กฟภ.เชียงใหม่ เร่งกู้ซาก ตั้งเสาไฟฟ้า พบรถกระบะที่ชนมีประกันแค่ชั้น 3
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จ.เชียงใหม่ เร่งกู้ซาก ตั้งเสาไฟฟ้า ขณะที่ อบต. สำรวจความเสียหายบ้านเรือนและร้านค้า พบรถที่ชนมีประกันแค่ชั้น 3
(10 ก.ย. 2568) ความคืบหน้าอุบัติเหตุรถกระบะขนส่งน้ำดื่มซิ่งแหกโค้งพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนหนองฮ่อ ที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ทำให้เสาไฟฟ้าหักโค่นล้มลงมาเป็นโดมิโนรวม 52 ต้น คาดว่ามูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ยังไม่รวมความเสียหายต่อบ้านเรือนทรัพย์สินของประชาชน อบต.ช้างเผือก เร่งสำรวจวามเสียหายเพื่อช่วยเหลือในเบื้องต้น ส่วนคดีคนขับยังเจ็บสาหัส แต่ที่สาหัสกว่าคือมีแค่ประกันชั้น 3 คุ้มครองความเสียหายกับทรัพย์สินบุคคลภายนอกเพียง 600,000 บาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดเชียงใหม่ ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ 37 ชุดปฏิบัติการ รวม 362 คน เร่งกู้ซากเสาไฟฟ้าและซ่อมแซม เพื่อจ่ายคืนกระแสไฟฟ้าให้กับประชาชนให้ได้เร็วที่สุด ซึ่งจากแรงกระชากของระบบไฟเมื่อวานนี้ ทำให้ไฟฟ้าดับเป็นวงกว้างนาน 20 นาที ครอบคลุมพื้นที่ อ.เมืองเชียงใหม่ อ.แม่ริม และ อ.สันทราย มีผู้ใช้ไฟได้รับผลกระทบกว่า 217,000 ราย แม้จะสามารถทยอยจ่ายกระแสไฟกลับคืนได้เกือบทั้งหมดในช่วงกลางคืน แต่ยังมีบ้านเรือนอีก 34 หลังที่ไม่มีกระแสไฟใช้ตลอดทั้งวันนี้
โดยพบว่ามีเสาไฟฟ้าเสียหาย 50 ต้น แบ่งเป็นเสาแรงสูง 115 กิโลโวลต์ 22 ต้น, เสาแรงสูง 22 กิโลโวลต์ 23 ต้น, เสาแรงต่ำ 9 เมตร 5 ต้น, หม้อแปลงไฟฟ้า 7 ลูก มิเตอร์ไฟฟ้า 34 เครื่อง คาดว่าจะจ่ายกระแสไฟฟ้าคืนครบทั้งหมดได้ภายในวันนี้ แต่สำหรับเสาไฟแรงสูงระบบ 115 กิโลโวลต์ ต้องปักใหม่ทั้งหมด จึงอาจใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีรถยนต์เสียหาย 9 คันและจักรยานยนต์อีก 2 คัน บ้านเรือนและร้านค้าถูกเสาไฟล้มทับ 26 หลัง
ดร.ทองศุกร์ วงศ์โสภา ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สาขาเมืองเชียงใหม่ 2 ชี้แจงกรณีดราม่า เรื่องความแข็งแรงของเสาไฟฟ้า หลังถูกรถกระบะพุ่งชนแล้วหักถึง 52 ต้น โดยระบุว่า เสาทุกต้นที่ติดตั้งอยู่ผ่านการตรวจสอบและเป็นไปตามมาตรฐานอุตสาหกรรม ซึ่งแตกต่างจากเสาไฟฟ้าตามหมู่บ้านทั่วไป เสาไฟฟ้าแรงสูงถูกออกแบบด้วยโครงสร้างเหล็กเส้นเล็กหลายเส้นเพื่อให้มีความยืดหยุ่นสามารถรับแรงลมได้ โดยไม่หักโค่น และยังรองรับแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว หน้าที่หลักคือการยึดโยงและรองรับน้ำหนักสายไฟฟ้าแรงสูงไม่ให้ขาดเมื่อเกิดแรงภายนอก
อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดจากรถกระบะขนน้ำชนเสาไฟอย่างรุนแรง ในตำแหน่งกึ่งกลางตัวรถ ซึ่งเกินกว่าการออกแบบโครงสร้างของเสาจะรองรับได้ส่งผลให้เสาหัก และด้วยน้ำหนักของสายไฟฟ้าแรงสูงที่มากจึงดึงให้เสาและสายไฟโดยรอบล้มตามต่อเนื่อง
ด้าน นายวิรัช ยั่งยืนกุล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลช้างเผือก นำเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายของบ้านเรือนและร้านค้าทั้งหมด 26 หลัง เพื่อสรุปรายละเอียดดำเนินการช่วยเหลือชดเชยตามขั้นตอน และอยู่ระหว่างหารือกับทางจังหวัดในเรื่องประเภทของภัย เพื่อหาทางช่วยเหลือประชาชนให้ได้ไวที่สุด เนื่องจากชาวบ้านต่างกังวลว่าผู้ก่อเหตุจะชดใช้ไม่ไหวเพราะมูลค่าความเสียหายรวมแล้วสูงมาก จึงอยากให้หน่วยงานรัฐเข้ามาช่วยเหลือ โดยเฉพาะการเร่งซ่อมแซมฟื้นฟูที่อยู่อาศัยและเยียวยาทรัพย์สินที่เสียหายก่อน
ในส่วนของเจ้าหน้าที่บริษัทประกันภัย ระบุว่า รถกระบะคันดังกล่าวทำประกันภัยชั้น 3 มีวงเงินคุ้มครองความเสียหายกับทรัพย์สินบุคคลภายนอก 600,000 บาท ส่วนพรบ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถคุ้มครองชีวิตผู้โดยสาร 500,000 บาท และคุ้มครองชีวิตคนขับรถ 35,000 บาท ซึ่งทางบริษัทจะดำเนินการตามขั้นตอนในส่วนความคุ้มครองที่ทำไว้
ขณะที่ พ.ต.อ.เสวก ชูศิริ ผู้กำกับการตำรวจภูธรช้างเผือก เผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพยานหลักฐานชัดเจนว่าเป็นการขับรถด้วยความเร็วจนแหกโค้งชนเสาไฟฟ้า ทำให้ทรัพย์สินเสียหายเป็นวงกว้าง และผู้โดยสารที่นั่งมาด้วยเสียชีวิต พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีทางอาญากับคนขับ ในข้อหาขับรถโดยประมาท เป็นเหตุทำให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหายและทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต พร้อมชี้ว่าหากคนขับอยู่ในระหว่างปฏิบัติงาน นายจ้างต้องร่วมรับผิดชอบด้วยตามกฎหมาย โดยพนักงานสอบสวนจะเข้าสอบปากคำคนขับรถอีกครั้ง หากแพทย์อนุญาตก่อนสรุปสำนวนส่งฟ้องดำเนินคดี
Advertisement
