
วันที่ 8 พ.ย. 68 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สืบนครบาล5 นำกำลังได้ร่วมกันจับกุม นายกัปกัลป์ หรือ โซ อายุ 32 ปี โดยกล่าวหาว่า “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน หรือยาไอซ์) ไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต , เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน หรือ ยาไอซ์) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย , มีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งธนบัตรรัฐบาลไทยปลอมและธนบัตรต่างประเทศปลอม อันตนได้มาโดยรู้ว่าเป็นของปลอมฯ”
พร้อมด้วยของกลาง
· ลำดับที่ 1 ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน หรือยาไอซ์) บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใสแบบกดปิดดึงเปิด จำนวน 1 ถุง ชั่งเฉพาะยาเสพติดน้ำหนัก 1.53 กรัม และชั่งถุงพลาสติกใสแบบกดปิดดึงเปิดน้ำหนัก 0.42 กรัม น้ำหนักรวมถุง 1.95 กรัม (พบอยู่บนชั้นวางของในห้องน้ำ)
· ลำดับที่ 2 ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน หรือยาไอซ์) บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใสแบบกดปิดดึงเปิด จำนวน 1 ถุง ชั่งเฉพาะยาเสพติดน้ำหนัก 0.66 กรัม และชั่งถุงพลาสติกใสแบบกดปิดดึงเปิดน้ำหนัก 0.42 กรัม น้ำหนักรวมถุง 1.08 กรัม (พบอยู่บนชั้นวางของในห้องน้ำ)
· ลำดับที่ 3 ธนบัตรไทยปลอม ฉบับละ 1000 บาท จำนวน 1 ฉบับ หมายเลข 3ก4029107
· ลำดับที่ 4 ธนบัตรไทยปลอม ฉบับละ 1000 บาท จำนวน 1 ฉบับ หมายเลข 6ก8290504
· ลำดับที่ 5 ธนบัตรไทยปลอม ฉบับละ 500 บาท จำนวน 1 ฉบับ หมายเลข 3ก1408051
· ลำดับที่ 6 ธนบัตรต่างประเทศปลอม ฉบับละ 100 ยูโร จำนวน 2 ฉบับ หมายเลข AX34117842254
· ลำดับที่ 7 ธนบัตรต่างประเทศปลอม ฉบับละ 100 ยูโร จำนวน 2 ฉบับ หมายเลข AD11533784038
· ลำดับที่ 8 ธนบัตรต่างประเทศปลอม ฉบับละ 100 ยูโร จำนวน 1 ฉบับ หมายเลข AE26783368291
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 7 พ.ย. 68 ก่อนการจับกุมผู้ต้องหาในคดีนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจาก น.ส.อริญรดา (สงวนนามสกุล) ว่า ตนเองได้รับการว่าจ้างให้ไปเอนเตอร์เทน จากนายกัปกัลป์ หรือ โซ ภายในคอนโดแห่งหนึ่งย่านวงศ์สว่าง เมื่อเสร็จจากการว่าจ้างแล้ว นายกัปกัลป์ จึงได้จ่ายเงินเป็นธนบัตรเป็นแบงค์ยูโร ฉบับละ 100 ยูโร จำนวน 3 ฉบับ รวมเป็นเงิน 300 ยูโร
จากนั้น น.ส.อริญรดา ได้นำเงินไปแลกเป็นเงินไทย จึงทราบว่าเป็นธนบัตรยูโรปลอม จึงได้แจ้ง ด.ต.มงคล สิทธิขจรสกุล เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำ กก.สส.บก.น.5 ทราบ และได้แจ้งว่า นายกัปกัลป์มียาเสพติดอยู่ภายในห้องดังกล่าว ต่อมา ด.ต.มงคล สิทธิขจรสกุล ได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จึงเดินทางไปตรวจสอบยังสถานที่ดังกล่าว
เมื่อเดินทางไปถึงได้ประสานเจ้าหน้าที่นิติบุคคล คอนโด ให้นำพาเจ้าหน้าที่ตำรวจขึ้นไปตรวจสอบห้องของนายกัปกัลป์ เมื่อไปถึงห้องเลขที่ 967 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เคาะประตูห้อง พบนายกัปกัลป์เปิดประตูออกมา และแสดงตนว่าเป็นเจ้าของห้อง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวและได้แจ้งวัตถุประสงค์ ในการตรวจสอบพร้อมได้แสดงบัตรประจำตัว ปปส. ของ พ.ต.อ.ศิรณวิชญ์ อินทร ผกก.สส.บก.น.5 ให้กับนายกัปกัลป์ จนเป็นที่พอใจ และยินยอมให้เข้าตรวจค้น
ก่อนทำการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายได้แสดงความบริสุทธิ์ใจให้นายกัปกัลป์ ทราบแล้ว และนายกัปกัลป์เป็นผู้นำการตรวจค้น
ผลการตรวจค้น พบยาเสพติดประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน หรือยาไอซ์) ลักษณะเป็นก้อนเกล็ดสีขาวอยู่ในถุง ชนิดกดปิดดึงเปิดแบบใส จำนวน 2 ถุง พบอยู่บนชั้นวางของในห้องน้ำ นายกัปกัลป์รับว่ายาไอซ์เป็นของตนเอง และรับว่าตนเสพยาไอซ์จริง สอบถาม นายกัปกัลป์ได้ซื้อยาไอซ์ในราคากรัมละ 1,800 บาท จำนวน 2 ถุง มาจากชายต่างชาติในสถานบันเทิงย่านอาซีเอ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจค้นตัว นายกัปกัลป์พบธนบัตรรัฐบาลไทย ฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 2 ฉบับ ฉบับละ 500 บาท จำนวน 1 ฉบับ และพบเงินต่างประเทศสกุลยูโร ฉบับละ 100 ยูโร จำนวน 5 ฉบับ พบอยู่ในกระเป๋ากางเกงด้านหน้าซ้ายตัวที่ นายกัปกัลป์ สวมใส่อยู่ โดยนายกัปกัลป์ รับว่าทั้งหมดเป็นธนบัตรปลอม และตัวเองทราบมาก่อนแล้วว่าเป็นธนบัตรปลอม ซึ่งได้มาจากชายต่างชาติในย่านอาซีเอ และตัวเองได้ใช้เงินยูโร เป็นเงินค่าจ้างให้กับหญิงที่ตัวเองว่าจ้างมาเอนเตอร์เทนไปแล้ว
โดยใช้ธนบัตรปลอมเป็นจำนวนเงิน 300 ยูโร เจ้าหน้าตำรวจจึงได้ยึดของกลางทั้งหมด และได้แจ้งข้อกล่าวหาว่าต้องถูกจับกุมในความผิดฐาน “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน หรือยาไอซ์) ไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต ,เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน หรือยาไอซ์) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย , มีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งธนบัตรรัฐบาลไทยปลอมและธนบัตรต่างประเทศปลอม อันตนได้มาโดยรู้ว่าเป็นของปลอมฯ”
จากนั้นนำตัวมาที่ กก.สส.บก.น.5 นายกัปกัลป์สมัครใจตรวจปัสสาวะเบื้องต้น จากการตรวจยาเสพติด ด้วยชุดตรวจ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ONCB 051 MARQUIS REAGENT ผลการตรวจพบเป็นบวก พบสารเสพติดเมทแอมเฟตามีน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัว นายกัปกัลป์ฯ ส่งตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ ผลการตรวจพบเป็นบวก พบสารเสพติดเมทแอมเฟตามีนในปัสสาวะ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้แจ้งข้อกล่าวหาและแจ้งสิทธิตามกฎหมายให้ทราบและเข้าใจดีแล้ว จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางมาทำการตรวจนับและบันทึกจับกุม ที่ กก.สส.บก.น.5 เพื่อนำส่งพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบถามนายโซ รับสารภาพว่า ตอนเคยไปดวลเหล้ากับนักท่องเที่ยวชาวจีนที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่งย่านอาร์ซีเอ โดยกลุ่มชาวจีนได้ทำตัวอวดรวย โดยการใช้ธนบัตรต่างประเทศปลอมพันแก้วเหล้า เมื่อใครดื่มก็จะได้เงินจำนวนนั้นไปตนก็ได้ไปดื่ม เพื่อเอาเงินดังกล่าวที่ชาวจีนแจก แต่มาทราบภายหลังว่าธนบัตรดังกล่าวเป็นธนบัตรปลอม จากนั้นตนได้เก็บธนบัตรปลอมนี้ไว้และได้นำมาเป็นตัวอย่าง ในการปลอมธนบัตร โดยเริ่มจากการเสิร์ชข้อมูลในแชตจีพีทีว่าธนบัตรมีกระดาษอะไรที่ใกล้เคียงกับธนบัตรของจริง จึงไปพบว่าเป็นกระดาษฝ้ายที่มีลักษณะใกล้เคียง ตนจึงได้สั่งกระดาษฝ้ายมา และทำการลองปริ้นที่ตู้ถ่ายเอกสารรุ่นเก่าเป็นแบบหยอดเหรียญ เพราะเนื่องจากว่าเครื่องถ่ายเอกสารรุ่นใหม่ไม่สามารถปริ้นธนบัตรได้ แต่เมื่อทำสำเร็จธนบัตรก็ไม่เหมือน จึงใช้วิธีการพับแบงค์ในการจ่ายเงินให้เด็กเอนเตอร์เทน
Advertisement