จากกรณีเพจแม่ทัพลิง อินร่างทรง โพสต์คลิปวิดีโอ ขณะแม่นิดอ้างตัวว่าเป็นร่างทรงกำลังทำพิธีบวงสรวง และเกิดอาการคล้ายคนถูกองค์ลงมาประทับร่าง ก่อนจะมีการทำท่ายกขาข้างขวาและผายมือไปมา คล้ายคนร่ายรำ พร้อมระบุข้อความว่า "นี่คือท่าพระแม่แหกกี่ ช่างมหัศจรรย์เหลือเกินถถถถถ"
วันที่ 30 มิ.ย. 64 ทีมข่าวเดินทางมาที่ตำหนักศิวา มาตาตรี ซอยสุขสวัสดิ์ 76 อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ภายในตำหนักจะมีรูปปั้นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และรูปภาพพระศิวะ พระแม่อุมาตั้งอยู่เป็นจำนวนมาก โดยช่วงเย็นที่ตำหนักจะไม่ได้รับลูกศิษย์
จากการสอบถามแม่นิด หรือ นางมนัสนันท์ โหมดวัฒนมงคล อายุ 59 ปี ร่างทรงพระศิวะ และพระแม่อุมา รวมถึงเป็นเจ้าของตำหนักศิวา มาตาตรี เปิดเผยว่า ที่สำนักสงฆ์มีคนนำพระศิวะไปตั้งไว้นานแล้วประมาณ 2 ปีได้ กระทั่งพระศิวะได้เข้าฝันพระอาจารย์บอกว่า นั่งตากแดดอยู่นาน ทำไมไม่ทำหลังคาเทวาลัยให้ พระอาจารย์เลยก่อสร้างเทวาลัยให้องค์พระศิวะ หลังจากที่ทำหลังคาเสร็จ ลูกศิษย์ที่สำนักสงฆ์มองว่าต้องมีบวงสรวง และรู้จักกับตนซึ่งเป็นร่างของพระศิวะพอดี เชิญตนไปบวงสราว เพื่อที่จะได้ทำการขอพร
ระหว่างที่ตนทำพิธีบวงสรวง องค์พระศิวะได้เข้ามาผ่านร่างของตน เพราะตนเป็นร่างทรง ทำให้ตนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ และเกิดเหตุการณ์ร่ายรำและยกขาตามในคลิป เรียกว่า "ลีลาธรรมของพระศิวะ" ปกติแล้วพระศิวะจะไม่ค่อยพาออกร่ายรำ เพราะองค์พ่อศิวะมักจะเบื้องหลังองค์แม่พระอุมา แต่ที่ไหนมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีเทพเทวดาอยู่
ทั้งนี้ ไม่มีใครอยากจะเลียนแบบท่าทางของเทพ เพราะเป็นเรื่องที่บาป ซึ่งส่วนตัวกว่าตนจะยอมรับการเป็นร่างทรงได้ ก็ใช้เวลานานเหมือนกัน แต่ถ้าทำเพื่อช่วยเหลือมนุษย์ ตนก็ยินดี เพราะทุกครั้งที่ลูกศิษย์ และกลุ่มคนที่ตนช่วยเหลือมีชีวิตดีขึ้น ตนก็รู้สึกภูมิใจที่สามารถช่วยเหลือคนได้ ครั้งแรกที่ตนไปที่ถ้ำมรกต เพราะลูกศิษย์เชิญให้บวงสรวง พระอาจารย์ที่สำนักสงฆ์เคยกล่าวว่าถ้าตั้งใจทำดีก็ทำไป ไม่ได้ห้าม แต่พระอาจารย์ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในพิธี
โดยสาเหตุที่ตนไปทำพิธีด้านหน้าถ้ำ เพราะบริเวณนั้นเป็นที่อยู่ของเทพเทวดา และส่วนตัวมีญาณเทพเทวดา อธิษฐานกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในถ้ำ ขอได้โปรดบอกลูกนิดว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต้องการอะไร แม่นิดจะได้เป็นสื่อการ ตนจึงรู้ว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ตรงถ้ำมรกตมีพ่อปู่ศรีสุทโธอยู่ ทั้งนี้ บริเวณถ้ำมีชาวบ้านไปบวงสรวงกันเยอะไม่ใช่แค่ตน อีกทั้งตนเป็นร่างทรง ถ้าไม่ไปทำพิธีในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์จะให้ไปทำที่ถนนก็คงจะไม่เหมาะสม
หลังจากนี้ตนคงจะไม่ไปแล้ว เพราะตนรู้สึกสงสารพระอาจารย์ที่ถูกโจมตี และพระอาจารย์อยู่ที่วัดคนเดียว ถ้าชาวบ้านไม่ไปทำบุญ พระจะฉันอะไร และจะเอาเงินที่ไหนจ่ายค่าน้ำค่าไฟ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวอนสังคมให้เห็นใจพระ อย่ากล่าวโทษพระอาจารย์ เพราะท่านรู้ว่าไม่ใช่กิจของสงฆ์ และบอกตนทุกครั้งว่าอย่ามาทำอะไรอีก แต่พอตนไปถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็มาประทับที่ร่างของตนอยู่ตลอด ซึ่งตนไม่สามารถบังคับตัวเองได้
Advertisement