ปิดล้อมเขาล่าตัวลุงคลั่งพรากชีวิตหลานสาวว่าที่พยาบาลอนาคตไกล
ย่าใจสลาย..ลุงคลั่งพรากชีวิตหลานสาวนศ.พยาบาลปี 3 ก่อนหนีขึ้นเขา ตำรวจเร่งปิดล้อมล่าตัว เผยคนก่อเหตุมีปมเข้าใจไปเองว่าแม่รักหลานมากกว่าลูก
วันนี้ (16 สิงหาคม 2568 ) เมื่อเวลา 10.36 น.เจ้าหน้าที่มูลนิธิสยามรวมใจปู่อินทร์ จ.ตรังรับแจ้งมีคนถูกทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัส ต.หนองช้างแล่นอ.ห้วยยอดจ.ตรังเมื่อไปถึงพบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นเพศหญิงทราบชื่อต่อมานส.ปาริชาติ เยาดำ (ชื่อเล่นน้องเชียร์) อายุ21ปี เป็นนักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 3 วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี ตรังมีอาการหมดสติจับชีพจรได้มีแผลฉกรรจ์บริเวณศีรษะหลายแผลมีเลือดออกจำนวนมาก จึงพยายามปั๊มหัวใจเพื่อช่วยชีวิตและรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลห้วยยอดแต่แพทย์สุดจะยื้อได้เสียชีวิต สร้างความเสียใจต่อครอบครัวญาติพี่น้องเป็นอย่างมากโดยเฉพาะย่าเพราะน้องกำลังจะมีอนาคตไกล
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เบื้องต้นทราบว่าผู้ก่อเหตุคือนายสุริยัณห์ เยาดำ(เด่น) อายุ 44 ปีมีศักดิ์เป็นลุงของผู้ตายเบื้องต้นใช้อาวุธมีดพร้าหลังก่อเหตุได้หลบหนีไปพร้อมกับมีดพร้าที่ใช้ก่อเหตุ
โดยที่โรงพยาบาลห้วยยอดพบว่าหลังทราบข่าวได้มีอาจารย์และเพื่อนวิทยาลัยพยาบาลเดินทางมาที่รพ.จำนวนมากต่างอยู่ในอาการเศร้าโศก
นางชนาภา เยาดำ อายุ 65 ปี ย่าของน้องเชียร์บอกว่าตนเองมีอาชีพขายผักตอนเกิดเหตุออกจากบ้านไปช่วยลูกชายอีกคนขายหมูอยู่ที่ตลาดคลองมวนเพราะว่าลูกชายเพิ่งเริ่มขายยังคิดเงินไม่เก่งจึงออกไปช่วย คนก่อเหตุเชื่อว่าคือเด่นลูกชายตนเอง ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงของน้องเชียร์เพราะเขาอิจฉาหลานว่าได้รับความรักจากเขาฝังใจปกติที่บ้านจะอยู่กัน 4 คนคือตนเอง(ย่า) ปู่ ตัวน้องเชียร์และนายเด่น ซึ่งเป็นลุงของน้องเชียร์ตอนหลังมามีลูกชายอีกคนมาอยู่ด้วยรวม 5 คน ซึ่งนายเด่นเคยติดยาแต่ตอนหลังมาเลิกแล้วแต่ไม่ได้ทำงานการอะไรแต่เขาฝังใจเรื่องว่าตนไม่รักว่าตนให้ความรักเอ็นดูและเอาใจใส่ส่งเสียให้หลานเรียนหนังสือไม่รักไม่สนใจเขา ซึ่งตนก็เคยพูดทำความเข้าใจว่าไม่ใช่ว่ารักหลานคนเดียว แต่ก็รักเขาซึ่งเป็นลูกด้วย แต่หลานเป็นเด็กดีตั้งใจเรียนตัวเขาเองก็พร้อมจะส่งจะให้เรียนแต่ไม่เรียนเองตนเองไม่มีอะไรบ้านที่อยู่ก็อยู่ในเขตรถไฟไม่มีสมบัติอะไรจะให้หลานก็มีแค่การศึกษาที่จะให้เพราะคิดว่าหากย่าตายไปหลานจะได้มีวิชาหลานก็เป็นหลานอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่น้องเชียร์อายุประมาณ11-12 ปี พ่อแม่เขาหย่าร้างกันทำไมจะต้องอิจฉาหลานก็เคยพูดกับเขาตนเอง
และปู่ได้ช่วยกันทำงานส่งหลานเรียนตอนนี้เรียนพยาบาลชั้นปีที่ 3 แล้ว ใกล้จะจบแล้วแต่หลานก็มาจากไปก่อนย่าพูดพร้อมกับร่ำไห้ที่ผ่านมาไม่เคยมีการข่มขู่หรืออะไรมาก่อนโดยหลานจะกลับบ้านช่วงวันหยุดพอมาอยู่บ้านก็เพียงแค่ไม่คุยกันไม่มองหน้ากันเฉยๆแต่ตนก็เป็นห่วงตอนหัวรุ่งหากจะไปซื้อของตนเองก็จะไม่ไปจะอยู่บ้านไม่คิดว่าจะเกิดเหตุแบบนี้ตอนกลางวันมาวันนี้ตอนเช้าตนเองออกไปช่วยลูกชายอีกคนที่มาอยู่ด้วยไปช่วยขายหมูไม่คิดว่าจะเกิดเหตุตอนเช้ากลางวันแสกๆคนไปพบคือแฟนน้องเชียร์ที่นัดจะไปรับน้องเชียร์ที่บ้านแต่พอไปถึงเมื่อเปิดประตูเข้าไปพบน้องเชียร์นอนจมกองเลือดแต่ยังมีสติพูดบอกได้ว่าให้แจ้งกู้ภัยมารับไปส่งโรงพยาบาลจึงแจ้งกู้ภัยและแจ้งปู่แต่น้องเสียเลือดมากเกินแต่ไม่ทราบว่าเกิดเหตุตั้งแต่ตอนไหนซึ่งไม่คิดว่าจะเกิดเหตุแบบนี้
ล่าสุดตอนนี้นายเด่นได้วิ่งหนีขึ้นเขาในวัดคลองมวนหมู่ 1 ต.หนองปรือ อ.รัษฎา จ.ตรัง โดยตำรวจสภ.ห้วยยอดและสภ.รัษฎากำลังเร่งปิดล้อมติดตามจับกุม โดยเจ้าหน้าที่จึงเข้าปิดล้อมพื้นที่โดยรอบทั้งบนเขาในถ้ำและพื้นที่ป่าใกล้วัดพร้อมเร่งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อตามเส้นทางการหลบหนีคาดว่ายังสามารถปิดล้อมพื้นที่ได้และมีแนวโน้มจะจับกุมผู้ก่อเหตุได้ในเร็วๆนี้ขณะเดียวกันได้ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนชาวบ้านให้ช่วยเป็นหูเป็นตาหากพบเบาะแสให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที.
สำหรับศพของ“น้องเชียร์”ญาติได้นำไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดคลองมวนแล้วท่ามกลางบรรยากาศเศร้าโศกโดยเฉพาะนางชนาภาเยาดำอายุ65ปีย่าของผู้เสียชีวิตที่เลี้ยงดูหลานมาตั้งแต่เล็กเผยทั้งน้ำตาว่าตั้งใจส่งเสียจนเรียนพยาบาลเพื่อมีอาชีพมั่นคงแต่ต้องมาจากไปอย่างกะทันหันเพราะฝีมือของลุงแท้ๆของตัวเอง
เบื้องต้นเชื่อว่าเกิดอาการหลอนยาและความคับข้องใจในครอบครัวและความอิจฉาหลานที่ครอบครัวรักเอ็นดูและเอาใจใส่หลานสาวขณะนี้ทุกหน่วยยังคงเร่งไล่ล่าตัวอย่างต่อเนื่องเพื่อคลี่คลายคดีโดยเร็วที่สุด.
Advertisement
