เมื่อเวลา 11.45 น. วันที่ 22 ต.ค.ร.ต.ท.สรวิชญ์ พรหมบุญแก้ว รองสว.(สอบสวน) สภ.เมืองกระบี่ รับแจ้งมีเหตุคนยิงตัวตาย ภายในบ้านเลขที่78/44 ซอยเจริญสุข4 ถนนเจริญสุข ต.กระบี่ใหญ่อ.เมืองกระบี่ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.สุทธิภัค คมสาคร ผกก.สภ.เมืองกระบี่ จนท.ชุดสืบสวน สภ.เมืองกระบี่ จนท.พิสูจน์หลักฐาน จ.กระบี่ แพทย์เวร รพ.กระบี่และกู้ภัยมูลนิธิกระบี่พิทักษ์ประชาเดินทางไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียว หน้าบ้านพบ ด.ญ.สายฝน อายุ 10 ปี ยืนรอตำรวจด้วยอาการช็อก บอกว่า คนเสียชีวิตคือพ่อของเธอ ชื่อนายเทียนชัย นุ่นสังข์ อายุ 59 ปี เป็นอดีตข้าราชการป่าไม้ สังกัดสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 10 จ.กระบี่ ปัจจุบันลาออกจากราชการก่อนเกษียณ จนท.ตรวจสอบห้องนอนในบ้าน พบร่างผู้เสียชีวิตนอนอยู่บนเตียง มือขวากำอาวุธปืน แบบแม็กกาซีนขนาด 9 มม.ในแม็กกาซีน ยังมีกระสุนอยู่ 3 นัด ใกล้ศพพบปลอกกระสุนปืนขนาดเดียวกันตกอยู่ ที่ศีรษะมีบาดแผลถูกยิง 1 นัด บริเวณขมับขวา จนท.นำร่างไปชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง ตรวจสอบในห้องไม่พบร่องรอยการต่อสู้ แต่บนชั้นวางของเหนือเตียงมีโทรศัพท์มือถือเป็นเสียงเทศนาธรรมะทิ้งไว้คาดว่าเป็นของผู้ตายจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ด.ญ.สายฝน ให้การกับตำรวจว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุ ตนเองอยู่บ้านกัน 2 คนกับพ่อ ส่วนแม่ซึ่งเป็นภรรยาผู้ตาย คือน.ส.จันทร์เพ็ญ อินทร์นาค อายุ36ปี กลับไปบ้านที่จ.พัทลุง ช่วงที่ตนกำลังนั่งกินขนมที่พ่อซื้อไว้ให้ที่ห้องนั่งเล่นหน้าบ้าน ได้ยินเสียงคล้ายเสียงปืน 1 นัด ดังมาจากห้องด้านหลังบ้าน จากนั้นได้กลิ่นเหม็นไหม้ก็รีบวิ่งเข้าไปดูในครัว และวิ่งไปเคาะประตูห้องนอนเรียกพ่อ แต่พ่อไม่ตอบจึงเปิดประตูเข้าไปดูก็พบพ่อยิงตัวเองตายแล้ว
ก่อนพ่อจะยิงตัวเอง พ่อก็ยังบ่นๆเรื่องหนี้สิ้นของแม่ และบอกกับตนว่า"หากไม่มีหนูพ่อคงฆ่าตัวตายไปแล้ว" เพราะพ่อเป็นห่วงตน ส่วนเรื่องหนี้สินของแม่ทราบแค่เป็นหนี้ จากการเทรดหุ้น ทำให้ติดหนี้กว่า 7 ล้านบาท ต้องเอาบ้านไปจำนอง ขายรถเพื่อใช้หนี้ แต่ก่อนเกิดเหตุพ่อจะมีปัญหาทะเลาะกับแม่หรือไม่ตนเองไม่รู้ เพราะคืนก่อนเกิดเหตุก็ไม่เห็นทะเลาะอะไรกัน
พ.ต.อ.สุทธิภัค ผกก.สภ.เมืองกระบี่ เผยว่าเบื้องต้นญาติไม่ติดใจสาเหตุอื่น เชื่อว่าผู้ตายตัดสินใจยิงตัวเอง ด้วยอาวุธปืนประจำตัวจึงมอบศพ ให้นำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป ส่วนปมเหตุจะเกิดจากภรรยาผู้ตายถูกแก๊งสแกมเมอร์หลอกให้ลงทุนเทรดหุ้นหรือไม่ ต้องรอเรียกตัวภรรยากลับมาสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งอาจมีความเป็นไปได้เพราะเพิ่งมีหนี้สินในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาอย่างไรก็ตามต้องให้พนักงานสอบสวนสอบอย่างละเอียดก่อนจะฟันธง
Advertisement