จากกรณีนายสิทธิพงษ์ หรือ โหม่ง หรือ โม่ง จ่าสะอาด อายุ 23 ปี ก่อเหตุยิง ร.ต.ต.ชาญวิทย์ ดิษฐ์เจริญ อายุ 53 ปี รองสารวัตรสืบสวนสถานีตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรีเสียชีวิต หลังจากที่ผู้ตายเข้าไปตักเตือนกลุ่มผู้ก่อเหตุขณะตั้งวงเหล้าในปั๊มน้ำมัน เนื่องจากมีความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมโรงระบาด และพ.ร.ก.ฉุกเฉิน
ต่อมาคืนวันที่ 8 ก.พ. 64 เวลา 22.00 น. หลังก่อเหตุ นายโหม่งหลบหนีและถูกจับกุมได้ในพื้นที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เจ้าตัวสารภาพก่อเหตุจริง เนื่องจากโมโหที่ถูกผู้ตายผลักอกก่อน
สืบเนื่องจากเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่นำหมายค้นลงพื้นที่ไปยังบ้านของแก๊งค์นายโหม่ง มือยิงหมวดโย่ง ต.ศาลาขาว อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี โดยมีการกระจายกำลังตรวจค้นบ้านภายในห้องพัก เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด 3 จุด
เริ่มที่จุดแรก บ้านของนายก้อง ล่าสุดได้ติดต่อขอเข้ามามอบตัวและประกันตัวออกไป พร้อมปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา จุดที่ 2 บ้านนายโหม่ง ผู้ต้องหา พบเสื้อผ้าส่วนหนึ่ง จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน จุดที่ 3 ห้องเช่าที่นายโหม่งเช่าอาศัยในพื้นที่ อ.เมืองสุพรรณบุรี
พบอาวุธปืนดัดแปลง 1 กระบอก ซุกซ่อนอยู่ในถุงเท้าซ่อนไว้ บนเพดานฝ้าภายในห้องพัก เจ้าหน้าที่ได้นำลงมาตรวจสอบ พร้อมเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ล่าไอ้โหม่งจ่อยิงหัวตำรวจ ญาติปัดพาหนีขออย่าสู่หวั่นถูกเก็บ เพื่อนมอบตัวปัดร่วมฆ่า (คลิป)
ล่าสุด วันที่ 9 ก.พ. 64 ทีมข่าวเดินทางกลับมาที่ปั๊ม ปตท. สวนแตง ที่เกิดเหตุ ครอบครัวผู้เสียชีวิตเดินทางมา ทีมข่าวได้พูดคุยกับ ญาติของผู้ตาย ให้ข้อมูลว่า ศพของผู้ตายจะยังไม่จัดพิธีทางศาสนา เนื่องจากจะรอให้พ้นวันตรุษจีนไปก่อน เนื่องจากตามธรรมเนียมจีนแล้วจะถือกันว่าจะไม่มีใครมาร่วมงานช่วงนี้ โดยจะจัดรดน้ำศพวันที่ 16 ก.พ. 64 ที่วัดสังฆจายเถร จ.สุพรรณบุรี
ญาติของผู้ตาย ระบุว่า ผู้ตายเป็นคนโผงผาง เป็นคนดี ชอบช่วยเหลือคน เป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ วันที่เกิดเหตุผู้ตายไปสั่งกับลูกน้องในโรงงานเอาไว้ทำนองว่า "หากผู้ตายไม่อยู่ ในดูแลอู่ให้ดี และเพิ่งนำไดนาโมไปซ่อมไว้ จ่ายเงินไว้แล้ว ให้ไปเอาด้วย" คล้ายว่าจะสั่งเสีย ก่อนที่ช่วงค่ำผู้ตายจะออกมา
นอกจากนี้ วันเกิดเหตุผู้ตายเดินทางมากับเพื่อน ผู้ตายเพิ่งไปทำงานด้านคดีมาอีกที่หนึ่ง และมีการจอดเข้ามาในปั๊มเพื่อเติมน้ำมัน เข้าห้องน้ำ ก่อนจะมาเกิดเรื่อง หลังจากเพื่อนเข้าห้องน้ำเสร็จออกมาที่รถไม่เจอผู้ตาย ก่อนจะมารู้ว่าถูกยิงเสียชีวิต
ทีมข่าวเดินทางมาที่ขนส่งสุพรรณบุรี ได้ข้อมูลว่าหลังก่อเหตุ คนร้ายเข้ามาที่ตู้ซื้อตั๋ว 952 ปลายทาง กทม. (สายใต้ใหม่) ค่าตั๋ว 100 บาท ซึ่งให้บริการรถเวลา 04.00-18.30 น. เท่าที่ทราบคนร้ายมีการซื้อตั๋ว และไม่ได้ไปใช้บริการจุดอื่น เดินขึ้นรถตู้ที่จอดที่ท่าเทียบรถทันที
นายมงคลทิวัตถ์ ศุภราบวรวงศ์ พนักงานขายตั๋ว เปิดใจว่า ตนเองไม่ทราบว่าชายคนนี้เป็นคนร้าย แต่หลังเกิดเรื่องตนมาจำได้ คนร้ายลงจากรถจักรยานยนต์รับจ้าง ตนสอบถามคนร้ายว่าจะเดินทางไปที่ไหน คนร้ายตอบตนว่าจะไปที่ จ.ชลบุรี ตนจึงแนะนำให้ไปลงสายใต้ใหม่ คนร้ายไม่ได้พูดอะไรมาก และไม่ได้เลือกดูตั๋วสายอื่น
โดยตนคิดค่าตั๋ว 100 บาท คนรายมีท่าทีแปลกคือมือเกร็ง ไม่ยอมยื่นเงินให้ตน ตนต้องเป็นคนดึงเงินออกจากมือคนร้าย พบว่าคนร้ายถือเงินอยู่ 200 บาท หลังจากนั้น โดยผิดสังเกตว่าผู้โดยสารทั่วไปคือมาคนแรก แต่เจ้าตัวเดินเข้าไปนั่งก้มหน้าก้มตาอยู่ที่แถวหลังสุดของรถ
อย่างไรก็ตาม ตนเองยอมรับว่าตกใจหลังจากรู้ว่าคนร้ายที่ฆ่าตำรวจมาขึ้นรถที่ตนขายตั๋วให้ ยอมรับว่าพูดทีไรก็ขนลุก เพราะผู้โดยสารคนแรกของรถคันนั้นกลายเป็นอาชญากรฆ่าคนตาย
ล่าสุด พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. กล่าวแถลงการจับกุมผู้ก่อเหตุ มีการช่วยเหลือครอบครัวของ ร.ต.ต.ชาญวิทย์ ถือเป็นการเสียชีวิตในขณะปฏิบัติหน้าที่ ทายาทหรือภรรยาจะได้รับสิทธิให้เข้ารับราชการตำรวจ ในเบื้องต้นได้มอบเงินฌาปนกิจสงเคราะห์ที่ผู้ตายได้ทำไว้ รวมทั้งสิ้น 150,000 บาท พร้อมกับให้เงินช่วยเหลือส่วนตัว เพื่อเป็นกำลังใจให้ครอบครัวผู้ตาย
นายสุวัฒน์ ดิษเจริญ น้องชายผู้ตาย เปิดเผยว่า รู้สึกดีใจที่ตำรวจจับคนร้ายได้ พี่ชายเป็นตำรวจปฏิบัติหน้าที่สายสืบมาเป็นระยะเวลายาวนานแล้ว แต่คนร้ายยังกล้าลงมือก่อเหตุ ตนเชื่อมั่นว่าการทำงานของน้องชายซึ่งปฏิบัติหน้าที่ยังโดนการก่อเหตุเช่นนี้ ตนคงปล่อยให้เป็นไปตามการตัดสินของกระบวนการตามกฎหมาย กฎแห่งกรรม ขณะที่มีกำหนดบำเพ็ญกุศลในวันที่ 16 ก.พ.64 จะมีพิธีรดน้ำศพ และฌาปนกิจ ในวันที่ 21 ก.พ. 64
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยังพื้นที่ หมู่ 10 ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เป็นอาคารพาณิชย์ โดยมีห้องว่างให้เช่าด้านบน 3 ชั้น โดยเจ้าหน้าที่หลังจับกุมผู้ต้องหาได้นำตัวมาชี้จุด
นางแย้ม (นามสมมติ) อายุ 59 ปี ผู้เช่าพัก บอกว่า เมื่อวานนี้เวลาประมาณ 20.00 น. ตนกลับจากการขายของ เห็นมีผู้หญิง 2 คน ยืนอยู่หน้าประตูแต่ไม่มีคีย์การ์ด ซึ่งตนก็ต่อแถวเตรียมจะเข้าตึกเพื่อเอากับข้าวมาให้ลูกชายกับลูกสะใภ้ จากนั้นก็เหลือบไปเห็นผู้ชายใส่เสื้อสีแดงลงมาเปิดประตูให้ คือนายโหม่ง เจ้าตัวรีบบึ่งขึ้นบันไดอย่างรวดเร็ว จากนั้นตนก็เดินทางกลับไปนอนอีกที่ แล้วมารู้ข่าวอีกทีว่า ห้องข้างคือโจรเข้ามาหลบหนีคดีอยู่ ตนก็รู้สึกตกใจเป็นห่วงลูก ตอนนี้พอรู้ข่าวว่าสามมารถจับกุมตัวได้แล้วก็รู้สึกอุ่นใจ
ที่ห้องพักที่นายโหม่งซ่อนอาวุธปืน นายไก่ (นามสมมติ) คนพักอาศัยในอาคาร เปิดเผยว่า ตนเองอยู่ห้องเช่าชั้น 1 เห็นผู้ก่อเหตุอาศัยอยู่ที่นี่ไม่กี่วัน มาอยู่กับผู้หญิง คาดว่าเป็นแฟนสาว ช่วงสายก่อนวันเกิดเหตุตนเองยังเจอนายโหม่งเดินลงมาจากห้องพักผ่านตน และยิ้มให้ตน ทุกอย่างดูปกติ ก่อนหน้านี้ตนเองเคยเข้าไปซ่อมฝักบัวอาบน้ำห้องผู้ก่อเหตุ ก็ไม่เคยเห็นอะไรผิดปกติ แต่มีช่างที่เคยมาซ่อมแอร์ เล่าให้ตนฟังว่ามีวันหนึ่งเข้าไปซ่อมแอร์พบผู้ก่อเหตุมีอาการแปลก ๆ คือยืนเฝ้าแถวเตียงนอน คาดว่าอาจจะซ่อนปืนไว้ที่จุดนั้น จนมาทราบเรื่อง
น้าชายและน้าสะใภ้ของนายโหม่ง ผู้ก่อเหตุ ระบุว่าวันนี้เดินทางไปที่โรงพักแต่ไม่ถึงตัวหลาน เพราะตำรวจยังไม่ให้เข้าพบ จึงทำให้ตนเองยังไม่มีโอกาสได้คุยกับหลาน เรื่องของการก่อเหตุตนเองก็ไม่ทราบ ก่อนเกิดเหตุหลานเดินทางเข้ามาที่บ้านเพื่ออาบน้ำ ทำธุระส่วนตัวราว 16.00 น. จากนั้นก็ออกไป และไม่กลับเข้ามาอีกจนเกิดเรื่องขึ้น ส่วนหลานชายปกติจะอาศัยอยู่บ้านตน จนกระทั่งเมื่อ 10 วันก่อนหน้านี้เพิ่งย้ายออกไปอยู่ห้องเช่า ส่วนเรื่องอาวุธปืน ตนเองไม่เคยทราบ เรื่องประกันตัวยืนยันไม่ประกันแน่นอน ขอให้หลานรับกรรมในสิ่งที่ตัวเองทำ
Advertisement