
เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 2 พ.ย. พ.ต.อ.อนันต์ วรสาตร์ ผกก.สน.บางเขน พ.ต.ท.โกศลปิยะ สีมา รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.พรชัย ว่องประเสริฐการ สว.สส. พ.ต.ต.ยุรนันท์ เพชรมณี สว.สส. นำกำลังฝ่ายสืบสวน สน.บางเขน จับกุมนายพีระพล เชื้อชาติ หรือ บอม อายุ 43 ปี ผู้ต้องหากระชากสร้อยคอทองคำ พร้อมของกลางสร้อยคอทองคำหนัก 1บาท 1 เส้น
เงินสด 21,650 บาท เสื้อผ้าสวมใส่ขณะก่อเหตุ และรถจยย.ฮอนด้า คลิ๊ก สีเทาดำ ทะเบียน 1 กบ 3774 กรุงเทพมหานคร พาหนะที่ใช้ก่อเหตุ
สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 09.55 น. วันที่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมา สน.บางเขน รับแจ้งเหตุวิ่งราวทรัพย์ บริเวณปากซอยพหลโยธิน 48 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม.รุดไปตรวจสอบ พบ น.ส.บัวศรี แซ่โล้ อายุ 61ปี อยู่ในอาการตื่นตระหนกให้การว่าคนร้ายเป็นชายทำทีขี่รถจยย.มาสอบถามเส้นทางก่อนกระชากสร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 1 บาท มูลค่ากว่า 6 หมื่นบาท ขี่รถหลบหนีไปไม่ไกลประมาณ 200 เมตร ประสบอุบัติเหตุชนกับรถกระบะคนร้ายทิ้งรถ ก่อนเรียกรถแท็กซี่หลบหนีไป
ตรวจสอบรถคนร้ายเป็นรถ จยย.ฮอนด้า คลิ๊ก สีเทาดำ ทะเบียน 1 กบ 3774 กรุงเทพมหานคร ตรวจสอบทะเบียนทราบชื่อเจ้าของรถไปสอบสวนทราบว่ามีนายพีระพล เชื้อชาติ อายุ 43 ปี เพื่อนยืมไปคาดนำไปก่อเหตุ ต่อมาช่วงเย็น ฝ่ายสืบสวนสน.บางเขนจึงวางแผนให้เจ้าของรถโทรให้นายพีระพลมาคุยเรื่องค่าซ่อมรถนัดกันริมถนนวิภาวดีรังสิต 62
จากนั้น พ.ต.ต.ยุรนันท์ เพชรมณี สว.สส. นำกำลังฝ่ายสืบสวนสน.บางเขน ซุ่มสังเกตการณ์ ต่อมานาย พีระพล ขับรถเก๋งโตโยต้า อัลติส สีขาว ทะเบียน ญร 282 กรุงเทพมหานคร มาพบเพื่อนเจ้าของรถจยย. จอดรถริมถนน ร.ต.อ.สุรัตน์ บุญรักษ์ รอง สว.สส. ขับรถปิกอัพปิดขวางด้านหน้า เจ้าหน้าที่ลงไปเคาะกระจกให้เปิดประตูรถ แต่นายพีระพลขับรถถอยหลังหักหัวรถออกขับไปกลับรถวิ่งถนนวิภาวดีรังสิตขาออกและหลบหนีขึ้นทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์
ร.ต.อ.สุรัตน์ บุญรักษ์ ขับรถปิกอัพติดตามอย่างกระชั้นชิดไล่ล่าอย่างกับในหนังไปลงทางด่านช่วงโรงกษาปณ์ ร.ต.อ.สุรัตน์ บุญรักษ์ ตัดสินใจไล่เฉี่ยวชน 2 ครั้งเพื่อให้หยุด รถของนายพีระพลหมุนเคว้ง แต่เมื่อรถตั้งหลักได้ นายพีระพลขับหนีต่อไปอีก และไปเฉี่ยวชนรถยนต์ของชาวบ้านเสียหาย 3 คัน เป็นรถยนต์ของประชาชนทั่วไป 2 คัน มีคนขับเป็นผู้หญิงได้รับบาดเจ็บ และคันที่ 3 เป็นรถยนต์มีตำรวจขับ ร.ต.อ.สุรัตน์ บุญรักษ์ ตัดสินใจพุ่งชนท้ายรถเก๋งของคนร้ายเข้าไปในทางเข้าร้านแมคโดนัล ถนนพหลโยธิน ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี รถนายพีระพลจนมุมหนีไม่ได้เข้าจับกุม จากนั้นชุดจับกุมแจ้งไปที่ตำรวจสภ.คลองหลวง ว่ามีการติดตามขับรถไล่จับรถคนร้ายมีการเฉี่ยวชนรถชาวบ้านเสียหายมีผู้บาดเจ็บให้มาตรวจสอบเหตุ
จากนั้นชุดจับกุมควบคุมนายพีระพล ผู้ต้องหา มาสอบสวนที่ สน.บางเขน ผู้ต้องหาให้การว่า ก่อนหน้านี้ตนเคยไปทำงานเป็นเชฟร้านอาหารไทยที่ประเทศเยอรมันนานหลายปี ก่อนกลับมาเปิดร้านอาหาร ที่จ.ลพบุรี แต่เกิดเหตุการณ์โควิด ทำให้ขาดทุน เร่รอนอยู่หลายปี ก่อนมาสมัครงานเป็นเชฟที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในซอยวิภาวดีรังสิต 60 เพิ่งทำงานได้ 2 เดือน แต่ตนติดการพนันออนไลน์บาคาร่า เล่นเงินหมดตัว ยืมเงินเพื่อนร่วมงานด้วย เป็นหนี้หลายหมื่น เจ้าหนี้ตามทวงตลอด ตัดสินใจก่อเหตุไปยืมรถ จยย.เพื่อน แต่ไม่คาดคิดหลังก่อเหตุขี่รถหนีจะเกิดอุบัติเหตุ ทิ้งรถหนีนั่งรถแท็กซี่มาลงที่พักซอยวิภาวดีรังสิต 60 เก็บเสื้อผ้าและเอาทองไปขายที่ร้านทองย่านรังสิตได้เงิน 52,800 บาท ก่อนเพื่อนเจ้าของรถ จยย.จะโทรมาตามคุยเรื่องค่าเสียหายซ่อมรถ นัดพบตำรวจ ขับรถหนีไม่อยากถูกจับกุม
เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา วิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกกระทำผิดและหลบหนี ก่อนนำผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.บางเขน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
Advertisement