เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 11 ส.ค. 68 ร.ต.อ.ธนณัฐฏ์ อินธรประเสริฐ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนครปฐม ได้รับแจ้งมีคนถูกอาวุธปืนยิงเสียชีวิต และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกหลายราย และได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 1 ราย
เหตุเกิดที่บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่5 ถนนไผ่เตยใต้ ต.ห้วยจระเข้ อ.เมือง จ.นครปฐม หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อม พ.ต.อ.อชิรวัตติ์ ถาวรเจริญวัฒน์ ผกก.สภ.เมืองนครปฐม และชุดสืบสวนแพทย์เวร รพ.นครปฐม เจ้าหน้าที่มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม กองพิสูจน์หลักฐาน7
ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ศูนย์กู้ชีพ โรงพยาบาลนครปฐม และเจ้าหน้าที่มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม ได้เร่งการปฐมพยาบาลทำซีพีอาร์ให้กับผู้ได้รับบาดเจ็บสองราย โดยหนึ่งรายเป็นชายสูงวัย และอีกคนหนึ่งเป็นคนหนุ่ม ทราบว่าทั้งคู่เป็นพ่อลูกกัน จากนั้นได้นำส่งผู้เป็นพ่อที่โรงพยาบาลกรุงเทพสนามจันทร์ ส่วนลูกชายได้เร่งนำส่งไปที่โรงพยาบาลนครปฐม โดยแพทย์ได้เร่งทำการยื้อชีวิตทั้งสองคนเอาไว้ แต่ทั้งคู่ทนพิษบาดแผลไม่ไหว และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ขณะเดียวกันทราบว่าในที่เกิดเหตุได้มีผู้ถูกยิง และเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 รายจึงได้ประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน7 และแพทย์เวรโรงพยาบาลนครปฐมชันสูตรพลิกศพ
จากการตรวจสอบพบว่า ที่เกิดเหตุอยู่ริมถนน โดยบ้านหลังแรกที่มีชายถูกยิงสองคนอยู่บริเวณปากทาง ส่วนบ้านด้านในเป็นบ้านชั้นเดียว มีรถเก๋งหรูจอดอยู่ ภายในบ้านพักพบศพนายสมศักดิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 70 ปี เจ้าของบ้านนอนหงายเสียชีวิตอยู่ที่บริเวณกลางบ้าน สวมเสื้อสีดำ กางเกงขาสั้นสีเทา ถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่บริเวณขมับขวา 1 นัด นอนจมกองเลือด ใกล้กันพบอาวุธปืนขนาด 9 มม.ตกอยู่เจ้าหน้าที่จึงเก็บเป็นหลักฐาน
ส่วนผู้ที่ถูกยิงเสียชีวิต 2 รายคือนายสมชาย (สงวนนามสกุล) อายุ 63 ปี ถูกยิงเข้าที่หน้าอก และลำตัว ส่วนลูกชายคือนายทรงยศ (สงวนนามสกุล) อายุ 20 ปีนอนร้องครวญครางจมกองเลือดอยู่ที่หน้าบ้านเจ้าหน้าที่นำขึ้นรถกู้ชีพปั๊มหัวใจทำการช่วยชีวิตทั้งคู่ จนสุดความสามารถ แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ โดยบริเวณดังกล่าวมีชาวบ้านที่ตกใจกับเหตุการณ์ดังกล่าวมาจับกลุ่มดูหลังเหตุการณ์ด้วยความตกใจ
จากการสอบถามในเบื้องต้น ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายสมศักดิ์ผู้ก่อเหตุ นายสมชาย และนายทรงยศ ซึ่งทั้งคู่ได้เป็นพี่น้องกันจาก 5 คนพี่น้อง โดยนายสมศักดิ์เป็นลูกคนที่ 2 ส่วนสมชายเป็นลูกคนที่ 4 ในครอบครัว ซึ่งได้มีปัญหากัน โดยมีปากเสียงเกี่ยวกับเรื่องธุรกิจห้องเช่า และทรัพย์สมบัติ ที่ผ่านมาทั้งผู้ก่อเหตุและผู้บาดเจ็บนั้นมีปากเสียงกันมาอย่างยาวนานหลายปีแล้ว ในทั้งเรื่องของธุรกิจทรัพย์สิน ซึ่งเป็นเงินกงสีของครอบครัว ก่อนเกิดเหตุได้มีปากเสียง และเคยพูดท้าทายข่มขู่กันมาตลอดว่าจะยิงกัน โดยมีเรื่องถนนทางเข้าบ้าน ซึ่งบ้านผู้ก่อเหตุอยู่ด้านใน ส่วนพ่อลูกจะมีบ้านอยู่ตรงทางออก ทำให้มีการท้าทาย และสะสมความขัดแย้งกันมากว่า20ปี
สอบถาม น.ส.ฝน ผู้เห็นเหตุการณ์ บอกว่า ตนเองนั่งอยู่ในร้านอาหารที่อยู่ตรงข้ามที่เกิดเหตุ และเหตุผู้ชายคนที่ก่อเหตุ คนเรียกกันว่าอาจารย์ ซึ่งน่าจะเป็นอดีตอาจารย์ได้เดินมายิงผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งเป็นลูกชายคือนายทรงยศ ไป 1 นัด และนอนร้องโอดโอยครวญครางด้วยความเจ็บปวด จากนั้นได้เห็นว่ามีการต่อสู้ยื้อยึดกันกับผู้หญิงคนหนึ่ง ผมสีขาว คาดว่าน่าจะเป็นภรรยาของนายสมชาย และได้มีการวิ่งเข้าไปในบ้านที่อยู่ปากซอย ก่อนจะได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด คาดว่าน่าจะยิงใส่นายสมชาย ผู้เป็นพ่อ และพากันวิ่งออกมาที่หน้าบ้าน ก่อนจะชักปืนยิงใส่นายทรงยศอีก 1-2 นัดแล้วค่อยๆ เดินกลับไปบ้านอย่างใจเย็น เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งตนเองได้บอกให้แฟนโทรศัพท์แจ้งตำรวจว่า มีเหตุยิงกัน ไม่นานก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัดมาทราบทีหลังว่าเป็นการยิงตัวตายของผู้ก่อเหตุ
โดยจากการตรวจสอบกำนัน และผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ทราบว่า เหตุความขัดแย้งของสองครอบครัวนี้เกิดขึ้นมายาวนาน โดยได้เคยมีการเชิญผู้นำให้ไปช่วยไกล่เกลี่ยหลายครั้ง แต่ก็ไม่สำเร็จ จนเป็นที่ทราบดีว่านายสมศักดิ์ และนายสมชายไม่ถูกกันอย่างรุนแรง กระทั่งมาเกิดเหตุสลดในวันนี้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้มีการสอบปากคำพยานบุคคล และติดตามภาพจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุมาประกอบ เพื่อสรุปสาเหตุของชนวนเหตุนี้ให้แน่ชัดอีกครั้งหนึ่ง
Advertisement