Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
ศาลอุทธรณ์ แก้โทษคดี นรต.โดดร่มไม่กาง คุก 3 ปี 4 เดือน  ไม่รอลงอาญา

ศาลอุทธรณ์ แก้โทษคดี นรต.โดดร่มไม่กาง คุก 3 ปี 4 เดือน ไม่รอลงอาญา

25 ส.ค. 68
17:06 น.
แชร์

ศาลอุทธรณ์แก้โทษ 5 จำเลยคุก 3 ปี 4 เดือน ขณะจำเลยที่6 คุก 6 ปี คดีนรต.โดดร่มไม่กาง ขณะทนายอนันต์ชัย เผย โจทย์ขอยื่นฎีกา

จากเหตุการณ์การฝึกหลักสูตรพลร่มนักเรียนนายร้อยตำรวจสามพรานรุ่นที่69ที่ค่ายนเรศวรจ.เพชรบุรีแล้วเกิดอุบัติเหตุร่มไม่กางส่งผลให้นรต.ชยากรพุทธชัยยงค์หรือน้องโยโย่และนรต.ณัฐวุฒิติรสุวรรณสุขหรือน้องฟิวเสียชีวิตเหตุเกิดเมื่อวันที่31มี.ค.57

เมื่อวันที่ 8 มี.ค.2565 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค7 จ.สมุทรสงคราม ได้ยกคำร้องคดีความผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา157 ซึ่งพนักงานอัยการสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต1 ภาค7โจทก์และนายอนันต์ชัยไชยเดชทนายความนายสาธรพุทธชัยยงค์บิดาของนักเรียนนายร้อยตำรวจ(นรต.) ชยากรพุทธชัยยงค์หรือน้องโยโย่เป็นโจทก์ร่วมยื่นศาลอุทรณ์นั้น

ล่าสุดวันนี้(25ส.ค.2568) เวลา9.00น. ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค7 จ.สมุทรสงครามได้นัดฟังคำพิพากษาศาลอุทรณ์คดีหมายเลขดำที่อท17/2563 ระหว่างพนักงานอัยการสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต1 ภาค7โจทก์และนายอนันต์ชัยไชยเดชทนายความนายสาธรพุทธชัยยงค์บิดาของนักเรียนนายร้อยตำรวจ(นรต.) ชยากรพุทธชัยยงค์หรือน้องโยโย่เป็นโจทก์ร่วมกับร้อยเอกกณพอยู่สุขจำเลยที่1 กับพวกรวม 9 ราย ประกอบด้วยนายสมชายอำภาจำเลยที่2 จ่าเอกกีรดิตสุริโย จำเลยที่3 นายรัชเดช เถาว์เพ็ง จำเลยที่4 นายวัชรพงษ์วงษ์ สุวรรณ จำเลยที่5 พ.ต.อ.อโนทัย ศาสตร์สง่า จำเลยที่6 พ.ต.อ.ประพงษ์ ภูฮง จำเลยที่7 ร.ต.อ.พิพัฒน์ เยาวเรศ จำเลยที่8 และนายสุพรธนบดี จำเลยที่9 ในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย รับอันตรายสาหัสป.อาญามาตรา 83,86,157,291,300 พ.ร.บ.ว่า ด้วยความผิดของพนักงานในองค์กรหรือหน่วยงานของรัฐพ.ศ.2502 มาตรา3,11

โดย เมื่อเวลา 08.45น. นายสาธรและนายอนันต์ชัย (ทนายความ) ได้เดินทางมาที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค7 จ.สมุทรสงคราม ด้วยรถเบนซ์สีขาวทะเบียน8กด5441 ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนก่อนจะเดินเข้าไปในศาลเพื่อฟังคำพิพากษา โดยนายอนันต์ชัยกล่าวว่า คดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ 31 มี.ค.2557 สืบเนื่องจากสลิงที่นำมาติดตั้งบนเครื่องบินไม่ใช่ของแท้ที่ใช้กับเครื่องบินลำที่เกิดเหตุก่อนกระโดดร่มกองบินตำรวจได้ตรวจสอบด้วยการใช้ผ้ารูดไปที่สลิง พบว่าผ้าขาดแล้วพบว่าสลิงเกิดความเสียหายจะต้องเปลี่ยน

ขณะที่กองบินตำรวจมีสลิงของแท้จากประเทศสเปน จำนวน 2 เส้นๆละ98,000 บาท และเก็บไว้ในสต๊อกของกองบินตำรวจซึ่งสามารถนำติดตั้งบนเครื่องบินแต่กองบินตำรวจไม่ได้เอาของแท้มาเปลี่ยนบนเครื่องบินลำที่เกิดเหตุแต่บริษัทอุตสาหกรรมการบินกลับให้เจ้าหน้าที่ไปหาสลิงตามท้องตลาดมาใส่เป็นของปลอมเส้นละ 4,800 บาท มาติดตั้งแทนจึงทำให้ไม่มีมาตรฐานรวมทั้งการซ่อมไม่มีมาตรฐานโดยดัดแปลงนำสลิงดังกล่าวมาตัดและเจียให้ปลายแหลมไปใส่กับหัวยึดเดิมแล้ว นำไปติดตั้งบนเครื่องบินเมื่อนักเรียนนายร้อยตำรวจกระโดด ร่วมลงมาปกติสลิงจะดึงฝาร่มเปิดแต่เมื่อสลิงเป็นของปลอม ไม่ได้มาตรฐานทำให้สลิงหลุดมาทั้งพวงเป็นสาเหตุให้ร่วมไม่กางนักเรียนนายร้อยตำรวจตกลงมาเสียชีวิตจากกรณีดังกล่าวเป็นสาเหตุทำให้เกิดเรื่องร้ายขึ้นแน่นอนคดีนี้ส่งมาที่ศาลทุจริตและประพฤติมีชอบจึงส่อให้เห็นแล้วว่า“ทุจริตและประพฤติมิชอบจะด้วยประมาทเลินเล่อหรือด้อยคุณภาพในการซ่อมหรือมีการทุจริตต้องรอฟังคำตัดสินแต่ปัญหาเกิดจากสลิงนี้แน่นอน

ต่อมาเมื่อเวลา 12.06 น.นายสาธรและนายอนันต์ชัยทนายความได้เดินออกจากศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค7 ก่อนจะมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนโดยนายอนันต์ชัยกล่าวว่าหลังจากศาลชั้นต้นตัดสินจำคุกคนละ 4 ปี โดยไม่รอลงอาญาหลังจากนั้นมีการยื่นอุทรณ์ ต่อมานายวัชรพงษ์ วงษ์สุวรรณ จำเลยที่5 ซึ่งเป็นผู้จัดซื้อลวดสลิงกับเอกชนและพ.ต.อ.ประพงษ์ภูฮงจำเลยที่7 ได้เสียชีวิต ศาลจึงจำหน่ายคดีเหลือพิจารณาจำเลยที่1,2,3,4,6,8และที่9

ซึ่งวันนี้ศาลฯได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทรณ์โดยใช้เวลาประมาณ2ช.ม.ซึ่งถือว่านานมากโดยศาลอุทรณ์ได้พิจารณาว่าการกระทำผิดของจำเลยที่2,3,4,6,8และที่9เป็นการกระทำต่อความผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษตามกฎหมายที่มีโทษหนักสุดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา90โดยจำเลยที่2,3,4ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา291(เดิม) ซึ่งเป็นกฏหมายที่มีโทษหนักที่สุดจำคุกคนละ5ปีจำเลยที่8ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา157(เดิม) ซึ่งเป็นกฏหมายที่มีโทษหนักที่สุดจำคุก5ปี,จำเลยที่9 ให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐพ.ศ.2502มาตรา11 ซึ่งเป็นกฏหมายที่มีโทษหนักที่สุดจำคุก 5 ปีการไต่สวนของจำเลยที่2,3,4,8และ9 เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดีเป็นเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้คนละ 1 ใน 3 คงจำคุกคนละ 3 ปี 4เดือนส่วนจำเลยที่6ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา157(เดิม) ซึ่งเป็นกฏหมายที่มีโทษหนักที่สุดจำคุก6ปีและจำเลยที่1ยกฟ้องเนื่องจากไม่มีส่วนร่วมในการประมาท

นายสาธรกล่าวภายหลังศาลตัดสินว่า ตนขอแยกเป็น2 ส่วนส่วนแรกเกี่ยวกับคดีซึ่งตนเคารพในคำพิพากษาของศาลอย่างจริงใจ ในศาลชั้นต้นจำคุกคนละ 4 ปี เท่ากันแต่ศาลอุทรณ์มีการเพิ่มโทษเป็น 5 ปี แต่มีเหตุบรรเทาโทษเหลือ 3 ปี 4 เดือนซึ่งถ้าเทียบกับ ศาลชั้นต้นถือว่าโทษเบาลงซึ่งด้วยเคารพในคำพิพากษาของ ศาลแต่ตนเห็นต่างคือในการสืบพยาน 10 นัด 10 วัน 50 วัน มีนายอนันต์ชัยเพียงผู้เดียวตนเข้าร่วมฟังการสืบพยานทุกนัดทุกคนตนยังคาใจ ว่าทนายอนันต์ชัยได้สอบถามจำเลย ว่าใครเป็นผู้ตัดสลิงเพราะยาวไปและเจียสลิงเพราะใหญ่ไป รวมทั้งถามว่ามีสลิงของแท้อยู่ทำไมไม่มีใครนำมาติดแต่ทั้ง 2 คำถามจำเลยทุกปากเงียบไม่ตอบคำถามทั้ง 2 คำถามใช้วิธีดื้อเงียบจน ศาลท่านบอกว่าไม่เป็นไรเดี๋ยว ศาลมีดุลพินิจเองตนจึงเห็นว่าโทษเบาลงไม่สมกับที่จำเลย ไม่ตอบคำถามทั้ง2ข้อจึงไม่ควรมีเหตุบรรเทาโทษ ซึ่งจากนี้ไปจะยื่นฎีกาให้มีโทษสูงสุด 10 ปี

ส่วนที่2ต้องขอบคุณทนายอนันต์ชัยที่ทำคดีนี้มาคนเดียวทั้งคดีแพ่งและคดีอาญา 10 นัด 10 วัน พยาน 50 ปาก ทนายอนันต์ชัยเป็นทนายฝ่ายโจทย์คนเดียว ที่สืบพยานทั้งหมดตนจึงเรียน ด้วยความตื้นตันใจว่าหลังจากคดีแพ่งจบแล้วศาลตัดสินให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกานบินไทยร่วมกันเนียวยาเป็นเงิน 7,400,000บาท เศษ ทนายอนันต์ชัยไม่ขอรับค่าวิชาชีพใดๆแม้แต่บาทเดียว บอกเพียงว่าขอทำคดีนี้เหมือนลูกชายตนเป็นลูกของทนายอนันต์ชัยเองจึงขอบคุณทนายอนันต์ชัยอย่างเป็นทางการ

จากนั้นนายสาธรได้มอบพวงมาลัยดอกมะลิและกระเช้าผลไม้ก่อนจะกราบที่อกทนายอนันต์ชัยด้วยน้ำตาคลอเบ้าตาก่อนที่ทั้ง2คนจะเดินทางกลับ

Advertisement

แชร์
ศาลอุทธรณ์ แก้โทษคดี นรต.โดดร่มไม่กาง คุก 3 ปี 4 เดือน  ไม่รอลงอาญา