เปิดใจหนุ่มต้มมาม่าในร้านสะดวกซื้อ ทำจริง กินจริง หลังอัดคลิปยกหม้อไปทำมาม่าใน 7-11
วันที่ 25 ก.ย.64 ทีมข่าวเดินทางมาพบกับ นายปรีดา พรมเรืองเดช หรือ เอก เจ้าของคลิป ซึ่งเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวอยู่ตรงข้ามกับร้านสะดวกซื้อใน อ.เมือง จ.อุดรธานี
นายปรีดา นำหม้อ กระบวย ที่ใช้เป็นอุปกรณ์ในการถ่ายคลิปมาโชว์ในทีมข่าวดู เปิดเผยว่า เหตุที่เกิดขึ้น 22 ก.ย.64 พวกตนทำง่านกันดึก กลุ่มตน น้อง ๆ เกิดหิวข้าว ซึ่งตอนนั้นแก๊สก็ไม่มี ไฟเตาถ่านก็ไม่มี แล้วอยากกินอะไรร้อน ๆ จึงตัดสินใจจะไปซื้อมาม่าแบบถ้วย แต่ราคาที่สูง เลยมาเอาหม้อที่บ้านไปซื้อมาม่า และขอทางร้านต้ม
โดยมีการขออนุญาตตามในคลิป ร้านก็ใจดี และก็ยังไปเอาน้ำร้อนมาเติมเพิ่มให้ เนื่องจากน้ำในกระติกที่ต้มของร้านหมด วันนั้นซื้อไป 320 บาท ตนใส่มาม่าไปราว 10 ห่อ กินกัน 4 คน ตนเองทำงานกันดึกกำลังจะเปิดร้านก๋วยเตี๋ยว กำลังเดินไฟฟ้ากัน เลยทำงานดึก
ยอมรับว่าตกใจ หลังจากคนดูเยอะ คนติดตามเยอะ คอมเมนต์ก็มีดราม่าบ้าง ซึ่งส่วนตัวรับว่าทำไปเพราะความหิว ยืนยันตนเองไม่ได้จัดฉาก ทำไปเพราะหิว ไม่ได้ทำเล่น แต่ทำแล้วกินจริง ๆ ส่วนตัวไม่กังวลเรื่องดราม่า เข้าใจมีทั้งคนชอบและไม่ชอบ
นายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความ กล่าวว่า จากภาพที่ปรากฏในคลิปที่เป็นข่าวออกมาเกี่ยวกับกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง มีการถือหม้อใบใหญ่เข้าไปในเซเว่น หรือร้านสะควกซื้อ มีการพากันไปสร้างคอนเทนต์แปลก ๆ ด้วยการไปเอามาม่า เนื้อหมู จำพวกผักในร้านสะดวกซื้อนำไปใส่น้ำร้อนลวก หลังจากที่มีการปรุงเสร็จแล้วจึงนำไปจ่ายเงิน ซึ่งกรณีนี้ถือว่าเป็นการทำความผิดตามกฎหมายหรือไม่นั้น คือในส่วนของการลักทรัพย์ พิจารณาประการแรกต้องเป็นการกระทำที่เจตนา ทุจริต ที่จะไม่ชำระเงิน แต่กรณีนี้เด็กวัยรุ่นกลุ่มนี้ มีความคึกคะนองไป แต่มีความขาดเจตนาทุจริต เจตนาลักทรัพย์ มีการนำของที่มีการปรุงไปชำระเงินให้กับทางพนักงาน
ซึ่งในส่วนตรงนี้มีความเจตนาภายในไม่ครบองค์ประกอบการกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ ดังนั้นจากในคลิปดังกล่าวนี้ไม่มีความผิดฐานลักทรัพข์แต่อย่างใด ส่วนจะมีความผิดตามข้อหาอื่นหรือไม่ เนื่องจากภาพตามคลิปไม่มีการบ่งบอกถึงความเดือคร้อน แต่ถ้าหากไปก่อความเคือคร้อนให้กับคนอื่นก็อาจจะมีความผิด แต่ตามคลิปยังไม่มี แต่ในส่วนตัวของตนเองก็คิดเห็นว่ามีความไม่เหมาะสม