ถึงโรงพัก! ป้าไก่ทอดลั่นไม่เคยโกงใคร จี้ลูกค้าขอโทษโพสต์กล่าวหาเบี้ยวทอนเงิน 500 (คลิป)
กรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์เรื่องราวสุดงง หลังจากที่ไปซื้อไก่ทอดราคา 85 บาท และจ่ายเงินด้วยแบงก์ 500 แต่แม่ค้ากลับไม่ได้เงินทอน อ้างว่าช่วงนี้ขายไก่ทอดได้กำไรน้อย จึงไม่ทอนเงิน และเป็นช่วงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โดยผู้โพสต์เฟซบุ๊กได้เขียนเรื่องราวว่า “ณ ร้านขายไก่ข้าง ม.บ้านสมเด็จ วันนี้ความอยากของตัวเอง อยากกินหนังไก่ เลยไปซื้อ และเลยซื้อมาฝากน้องชาย หนังไก่ 1 น่องไก่ 1 อกไก่ 1 ข้าวเหนียว 1
เรา : แม่ค้าราคาทั้งหมดเท่าไร
แม่ค้า : ทั้งหมด 85 บาท
เรา : จ่ายแบงก์ 500 แม่ค้าไม่ได้ทอนเงินมาให้
แม่ค้า : ทอนแล้ว
เรา : ยังไม่ได้ทอนค่ะ หนูให้แบงก์ 500 แม่ค้าไป แม่ค้าบอกทั้งหมด 85 บ.
แม่ค้า : ไม่มีแบงก์ 500 และพอสักพักแม่ค้าเปิดกระเป๋าสีขาว เจอแบงก์ 500 แม่ค้าเงียบ
แม่ค้า : วันนี้แม่ค้าก็ขายได้เท่านี้แหล่ะ เงินพอดีกับของที่ขาย ถ้าแม่ค้าทอนให้อีก แล้วแม่ค้าจะตอบนายจ้างว่ายังไง
เพื่อนเรา : เข้าใจว่าขายมันต้องได้กำไร
แม่ค้า : ปกติก็ได้กำไรจากการขายไก่อยู่แล้ว
เรา : สรุปว่านี่ร้านตัวเองหรือเขาจ้าง แล้วแม่ค้าจะทอนไหม
แม่ค้า : ไม่ทอน ทอนให้ไม่ได้ วันนี้ขายได้เท่านี้เอง
เพื่อน : กลับเถอะ ถือว่าฟาดเคราะห์ ได้กินไก่ราคา 500 จ้าาาาาาา
ล่าสุดวันที่ 28 เม.ย.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้ลงพื้นที่สำรวจจุดเกิดเหตุ ปรากฏว่าร้านปิดแล้ว เนื่องจากขายตั้งแต่เช้ามืดถึงช่วงบ่ายเท่านั้น แต่ทีมข่าวก็ได้เจอกับ ลุงโหล อนุวัฒน์ จำนงค์นิตย์ ซึ่งเป็นพ่อของเจ้าของร้านไก่ทอด กล่าวยืนยันว่า ร้านขายไก่ทอดไม่ใช่ของป้าแม่ค้าคนที่ปรากฏในรูป และก็ไม่ใช่ญาติกัน แต่เป็นลูกจ้างเพราะรู้จักกันและมีบ้านใกล้กัน
ลุงโหล เล่าให้ฟังอีกว่า ลูกจ้างคนดังกล่าวเป็นคนซื่อสัตย์มาก ไม่ขี้โกง แม้ลืมทอนเงินลูกค้าเพียงแค่ 3 บาท เขายังจำได้ จึงเป็นคนที่ไว้ใจได้ ไม่เช่นนั้นตนคงไม่กล้าปล่อยร้านไว้ให้คุณป้าขายตามลำพัง เพราะลูกชายก็ไปวิ่งแกร็บ ตนก็ขายน้ำ ไม่มีใครมานั่งเฝ้าร้านขายไก่
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนไม่เชื่อ ทุกวันนี้คุณป้าร้องไห้ทุกวัน และนอนไม่หลับ เพราะเขายืนยันกับตนว่า ทอนเงินลูกค้าไปแล้ว โดยเขาเล่าให้ตนฟังว่า หากลูกค้าไม่ได้รับเงินทอนจริง ๆ ควรจะทวงตั้งแต่แรก ไม่ใช่หายไปเป็นชั่วโมงแล้วค่อยกลับมาทวงเงินแบบนี้
อย่างไรก็ตาม ทีมข่าวได้พูดคุยกับผู้โพสต์เฟซบุ๊ก ทราบว่าได้เข้าแจ้งความป้าขายไก่ทอดที่ สน.บางยี่เรือ โดยทางตำรวจได้มีการเรียกคู่กรณีมาด้วย ซึ่งตอนนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบสวน
ในช่วงเวลา 18.50 น. ทางผู้เสียหายซึ่งเป็นคนโพสต์เฟซบุ๊ก ได้เดินออกมาจากห้องสอบสวน โดยไม่ให้สัมภาษณ์ใด ๆ กับผู้สื่อข่าว ระบุเพียงสั้น ๆ ว่า "เรื่องมันจบแล้ว" หลังจากนี้ตนจะชี้แจงอีกครั้งผ่านช่องทางเฟซบุ๊ก จากนั้นก็เดินทางกลับทันที
ป้าหนู แม่ค้าขายไก่ทอด เปิดเผยว่า หลังจากมีการเจรจากับทางผู้โพสต์ ก็ได้ขอโทษตนที่นำเรื่องราวลงไปโพสต์ในโลกโซเชียลฯ เขาบอกว่าคาดไม่ถึงว่าเรื่องจะถูกแชร์มากมายขนาดนี้ สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา คนโพสต์มาซื้อไก่ จ่ายด้วยแบงก์ 500 ซึ่งตนยืนยันว่าได้ทอนเงินไปแล้ว โดยซื้อเสร็จคนโพสต์ก็ได้กลับไป และอีกชั่วโมงก็กลับมาใหม่พร้อมทวงเงินทอน
ในตอนนั้นตนไม่อยู่ร้าน ไปล้างของอยู่อีกที่หนึ่ง ตนจึงถอดแมสก์ออก แต่พอมีคนมาตามว่าลูกค้ามาทวงเงินทอน ตนก็ตกใจรีบวิ่งมาแบบไม่ได้ใส่แมสก์อย่างที่เห็นในรูป จากนั้นตนก็รีบเปิดกระเป๋าดูพบว่ามีเงินอยู่ 500 บาท ซึ่งทั้งวันตนก็ขายได้เท่านี้ ตนจึงบอกว่าหากตนทอนเงินอีก ก็จะไม่มีเหลือให้เถ้าแก่แล้ว เท่ากับตนทอนให้ลูกค้าไปแล้ว ตนยืนยันว่าไม่ได้มีการพูดว่า "วันนี้กำไรน้อย เลยทอนให้ไม่ได้ เท่ากับว่าสิ่งที่คนโพสต์เขียนไป ไม่ได้เป็นความจริง 100% เพราะหนึ่งเขามากับพ่อไม่ได้มากับเพื่อน สองเขามาทวงครั้งที่ 2 ไม่ได้ทวงครั้งแรก และสามป้าไม่ได้พูดว่าจะไม่ทอนเงิน เพราะกำไรน้อย แต่บอกว่าไม่ทอน เพราะทอนไปแล้ว"
อย่างไรก็ตาม ลูกค้ารายนี้บอกกับตนว่า "ทวงแล้วตั้งแต่รอบแรก" ตนจึงท้าสาบานตรงนี้เลยว่าไม่ได้ยิน แล้วถามกลับว่า "ถ้าไม่ได้เงินจริง ๆ จะออกไปจากร้านได้ยังไง" ตนยืนยันว่าตนไม่เคยมีนิสัยโกงใคร ตนขายของตรงนี้มานานกว่า 28 ปี ถ้าตนเป็นคนไม่ดีคงไม่ได้ขายมานานขนาดนี้ โดยจากการเจรจากันวันนี้มีข้อตกลงกันว่า ลูกค้าต้องโพสต์ชี้แจงและขอโทษผ่านโซเชียลฯ ไม่เช่นนั้นตนจะฟ้องกลับ เพราะทำให้ตนเสื่อมเสียชื่อเสียง
Advertisement
