
วันที่ 4 ธ.ค.2568 พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ เปิดเผยความคืบหน้าคดี “นานา ไรบีนา” ว่า การสอบปากคําเมื่อวานนี้มีทีมทนายความและผู้ที่ไว้วางใจได้เข้าร่วมรับฟังการสอบปากคําด้วย ในชั้นพนักงานสอบสวนเบื้องต้น “นานา” ยังให้การปฏิเสธแต่จะขอคัดเอกสารคําให้การมายื่นภายหลัง
ส่วนเรื่องหลักฐานปลอม พ.ต.อ.นิตติโชติ เพ็ญจำรัส รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ระบุว่า เป็นเรื่องการปลอมสลิปเพื่อกล่าวอ้างกับผู้เสียหายรายหนึ่งว่านําเงินไปลงทุนแล้วแต่จากการตรวจสอบพบว่ามีการแก้ไข เบื้องต้นมีผู้เสียหาย 1 ราย ไม่ใช่ดาราและจํานวนเงินไม่มาก รอตรวจสอบเอกสารหลักฐานและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพิ่ม ส่วนเอกสารการโอนหุ้นเป็นเพียงการกล่าวอ้างกับผู้เสียหายอีกท่านหนึ่งเท่านั้น ซึ่งตรวจสอบแล้วพบว่าเลขใบหุ้นไม่ใช่ของ “นานา” อาจเป็นของคนอื่นซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบผู้เกี่ยวข้องว่ามีการโอนต่ออย่างไรบ้างเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงซึ่งเป็นหุ้นในธุรกิจร้านตัดผม ในส่วนของ Ledger-nano-x (Hhardware Wallet) กําลังให้ผู้เชี่ยวชาญพร้อมขอรหัส เพื่อตรวจสอบว่าข้างในนั้นมีทรัพย์อยู่หรือไม่หากมีเป็นของใครและเกี่ยวข้องกับการกระทําผิดหรือไม่ ซึ่ง “นานา” ปฏิเสธว่าไม่ใช่ของตัวเอง อ้างเป็นของคนอื่น แต่ยังไม่ชัดเจนว่าเป็นของ “เวย์ ไทเทเนียม” สามีหรือไม่ ซึ่งอยู่ระหว่างประสาน “เวย์“ เข้ามาสอบปากคํา แต่ก็จะมีการออกหมายเรียกอยู่แล้ว
ทั้งนี้หาก “เวย์” จะเข้ามาพบทางตํารวจยินดีแต่ขอให้ประสานเข้ามาทั้งในและนอกเวลาราชการเพื่อให้พนักงานสอบสวนได้จัดเตรียมเอกสารในการสอบปากคํา
เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่ว่าพนักงานสอบสวนมีการแยก “เวย์ ไทเทเนียม” ไปสอบสวนก่อนนี้นั้นจริงหรือไม่ ทาง พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ ยืนยันว่า “เวย์” ไม่ได้เดินทางเข้ามาพบพนักงานสอบสวนแต่อย่างใด อยู่ระหว่างพิจารณาทุกมิติว่าเกี่ยวข้องหรือร่วมในการกระทําผิดกับ “นานา” หรือไม่ หากมีก็จะต้องดําเนินการตามกฎหมาย
ส่วนกรณีการหย่าร้างนั้น ทางตํารวจไม่ทราบเพราะเป็นเรื่องส่วนตัวแต่ยืนยันว่าหากหย่ากันจริง ไม่มีผลกระทบกับรูปคดี เพราะดูจากเส้นทางการเงินและพฤติการณ์ของแต่ละบุคคลเป็นหลัก เบื้องต้นจากการสอบสวนไม่มีเส้นเงินพาดพิงไปถึงทาง “เวย์” แต่ผู้เสียหายรายอื่นยังไม่ทราบหากมีขอให้เข้ามาเพราะจัดทีมพนักงานสอบสวนไว้รอแล้ว
เมื่อถามถึงอาการของ “นานา” หลังมีกระแสข่าวว่าเครียดหนักถึงขั้นเกือบต้องนําตัวส่งโรงพยาบาลนั้น ยอมรับว่า “นานา” เครียดเป็นธรรมดา มีการนํายาเข้ามารับประทานแก้เครียด ซึ่งเมื่อคืนเจ้าตัวมีอาการแพนิค หัวใจเต้นผิดปกติเพราะเครียด จึงส่งทีมพยาบาลเข้าไปดูแลเมื่อกินยาและพักก็อาการดีขึ้น
ส่วนจะเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชนหรือไม่ พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ ระบุว่า องค์ประกอบสําคัญของฉ้อโกงประชาชนคือต้องมีการโฆษณาให้บุคคลทั่วไปทราบแต่ของ “นานา“ เป็นการเจาะจงเพียงกลุ่มเพื่อนสนิทเท่านั้น ทําให้ตอนนี้ยังไม่เข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน
ส่วนกรณีสังคมตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดระหว่างคุมตัว “นานา” ไปฝากขังต่อศาลเมื่อเช้าถึงจัดกําลังเจ้าหน้าที่เกือบ 10 นาย นั้น ยืนยันไม่ได้เลือกปฏิบัติหรือมีสิทธิพิเศษเป็นเพียงการพิจารณาจากเหตุเฉพาะหน้าป้องกันการเกิดความวุ่นวาย เนื่องจากสื่อให้ความสนใจ
สําหรับประเด็นที่ว่าทาง “เวย์ ไทเทเนียม” มีการไปยืมเงินเพื่อนนั้น ทางตํารวจก็ทราบจากข่าวเช่นเดียวกัน เบื้องต้นยังไม่มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ ส่วนมูลค่าความเสียหายคดี “นานา” ตอนนี้ยังอยู่ที่ 195 ล้านบาท ยังไม่เข้าข่ายเป็นคดีพิเศษ
Advertisement