วันที่ 18 ก.ย. 68 ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.กิตติภพ ทองเพชร สว.กก.3 บก.ป., พ.ต.ท.พัฒษพงศ์ เสณีแสนเสนา สว.กก.3 บก.ป., ว่าที่ พ.ต.ต.นราวิชญ์ เดชคง สว.กก.3 บก.ป. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชป.พิเศษ กก.3 บก.ป. ร่วมกันจับกุม ผู้ต้องหาจำนวน 2 ราย 1.นายราเชน อายุ 39 ปี 2.นายกิตติชัย อายุ 25 ปี
พร้อมด้วยของกลาง
1.รถยนต์กระบะบรรทุก (เสริมกระบะข้าง) จำนวน 1 คัน
2. รถยนต์กระบะบรรทุก (เสริมกระบะข้าง) จำนวน 1 คัน
3. ผลอะโวคาโดสด บรรจุในตะกร้าพลาสติก สีดำ จำนวน 170 ตระกร้า น้ำหนักรวมประมาณ 4,350 กิโลกรัม
โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน
1. เป็นผู้ใดช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้ โดยประกาศใดซึ่งของอันตนพึ่งรู้เป็นของนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 ตามมาตรา 246
2. พ.ร.บ.กักพืช พ.ศ.2507 และที่แก้ไขเพิ่มเติม สิ่งต้องห้ามดังกล่าวจะนำเข้าได้ต้องผ่านการวิเคราะห์ความเสี่ยงศัตรูพืชก่อนและต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่กรมวิชาการเกษตรประกาศกำหนด อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 8 ประกอบมาตรา 10 แห่ง พ.ร.บ.กักพืชฯ
สถานที่จับกุม บริเวณสามแยกโนนตูม หมู่ 3 ตำบลผึ่งแดด อ.เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร
พฤติการณ์ พ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผกก.3 บก.ป. สั่งการเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 3 บก.ป.ลงพื้นที่สกัดกั้นบริเวณแนวชายแดนริมแม่น้ำโขง จังหวัดมุกดาหาร หลังสืบทราบว่ามีเครือข่ายลักลอบค้าผลไม้เถื่อนเตรียมลำเลียงเข้าสู่พื้นที่ชั้นใน
จนกระทั่งถึงจุดเฝ้าสกัดสามแยกโนนตูม ม.3 ต.ผึ่งแดด อ.เมือง จ.มุกดาหาร เจ้าหน้าที่พบรถกระบะต้องสงสัย 2 คัน บรรทุกสิ่งของปกปิดด้วยผ้าใบอย่างมิดชิด เมื่อตรวจสอบ น่าเชื่อได้ว่ามีการลักลอบขนถ่ายสินค้าหนีด่านศุลกากร ประเภทผลไม้ (อโวคาโด) จากริมชายโขงมา
ผลการตรวจค้นพบ อะโวคาโดสด 170 ตะกร้า น้ำหนักรวมกว่า 4,350 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 280,000 บาท ไม่มีเอกสารศุลกากรหรือใบอนุญาตกักกันพืชใดๆ แสดงต่อเจ้าหน้าที่
จากการสอบสวน ผู้ต้องหา 2 ราย ได้แก่
1.นายราเชน อายุ 39 ปี คนขับรถกระบะ NISSAN
2.นายกิตติชัย อายุ 25 ปี คนขับรถกระบะ TOYOTA REVO
ทั้งคู่รับสารภาพว่ารับจ้างขนส่งสินค้า โดยติดต่อผ่านแอปพลิเคชันไลน์จากผู้ใช้ชื่อ “เจ้าชายรถด่วน ขนส่ง” และจะนำไปส่งต่อให้ “เจ๊โอ” ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา โดยได้รับค่าจ้างครั้งละ 5,000–6,000 บาท ซึ่งทราบดีว่าสินค้าไม่ได้ผ่านพิธีการศุลกากร
เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาเบื้องต้นแก่ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน โดยกล่าวหาว่า
1. พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 มาตรา 246 ฐานช่วยซ่อนเร้น/จำหน่ายของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร
2. พ.ร.บ.กักพืช พ.ศ.2507 และที่แก้ไขเพิ่มเติม สิ่งต้องห้ามดังกล่าวจะนำเข้าได้ต้องผ่านการวิเคราะห์ความเสี่ยงศัตรูพืชก่อนและต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่กรมวิชาการเกษตรประกาศกำหนด อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 8 ประกอบมาตรา 10 แห่ง พ.ร.บ.กักพืชฯ
จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาทั้งสอง พร้อมของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ผึ่งแดด จ.มุกดาหาร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป สอบถามผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เตือนภัย อย่ารับจ้างขนสินค้าหนีภาษี เช่น อะโวคาโดเถื่อน เพราะเข้าข่ายผิดกฎหมายศุลกากรและกักพืช มีโทษทั้งจำและปรับ แม้เพียงขนส่งก็ถือว่ามีส่วนร่วมในขบวนการค้าเถื่อน การลักลอบนำเข้าผลไม้เสี่ยงทำลายเกษตรไทย และแพร่ศัตรูพืชสู่ประเทศ หากพบเบาะแสแจ้งตำรวจ 191 หรือหน่วยงานใกล้บ้านทันที
Advertisement