หนุ่มน้อยใจเมียขอตายพิสูจน์รักมีดปักอกดับ เผยอุบเซอร์ไพรส์อีก 8 วันพาจดทะเบียน (คลิป)

กรณีตำรวจสภ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี รับแจ้งว่ามีผู้ถูกทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธมีด ที่ห้องเช่าแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.ช่องสาริกา ที่เกิดเหตุพบเพื่อนร่วมห้องมุงดูอยู่จำนวนหนึ่ง บนพื้นพบร่างนายณัฐพงษ์ กองโพธิ์ หรือ มด อายุ 34 ปี นอนหงายหายใจรวยรินอยู่ที่ทางเข้าห้องเช่า เลือดไหลนองพื้น มีบาดแผลถูกแทงที่ราวนมด้านขวา โดยมี น.ส.พิมพ์ (นามสมมติ) อายุ 36 ปี แฟนสาวคนตาย ซึ่งอยู่ในอาการเหม่อลอย นั่งร้องไห้คร่ำครวญร้องเรียกชื่อคนตายตลอดเวลา

ล่าสุดวันที่ 13 ธ.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยังห้องพักจุดเกิดเหตุ เป็นห้องพักแห่งหนึ่งในหมู่ 8 ต.ช่องสาริกา ลักษณะเป็นห้องแถว 5 ห้องติดกัน ซึ่งห้องหมายเลข 3 มีกองเลือกกองใหญ่ตกอยู่ ทีมข่าวตรวจสอบพบเป็นห้องของเพื่อนข้างห้องที่รู้จักกัน เพราะคนตายและแฟนสาวอาศัยอยู่ห้องหมายเลข 1 แต่วิ่งมาขอความช่วยเหลือเพื่อนข้างห้อง จึงได้เป็นจุดเสียชีวิต

ในระหว่างที่ทีมข่าวลงพื้นที่มานั้น พบว่า น.ส.พิมพ์ (นามสมมติ) แฟนสาว อยู่ในอาการเสียใจ เดินทางมาจุดธูปบอกกล่าวให้นายณัฐพงษ์ หรือ มด ไปสู่สุคติ และหมดห่วง ไม่มีเวรกรรมต่อกัน “ขอให้มดไปสู่สุคติ ไม่มีห่วง ไม่โกรธแค้นต่อกัน ขอให้เธอไปสู่พบภูมิที่ดี ขอให้อโหสิกรรมให้แก้กันและกัน ฉันยังรักเธอเสมอ”

น.ส.พิมพ์ พาทีมข่าวเดินทางไปในห้อง หมายเลข 1 ห้องที่ทั้งคู่อาศัยอยู่ด้วยกันในคืนเกิดเหตุ โดยพบว่าภายในห้อง มีตู้เสื้อผ้าไม้ เป็นรูได้รับความเสียหาย เกิดจากนายณัฐพงษ์ ใช้เป็นที่ระบายอารมณ์ อีกทั้งประตูกระจกของตู้เสื้อผ้า แตกเสียหายทั้งบาน ส่วนบริเวณด้านหน้า น.ส.พิมพ์ แฟนสาว ได้เขียนป้ายข้อความระบุว่า “ห้ามทิ้งก้นบุหรี่ลงพื้น อ่านแล้วกรุณาทำตาม มด” ซึ่งเขียนเอาไว้เตือนให้นายณัฐพงษ์ ทำตาม

นอกจากนี้น.ส.พิมพ์ ยังได้ยกจานข้าว มาให้ทีมข่าวดู ซึ่งเป็นเมนู (ข้าวไข่เจียว + ผัดเห็ด) ที่ทำครัวเอาไว้เมื่อวานนี้ โดยตั้งใจว่าจะนั่งกินพร้อมกันกับนายณัฐพงษ์คนตาย แต่เกิดเหตุทะเลาะมีปากเสียงกันก่อน จึงไม่ทันได้ทานเมนูที่อยู่ในจานข้าว นอกจากนี้ยังได้มีการเก็บเข้าของ อุปกรณ์ของใช้ และเสื้อผ้าของนายณัฐพงษ์ คนตาย ใส่ถุงอย่างเป็นระเบียบ เพื่อจะนำไปที่วัด และเผาไปให้คนตายในวันฌาปนกิจศพ

น.ส.พิมพ์ บอกว่า ในคืนวันเกิดเหตุ ตนตั้งไจทำกับข้าวรอนายณัฐพงษ์ ซึ่งทำเมนูไข่เจียว กับผัดเห็ด แถมยังมีการหุงข้าวเต็มหม้อ แต่นายณัฐพงษ์ ได้ออกไปดื่มสังสรรค์กับเพื่อน แล้วกลับมาช่วงเย็น พร้อมกับอาการมึนเมา ซึ่งตนกับนายณัฐพงษ์ เคยสัญญากันเอาไว้ว่า “จะไม่ดื่มเหล้า” เพราะทุกครั้งที่นายณัฐพงษ์เมา จะมีพฤติกรรมรุนแรง ทำร้านข้าวของ บางครั้งถึงขั้นทำร้ายตัวเอง จึงเป็นที่มาของการตกลงร่วมกันว่าจะไปดื่มเหล้าอีก

แต่ในคืนวันเกิดเหตุ หลังจากที่นายณัฐพงษ์ กลับมาถึงห้อง ตนก็ได้อยู่ในอาการงอน เพราะตั้งไจทำกับข้าวไว้รอ ซึ่งตอนนั้นนายณัฐพงษ์พยายามง้อ แต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ กระทั่งเริ่มมีปากเสียงรุนแรงมากขึ้น ตนเห็นท่าไม่ดี จึงเริ่มหาทางหลบหนีไม่อยากเผชิญหน้า นายณัฐพงษ์ ได้ใช้กำปั้นชกตู้เสื้อผ้าเสียหาย ตนจึงได้ไปหยิบมีดในครัวออกมา เพื่อหวังจะป้องกันตัวเอง แต่ไม่มีเจตนาที่จะใช้แทง หรือทำร้ายร่างกายนายณัฐพงษ์

หลังจากที่ได้มีดแล้ว ก็ได้วิ่งไปขอความช่วยเหลือที่ห้องหมายเลข 4 ซึ่งเป็นญาติของนายณัฐพงษ์ แต่มาถึงห้องหมายเลข 3 ถูกแย่งมีด กระทั่งมีดหล่นจากมือ มีเพื่อนบ้านเข้ามาช่วย ขว้างมีดขึ้นไปบนหลังคา แต่มีดไปโดนชายคาตกลงมาบนพื้น นายณัฐพงษ์ จึงคว้ามีดมาก่อเหตุแทงตัวเองก่อนพูดว่า “กูจะพิสูจน์ความรัก กูจะตายต่อหน้ามึงให้ดู” จากนั้นก็ก่อเหตุแทงตัวเอง และชักมีดออก นอนทุรนทุรายต่อหน้าตน

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนตัวรู้สึกเสียใจมาก ที่เรื่องเล็กน้อยกลายเป็นเรื่องใหญ่ และทำให้ต้องเกิดการสูญเสีย หากย้อนเวลากลับไปได้ ตนจะไม่งอน หรือทำเรื่องเล็ก ๆ ให้เป็นเรื่องใหญ่ และตนก็เพิ่งคบหากับนายณัฐพงษ์ มาได้เพียง 1 ปี ซึ่งในวันที่ 20 ธ.ค.63 ก็จะครบรอบ 1 ปีเต็มพอดี และก่อนที่จะเกิดเหตุ นายณัฐพงษ์เคยพูดกับตัวเองว่า “ปลายปีนี้จะมีเซอร์ไพรส์” โดยตนแอบรู้มาว่า นายณัฐพงษ์ จะพาไปจดทะเบียนสมรส แต่จะไม่มีพิธีแต่งงาน เพราะเปลืองตังค์ แต่คำว่า “เซอร์ไพรส์” ไม่คิดว่าจะเป็นการฆ่าตัวตายต่อหน้าแบบนี้

อย่างไรก็ตาม ตนรู้สึกผิดมาก และพยายามขอโทษแม่ของนายณัฐพงษ์ ซึ่งแม่ก็ไม่ได้ติดใจอะไร เนื่องจากเป็นการตัดสินใจฆ่าตัวตายของนายณัฐพงษ์ แต่ในความรู้สึก ตนก็คิดว่าแม่คงโกรธ และคงไม่อยากให้ตัวเองอยู่ต่อที่ จ.ลพบุรี โดยหลังจากเสร็จพิธีการศพแล้ว ตนก็จะต้องกลับไปใช้ชีวิตที่บ้านเกิดใน จ.กาฬสินธุ์ เพราะเชื่อว่าคนในครอบครัวก็คงยังบอกว่าตนเป็นคนผิดอยู่ดี

ส่วนกรณีข่าวบางสำนัก ได้นำเสนอข่าวว่า ตนเป็นคนแทงนายณัฐพงษ์นั้น อยากจะชี้แจงว่า ไม่มีแฟนคนไหนอยากจะฆ่าแฟนของตัวเอง เพราะที่ผ่านมาแม้ว่าจะมีปากเสียงกันบ่อยครั้ง แต่ก็ไม่เคยมีครั้งไหนที่คิดจะทำร้ายกันให้ตายไปข้างหนึ่ง

ขณะเดียวกัน ทีมข่าวยังได้พูดคุยกับนายตุลานนท์ รุ่งเรือง หรือนนท์ อายุ 40 ปี คนดูแลห้องพัก ในฐานะคนที่เข้าไปห้ามไม่ให้ทั้งคู่ทะเลาะกัน และคนเห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ช่วงก่อนที่จะเกิดเหตุ ตนได้ยินเสียงคนเรียกชื่อ จึงได้เข้าไปที่ห้องเช่า ตอนนั้นได้เข้าไปช่วยระงับเหตุ เพราะทั้งคู่ กำลังมีปากเสียงกัน โดยฝ่ายหญิงมีลักษณะงอน ที่เตรียมทำกับข้าวไว้รอ แต่ฝ่ายชายกลับมาด้วยอาการมึนเมา และผิดสัญญา เนื่องจากดื่มเหล้าแล้วทำให้อารมณ์รุนแรง แต่ในวันนั้นสังเกตว่าฝ่ายชาย ไม่ได้ทำร้ายฝ่ายหญิง ซึ่งเป็นเพียงแค่อารมณ์พูดคุยเสียงดังเท่านั้น

สำหรับนิสัยของนายณัฐพงษ์ จะเป็นคนที่โมโหร้ายเวลาดื่มเหล้าเมา จะไม่ทำร้ายอีกฝ่าย หรือทำร้ายใคร แต่จะมีนิสัยทำร้ายตัวเอง เช่นเหตุการณ์ที่ผ่านมา มีการทุบตีเข้าของ ชกผนัง เอาหัวโขกผนัง ลักษณะประชดแฟนสาวเท่านั้น แต่ไม่ได้ก่อเหตุรุนแรงกับใคร ซึ่งทุกครั้งที่นายณัฐพงษ์ อยู่ในอาการมึนเมา แฟนสาว เพื่อนข้างห้อง หรือแม้แต่ญาติ ทุกคนต่างรู้ดีว่าจะต้องนำของมีคมออกจากห้อง กลัวว่านายณัฐพงศ์จะโมโหทำร้ายตัวเอง

เช่นเดียวกับเหตุการณ์ในคืนวันเกิดเหตุ แฟนสาวได้ถือมีดวิ่งหนีออกจากห้อง เพื่อจะไปขอความช่วยเหลือที่ห้องของญาตินายณัฐพงษ์ แต่ถูกวิ่งตามมาแย่งมีด เพื่อจะทำร้ายตัวเอง โดยมีลักษณะประชดแฟนสาว ต้องการที่จะพิสูจน์ความรัก ต้องการที่จะฆ่าตัวเองตายโชว์ต่อหน้าเมีย แต่เป็นจังหวะเดียวกันกับที่เพื่อนข้างห้องเข้ามาช่วยระงับเหตุ หยิบมีดแล้วปาขึ้นบนหลังคา แต่มีดขว้างไม่พ้นติดกับชายคา ตกลงมาที่พื้นเหมือนเดิม ฝ่ายชายจึงได้ความมีดทำร้ายตัวเองโชว์ต่อหน้าแฟนสาว และมีการชักมีดออกจนเลือดกระเซ็นเต็มพื้น ตนจึงได้เข้าไปช่วยปฐมพยาบาล และช่วยทำ CPR แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะฝ่ายชายเริ่มหายใจรวยริน เนื่องจากเสียเลือดมาก

แต่สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนขอยืนยันอีกครั้ง ในฐานะคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุ น.ส.พิมพ์ แฟนสาวของนายณัฐพงษ์ ไม่มีเจตนาหรือคิดที่จะทำร้ายแฟนตัวเอง แต่เป็นเพราะอารมณ์น้อยใจของฝ่ายชาย จึงได้ก่อเหตุดังกล่าวขึ้น และเป็นการจบชีวิตตัวเอง 

เวลา 16.15 น. บรรยากาศที่วัดราชมงคล ต.ช่องสาริกา จ.ลพบุรี ซึ่งเป็นที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของ นายณัฐพงษ์ กองโพธิ์ หรือมด อายุ 34 ปี บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า ซึ่งวินาทีที่รถจากมูลนิธิร่วมกตัญญู ได้นำร่างของนายณัฐพงษ์ เดินทางมาถึงศาลาสวดศพ สังเกตได้ว่า แม่ของนายณัฐพงษ์ และแฟนสาว ยืนรอรับอยู่บริเวณหน้าศาลา ด้วยอาการโศกเศร้าเสียใจ ร้องไห้ตลอดเวลา

จากนั้นพิธีรดน้ำศพได้เริ่มขึ้น ซึ่งแม่ของผู้ตาย ได้ส่งเสียงร้องไห้ดังลั่นศาลา และเข้าไปอบกอดศพลูกชาย ซึ่งไม่ต่างจากน.ส.พิมพ์ แฟนสาวของคนตาย ที่ร้องไห้อยู่ใกล้กับศพ ไม่ลุกหนีไปไหนเหมือมกัน สำหรับพิธีฌาปนกิจศพ มีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 15 ธ.ค.63

โดยทีมข่าวได้เข้าไปพูดคุยกับแม่ของนายณัฐพงษ์ คนตาย ซึ่งอยู่ในอาการช็อก และเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยังคงนั่งร้องไห้อยู่ตลอดเวลา ไปพร้อมที่จะให้สัมภาษณ์ใด ๆ ตอบแต่เพียงสั้น ๆ ว่า “ไม่คิดอะไรแล้ว ลูกตายแล้ว เสียใจมาก”

นายณรงศักดิ์ ผ่องจิต หรือ แปะ อายุ 40 ปี คนสนิทของคนตาย ในฐานะนายจ้างของแม่คนตายและอดีตนายจ้างของคนตาย เปิดเผยว่า จากการพูดคุยในระดับญาติด้วยกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบแล้วพบว่า เป็นเจตนาฆ่าตัวตาย ซึ่งญาติก็ไม่ได้ติดใจอะไร แต่ในความรู้สึกของแม่คนตาย อาจมีติดใจเล็กน้อย ที่ฝ่ายหญิงทะเลาะกันจนต้องมีการประชดรักแบบนี้ แต่ก็เชื่อว่า เป็นแค่ความรู้สึก อีกไม่นานคงดีขึ้น เพราะเรื่องแบบนี้ต้องใช้เวลาทำใจก่อน

ส่วนคนตาย เป็นคนขยันทำมาหากิน และสนใจดูแลครอบครัวเป็นอย่างดี เพราะที่ผ่านมา นับแต่มีแฟนสาว ก็ไม่ได้ให้แฟนต้องลำบาก ซึ่งเจ้าตัวเคยพูดเอาไว้ว่า “ผมจะเหนื่อย แต่แฟนสาวต้องไม่เหนื่อย ไม่จำเป็นต้องไปนั่งทำงานให้เหนื่อย” จึงยืนยันได้ว่า นายณัฐพงษ์ เป็นคนที่รักแฟนมาก แต่มีข้อเสียเวลาเมาแล้วอาจจะหัวร้อน รุนแรง ควบคุมสติอารมณ์ไม่อยู่ และเป็นคนขี้ใจน้อย จึงทำให้เกิดอารมณ์ประชดรักครั้งนี้

จากนั้นทีมข่าวได้ตรวจสอบเฟซบุ๊กของคนตาย พบว่าโพสต์สุดท้าย เมื่อวานนี้ เวลา 15.00 น. ระบุว่า “คนอื่นเก็บทรงไม่อยู่...#แต่กูเก็บเงินไม่อยู่” ขณะที่ความเคลื่อนไหวของฝ่ายหญิง ไม่ได้มีการโพสต์หรือลงข้อความอะไรในก่อนวันเกิดเหตุ แต่โพสต์หลังจากเกิดเหตุ ระบุว่า “ขอให้มด...ไปสู่ภพภูมิที่ดี...ต่อไปคงไม่มีคนเคียงข้างฉันแล้ว...ไม่ต้องเป็นห่วงนะ”

นอกจากนี้ น.ส.พิมพ์ ยังส่งแชตข้อความสุดท้าย ที่มีการพูดคุยกับนายณัฐพงษ์ ซึ่งมีการทักข้อความและโทรผ่านเฟซบุ๊กไปหา เพื่อสอบถามว่าอยู่ไหน ทำไมไม่กลับมาบ้าน ไม่กลับมาทานข้าว โดยเป็นช่วงเวลาประมาณ 16.35 น.