จากกรณีที่มวลชนกัมพูชาบุกรื้อลวดหนามบ้านหนองหญ้าแก้ว ทำให้ตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) ต้องสลายการชุมนุม โดยใช้แก๊สน้ำตาและกระสุนยางควบคุมหลังชาวกัมพูชาไม่ยอมฟัง และสถานการณ์เริ่มบานปลายโดยเหตุเกิดขึ้นเวลา 16.30 น. วันที่ 17 กันยายน ที่ผ่านมา
ล่าสุด วันนี้ (18 ก.ย.68) พล.ต.ต.ชัยกฤต โพธิ์อ๊ะ ผู้บังคับการกองกำกับการอารักขาและควบคุมฝูงชน (ผบก.อคฝ.) เปิดเผยว่า เบื้องต้นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ได้มีข้อสั่งการให้กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน (อคฝ.) กองบัญชาการตำรวจนครบาล เตรียมความพร้อมในการสนับสนุนภารกิจดังกล่าว โดยให้จัดเตรียม รถน้ำจีโน่ ที่ใช้ในการสลายการชุมนุม
ทั้งนี้ ยืนยันว่า บก.อคฝ.มีความพร้อมสนับสนุน โดยจัดรถน้ำจีโน่ทั้งหมด 10 คัน และมีการบำรุงรักษารถน้ำจีโน่อยู่ระยะๆ ซึ่งอยู่ระหว่างรอคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาในการออกไปสนับสนุนภารกิจดังกล่าว
สำหรับรถน้ำ “จีโน่” เป็นรถบรรทุกน้ำสีฟ้า สามารถบรรจุน้ำได้ 12,000 ลิตร มีกระบอกฉีดน้ำบนหลังคารถ มีระยะฉีดสูงสุด 65 เมตร สามารถปรับระดับการฉีดได้รอบคัน รวมทั้งสามารถใส่สีในน้ำ เพื่อทำให้ผู้ถูกฉีดมีสีติดตามตัวและเสื้อผ้าเป็นที่สังเกตได้
นอกจากนี้ รถควบคุมฝูงชนรุ่นดังกล่าวยังติดตั้ง เครื่องเสียงความถี่สูงใช้ควบคุมฝูงชน LRAD (Long Range Acoustic Device) เป็นเครื่องขยายเสียงระดับไกลสำหรับใช้ปราบจลาจล โดยการส่งสัญญาณเตือนมวลชนไม่ให้บุกรุกเข้ามาในที่หวงห้าม พร้อมทั้งยังติดตั้งแก๊สน้ำตา โฟมดับไฟ
ส่วนล้อเป็น “ล้อกันกระสุน” มีตะแกรงป้องกันกระจกรอบคัน มีคันกั้นเหล็กหน้ารถไว้เคลียร์พื้นที่ ที่มีสิ่งกีดขวาง โดยรอบตัวรถจะมีกล้องวงจรปิดติดตั้งรอบคันเพื่อบันทึกภาพเหตุการณ์รอบทิศทาง สามารถใช้เป็นหลักฐานพิสูจน์ข้อเท็จจริง หากเกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้น
สำหรับ “น้ำที่ใช้ฉีด” ที่ผสมสีต่างๆ ลงไป มีคุณสมบัติล้างออกยาก ซึ่งเป็นหนึ่งในยุทธวิธีของเจ้าหน้าที่ในการแบ่งแยกกลุ่มผู้ชุมนุมออกจากประชาชนทั่วไป
ที่ผ่านมารถน้ำ “จีโน่” หรือรถบรรทุกน้ำ มีบทบาทในการสลายการชุมนุมคณะราษฎร บริเวณแยกปทุมวัน ช่วงเย็นวันที่ 16 ต.ค.2563 นับเป็นครั้งแรกที่ตำรวจใช้รถควบคุมฝูงชนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติออกปฏิบัติการในการสลายการชุมนุมคณะราษฎร
Advertisement