ทีมกู้ภัยก็นำตัวผู้ก่อเหตุส่งโรงพยาบาลเสียก่อน ทั้งนี้ ตนไปที่ สน.มีนบุรี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึง 02.00 น. ก็ไม่มีใครมาติดต่อพูดคุยอะไรด้วย
นายต่อ (นามสมมติ) เพื่อนผู้เสียชีวิต
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุตนได้พูดคุยกับครอบครัวผู้เสียชีวิต ทราบว่าตั้งแต่เกิดเหตุครอบครัวของคู่กรณีไม่ได้เข้ามาเยียวยาหรือพูดคุยด้วยเลย ทั้งที่ในคืนวันเกิดเหตุตนและครอบครัวผู้เสียชีวิตอยู่ที่ สน.มีนบุรีกันทั้งหมด ตนจึงกลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม อยากจะให้คนขับออกมารับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นายต่อ กล่าวต่อว่า นายรัชชานนท์ คนขับรถชนปิดเฟซบุ๊กหนีไปแล้ว และตนมองว่าพ่อแม่ไม่ควรให้เด็กอายุ 16 ปี ออกมาขับรถแบบนี้ นอกจากนี้ทราบมาว่านายรัชชานนท์มีรถถึง 3 คัน ตนเชื่อว่านายรัชชานนท์ต้องเป็นผู้มีอิทธิพลในย่านนี้ เพราะว่าเด็กอายุ 16 ปี ไม่น่าจะมีรถของตัวเอง และดูร่ำรวยแบบนี้ ตนจึงสงสัยว่าอาจจะค้าขายอะไรที่ไม่ดีด้วยหรือไม่ ทั้งนี้ ตนจะเดินทางไปฌาปนกิจศพนายสุริยา ในวันที่ 28 ต.ค.นี้ ที่วัดจวน ต.ท่าฉนวน อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท และยืนยันว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
นายภูมิมัย  ผู้เห็นเหตุการณ์
ด้าน นายภูมิมัย ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า วันที่เกิดเหตุ ตนออกมาซื้อก๋วยเตี๋ยว ซึ่งเป็นร้านที่อยู่หน้าอะพาร์ตเมนต์ ขณะเดินกลับนั้นได้ยินเสียงกระบะเหยียบคันเร่งมาด้วยความเร็ว จึงหันกลับไปมอง พบว่ารถคันดังกล่าวพุ่งชนร้านอาหารตามสั่งแล้ว ตนไม่เคยเห็นรถคันนี้มาก่อน แต่ทราบจาก รปภ. ว่ารถคันนี้ขับมาแถวนี้บ่อย และมีพฤติกรรมขับรถซิ่ง ทั้งนี้ ตนไม่ทราบว่าใครเป็นคนขับ แต่ทราบมาว่ามีคนเสียชีวิตสภาพไม่ดี ขณะเกิดเหตุ ไฟในบริเวณนั้นดับทั้งหมด ส่วนคนที่มากินก๋วยเตี๋ยวก็บาดเจ็บเล็กน้อย ทั้งนี้ ตนเห็นคนเจ็บเดินออกมาจากรถ
นายพลพจน์ เกตุอุไร อาสา 9 สนับสนุน จุดสทล.ทับช้าง
จากนั้น ทีมข่าวเดินทางมาที่มูลนิธิร่มไทร นายพลพจน์ เกตุอุไร อาสา 9 สนับสนุน จุดสทล.ทับช้าง เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุ รถของมูลนิธิตนเข้าไปช่วยเป็นรถคันที่ 2 ซึ่งพบกับนายรัชชานนท์นอนอยู่บนเปล เตรียมส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลแล้ว ขณะนั้นสีหน้าของนายรัชชานนท์รู้สึกตกใจ และยังอยู่ในอาการมึนงง โดยในมือถือโทรศัพท์ไว้ หลังจากนำตัวขึ้นบนรถพยาบาลแล้ว นายรัชชานนท์บ่นตลอดทางว่าเจ็บ จุก หายใจไม่ออก เจ็บต้นคอ เจ็บแขน ตนเองจึงปฐมพยาบาล พบว่ามีรอยถลอกที่บริเวณแขนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เมื่อนำตัวคนเจ็บมาถึงโรงพยาบาล ก็มีครอบครัวของคนเจ็บเข้ามาดูอาการ และไม่ได้พูดคุยกับตนแต่อย่างใด จากที่ตนสอบถามนายรัชชานนท์ อ้างว่ามีรถจักรยานยนต์ตัดหน้า เป็นเหตุให้ต้องหักรถหลบไปชนกับท้ายรถกระบะสีน้ำเงินของผู้เสียชีวิต และพุ่งไปชนนายสุริยา ทั้งนี้ ที่เกิดเหตุตนไม่พบรถจักรยานยนต์แต่อย่างใด และตนคาดว่าคนเจ็บอาจขับรถมาด้วยความเร็ว แต่คนเจ็บบอกกับตนว่าขับมา 80-90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งรถของคนเจ็บ ตนเห็นว่ามีลักษณะคล้ายรถกระบะแบบแต่งซิ่ง ส่วนผู้เสียชีวิต เมื่อตนไปถึงพบว่านอนคว่ำหน้า โดยสภาพขา 2 ข้างผิดรูป นอนซุกอยู่ระหว่างใต้เสาไฟฟ้าและสายสัญญานโทรศัพท์
พิธีบำเพ็ญกุศลศพนายสุริยา โคกสมบัติ
ขณะที่นายสมศักดิ์ โคกสมบัติ อายุ 55 ปี พ่อผู้ตาย และครอบครัว ร่วมจัดพิธีสวดอภิธรรมศพเป็นคืนที่ 2 บริเวณศาลาวัดจวน ต.ท่าฉนวน อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท บรรดาญาติสนิทมาร่วมงานกว่า 100 คน ท่ามกลางบรรยากาศที่เศร้าโศก
นายสมศักดิ์ โคกสมบัติ พ่อผู้ตาย และแม่ผู้ตาย
นายสมศักดิ์ เปิดเผยว่า ตั้งแต่เกิดเรื่องยังไม่มีครอบครัวผู้กระทำผิดติดต่อกลับมาแต่อย่างใด ตนต้องการแก้ข่าวซึ่งนำเสนอไปว่า ครอบครัวตนได้รับเงินจากครอบครัวผู้กระทำผิดจำนวน 3,000 บาท เพราะความจริงนั้น พวกตนยังไม่ได้เงินช่วยเหลือแม้แต่บาทเดียว ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าลูกในท้องของภรรยาลูกชายตนนั้นจะมีอนาคตเป็นอย่างไรต่อไป

 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ