งัดคลิปสู้! สารวัตรโต้บุกค้นบ้านซ้อปลาไร้อาวุธขู่ แจงศูนย์ลับแค่บ้าน ท้าเปิดคลิปเต็มใครหวังแบล็กเมล (คลิป)

กรณี น.ส.กมลวรรณ ปิ่นทองพันธุ์ หรือ “ซ้อปลา” ออกมาร้องเรียนขอความเป็นธรรมเกี่ยวกับพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนจังหวัดสงขลา ที่บุกเข้าไปตรวจค้นในบ้าน พร้อมยึดเงินสดจำนวน 10 ล้านบาท และทองรูปพรรณน้ำหนักอีกประมาณ 60 บาท จากนั้นมีการควบคุมตัวแม่ค้าออนไลน์ไปเจรจา ก่อนจะมีการต่อรองโดยอ้างว่าให้ประสานกับนายใหญ่เพื่อเคลียร์คดีขอยึดเงินสด 5 ล้านบาท เพื่อแลกกับการปล่อยตัวผู้เสียหาย

ล่าสุดวันที่ 1 ต.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายังภายใน ซอยกาจญวานิช 69 ต.เขารูปช้าง อ.เมืองสงขลา จ.สงขลา พบบ้านเลขที่ 203 เป็นบ้านชั้นเดียว เป็นที่ทำการย่อยของ ชุดปฏิบัติการ 1 กองกำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา (กก.สส.ภจ.สงขลา )

โดยทีมข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบภายใน หรือเซฟเฮาส์ โดยจะเห็นว่าภายในบ้าน จะมีห้องกว่าหลายห้อง ซึ่งหน้าบ้านจะมีโต๊ะไม้ขนาดใหญ่ อีกทั้งเมื่อเดินเข้าไปจะพบโซฟา และทีวี พร้อมโต๊ะสำหรับพนักงานเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงาน

เมื่อเดินเข้าไปข้างในจะพบกับ ห้องนอนเล่น และห้องนอนว่างเปล่า โดยจะมีห้องทำงานของ พ.ต.ท.ขวัญชาติ อยู่ด้วย ถัดจากห้อง พ.ต.ท.ขวัญชาติ จะเป็นห้องเก็บเอกสาร และหลังบ้านจะเป็นห้องครัว

ต่อมาทีมข่าวได้พูดคุยกับ พ.ต.ท.ขวัญชาติ จันทะ สว.สส.จว.สงขลา เปิดเผยว่า ชุดปฏิบัติการนั้นได้มีการสืบสวนมานานกว่า 1 เดือน จากการรับแจ้งจากพลเมืองดี และการลงตรวจสอบพื้นที่ ถึงเรื่องการที่ซ้อปลาทำธุรกิจแชร์ลูกโซ่ และออมเงิน ได้ดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด เข้าข่ายการฉ้อโกงประชาชน อีกทั้งมีผู้เสียหายบางราย อาจจะไม่ได้รับแชร์ และไม่ได้รับดอก จึงรวบรวมพยานหลักฐาน จากเฟซบุ๊ก ในการรวบรวมพยานหลักฐาน เสนอผู้บังคับบัญชาและศาลพิจารณาออกหมายค้นบ้านหลังดังกล่าวในวันที่ 10 ก.ย.64

โดยเวลา 05.00 น. ได้มีการตั้งแถวประชุมทีมในการเข้าตรวจค้นบ้านของซ้อปลา เวลาประมาณ 06.30 น. เข้าไปถึงยังพื้นที่บ้านของซ้อปลา และประตูรั้วบ้านเปิดอยู่ จึงนำหมายค้นเข้าไปยังบ้าน และสวมใส่ชุดเสื้อกั้กของราชการเข้าไป เคาะประตูนานกว่า 3 นาที และทางด้านซ้อปลา ได้เปิดประตูมาพร้อมสามี จึงได้นำหมายค้นแสดงให้อ่านและรับทราบ และบอกว่ามาตรวจสอบเรื่องแชร์ ทางด้านซ้อปลาตอบกับตนว่า "ในเมื่อแชร์เขาทำกันทั่ว มายุ่งอะไรกับปลา" ในครั้งแรกไม่ให้ค้นบ้าน ตนจึงต้องแจ้งก่อนว่าหากไม่ให้ค้น ต้องใช้กำลังในการค้น และทางด้านซ้อปลา ก็เปิดบ้านให้สามารถค้นได้

หลังจากนั้น จึงได้ควบคุมตัวมารวมกันและตรวจสอบค้นตัวบุคคลเป็นอันดับแรก และต่อมาตนเดินเข้าไปค้นห้องนอนซ้อปลา โดยเป็นผู้ดำเนินการเข้าไปคนแรก พบเป็นเงินสดจำนวน 10 ล้านบาท พบว่าเป็นเงินที่ต้องสงสัย จึงขอตรวจยึดไว้ไปตรวจสอบ และพบทองกว่า 100 บาท แต่ก็ยึดเพียงแค่จำนวนหนึ่งที่เป็นทองเส้นใหญ่ จำนวน 60 บาท เพื่อนำไปตรวจสอบ ก่อนจะค้นห้องไลฟ์สดพบครีมน้ำหอม โลชั่น กระเป๋าต่าง ๆ จึงยึดไว้เพื่อส่งตรวจสอบ อย. หลังจากนั้นได้นำทรัพย์สินมาวางไว้บริเวณโต๊ะหน้าบ้าน เพื่อให้ตรวจสอบว่ามีทรัพย์สินอะไรบ้าง

"ตอนนั้นได้มีการคืนโทรศัพท์มือถือให้กับผู้ไม่เกี่ยวข้อง โดยตลอดระยะเวลา ทางด้านซ้อปลาสามารถใช้มือถือได้ตามปกติ ไม่ได้เป็นอย่างที่เป็นข่าวว่า โดนยึดมือถือและมีอาวุธสงครามข่มขู่ให้เดินทางไปยังเซฟเฮาส์ และขอเชิญตัวไปสอบสวนเพิ่มเติมยังที่ทำการย่อย ชุดปฏิบัติการ 1 กองกำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา (กก.สส.ภจ.สงขลา)" พ.ต.ท.ขวัญชาติ กล่าวชี้แจง 

เมื่อมาถึงยังที่ทำการย่อย เจ้าหน้าที่ได้สอบสวนทั่วไป สอบถามถึงที่มาที่ไปของเงินและทอง ทางด้านซ้อปลาระบุว่าได้เงินมาจากการค้าขายของออนไลน์ ตนก็ได้เขียนลงบันทึกตามที่ซ้อปลาแจ้ง ส่วนเรื่องยืมเงินจากธุรกิจทองนั้น ตนก็ไม่ทราบเช่นกัน เนื่องจากเห็นจากเอกสารในการแต่งตั้งชุดกรรมการสืบสวนสอบสวน ระบุว่ามีการยืมเงินจากร้านทองด้วย ตนไม่สามารถตอบได้ เนื่องจากตนถูกยุติหน้าที่ในการดำเนินการปฏิบัติงานในขณะนี้

ส่วนเรื่องที่ทนายความอ้างว่า ปิดกั้นสิทธิมนุษยชน ตนอยากชี้แจงว่า ทนายความอาจจะใช้คำผิด เนื่องจากเซฟเฮาส์เอาไว้ใช้กับชุดจับกุมยาเสพติด แต่ของตนนั้นเรียกว่า "ที่ทำการย่อย" เนื่องจากตำรวจชุดสืบสวนนั้น ต้องลงปฏิบัติในพื้นที่ ต้องปะปนกับผู้คนทั่วไปเพื่อสืบหาข่าว และรวดเร็วต่อการกระชับเข้าพื้นที่ตามจุดต่าง ๆ ได้ไว เพื่อเป็นประโยชน์ของประชาชนและประโยชน์ของทางราชการอีกด้วย

โดยพื้นที่ตั้งอยู่ใกล้กับชุมชน บ้านของชาวบ้าน บ้านพักข้าราชการ และบ้านคนทั่วไป อีกทั้งวันดังกล่าวชุดของตนไม่ได้มีการควบคุมตัวอะไรกับทางด้านซ้อปลา สามารถเดินเข้าออกที่ทำการนี้ได้อย่างสบาย และตนคิดว่าน่าจะต้องติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม หากเกิดเหตุคล้ายเช่นนี้จะได้ใช้เป็นหลักฐานชี้แจง ตนเองมองว่าผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อายุ 25 ปี ไม่สามารถกระทำการบางอย่างเพียงคนเดียวได้ อาจจะต้องมีบุคคลอยู่เบื้องหลังคอยช่วยเหลือ ถ้าอยากทราบว่าเป็นใครนั้น ลองขอตรวจยึดภาพกล้องวงจรปิดที่บ้านซ้อปลามาตรวจสอบช่วงเวลาทั้งหมด ตั้งแต่เจ้าหน้าที่เข้าพื้นที่ และซ้อปลากลับบ้าน และมีผู้ใดคนอื่น แวะเวียนเข้ามาพูดคุยวางแผนการอะไรหรือไม่ ตนพร้อมเสมอ

"การที่ทนายความยืนยันจะดำเนินคดีกับผมนั้น ถือว่าเป็นสิทธิ์ของเขา หากเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ สามารถฟ้องได้ตามกฏหมาย อยากตรวจสอบอะไรก็สามารถดำเนินการมาตรวจสอบได้ อยากจะฟ้องอะไรก็รีบ ๆ ฟ้องหน่อย เรื่องนี้จะได้จบลงไว ๆ ผมพร้อม แล้วคุณพร้อมหรือยัง" พ.ต.ท.ขวัญชาติ กล่าวทิ้งท้าย 

ทีมข่าวเดินทางไปตรวจสอบยังบ้านของซ้อปลา หมู่ 4 ต.ป่าขาด อ.สิงหนคร จ.สงขลา พบว่ายังคงปิดประตูและแขวนป้าย ห้ามไม่ได้รับอนุญาตห้ามเข้าที่ประตูรั้วหน้าบ้าน ซึ่งภายในบ้านยังคงเปิดไฟสว่าง จากการสอบถามชาวบ้านบริเวณดังกล่าว ให้ข้อมูลว่า ยังไม่พบเห็นซ้อปลากลับเข้ามายังบ้านหลังนี้ ตั้งแต่ลูกแชร์บุกบ้าน คาดว่าอาจจะไปพักอยู่กับญาติที่บ้านหลังอื่น

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้พูดคุยกับ น.ส.กวาง (นามสมมติ) ผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนรู้จักกับทางซ้อปลา เนื่องจากตนเป็นรุ่นพี่ที่โรงเรียน และมีเฟซบุ๊กเป็นเพื่อนร่วมกัน กระทั่งเพื่อน ๆ ของตนเข้าร่วมออมเงินกับซ้อปลา ตนก็เห็นว่าได้รับดอกเบี้ยจริง จึงเริ่มทดลองเล่น และปรากฏว่าได้เงินกลับคืนมาจริง ๆ และเมื่อได้เงินกลับมาก็เลิกเล่นไป กระทั่งช่วงนี้ตนตกงานประกอบกับมีเงินเก็บ 50,000 บาท จึงตัดสินใจที่จะออมเงินกับซ้อปลาเพื่อกินดอกอีกครั้ง

โดยตนได้ทักไปสอบถามกับทางเลขาซ้อปลา จึงได้ข้อมูลว่า ถ้าตนจะออมเงิน 50,000 บาท จะได้ดอก 10,000 บาท เมื่อครบ 30 วัน สามารถถอนทั้งต้นและดอกได้ ในวันที่ 6 ส.ค.64 ตนจึงโอนเงินไปให้กับทางซ้อปลา จำนวน 50,000 บาท และในวันที่ 6 ก.ย.64 ก็ทักเข้าไปเพื่อที่จะรับดอก เพียงแค่ระยะเวลา 1 นาที ซ้อปลาก็โอนดอกมาให้ตนอย่างรวดเร็ว ตนจึงยอมเก็บต้นเอาไว้ เนื่องจากคิดว่าขณะที่ตกงานก็ยังคงมีเงิน 10,000 บาท ในทุก ๆ เดือน จึงไม่เอะใจที่จะถอนเงินต้นออก

กระทั่งซ้อปลามีปัญหา เป็นข่าวตำรวจบุกค้นบ้าน ทำให้ตนคิดอยากจะถอนเงินต้น ในวันที่ 28 ก.ย.64 จากนั้นวันที่ 29 ก.ย.64 ทางด้านซ้อปลา ก็ตอบกลับมาว่า “ขอเวลาอีกนิดนะ รอปลาเสร็จเรื่อง ปลาโอนให้ค่ะ” ซึ่งตนก็ได้สอบถามเวลาที่ชัดเจน หลังจากนั้นทางด้านซ้อปลาก็ไม่ได้อ่านหรือตอบกลับใด ๆ และไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย โดยวันนี้ตนจึงเดินทางไปยัง สภ.สะทิงพระ เพื่อแจ้งความเรื่อง ขณะนี้ในกลุ่มที่ตนอยู่มีผู้เสียหาย 480 คน คาดว่ามูลค่าน่าจะประมาณ 100 ล้านบาท