จากกรณีที่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และชายแดนไทย-กัมพูชา มีการแจ้งตรวจพบโดรนเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเกิดความกังวลจะเป็นโดรนสอดแนมของประเทศกัมพูชา พ.ต.ท.วสุเทพ ใจอินทร์ หัวหน้าชุดแอนตี้โดรนบช.น. ระบุว่า จากการตรวจสอบตามที่มีผู้แจ้งเหตุพบโดรนทั้งในพื้นที่กรุงเทพ และชายแดน ส่วนใหญ่เป็นเครื่องบินไม่ใช่โดรนอย่างที่หลายคนกังวล พร้อมแนะนำ ข้อสังเกต ความแตกต่างระหว่างโดรนกับเครื่องบิน โดยในการบินโดรน จะมีสัญญาณไฟสีเขียวสลับกับสีแดง ที่บริเวณด้านหน้าของโดรน ส่วนบริเวณด้านหลังของโดรนเป็นไฟกระพริบสีเขียวเท่านั้น ซึ่งในกรณีที่ GPS ของโดรนนั้นขาดการเชื่อมต่อไฟด้านท้ายอาจจะกระพริบเป็นสีเหลืองอ่อน ส่วนโดรนที่มี 2 ปีก บริเวณปีกขวาจะเป็นสีเขียว และปีกซ้ายเป็นสีแดงจะกระพริบอยู่
ส่วนไฟของเครื่องบินบริเวณปีกขาวจะเป็นสีเขียว และปีกซ้ายจะเป็นสีแดง นอกเหนือจากนี้ ไฟของเครื่องบินยังมีไฟที่เป็นแสงสีขาว บางเครื่องจะอยู่บริเวณท้ายเครื่องบิน และใต้ท้องเครื่องบินก็เป็นสีขาว
ส่วนการเคลื่อนที่ของโดรนนั้น จะสามารถเคลื่อนที่ได้ 360 องศาสามารถบินซิกแซ็กได้ทิศทางของไฟก็จะสลับกันไปมา แตกต่างจากเครื่องบินที่มีลักษณะการบินทางตรงทิศทางเดียว
เมื่อถามถึงระยะความสูงของโดรน ถ้ามองด้วยระยะสายตาอาจจะมองได้ยาก เพราะเจ้าหน้าที่ก็สังเกตได้ยากเช่นเดียวกัน อีกหนึ่งข้อสังเกต คือเสียงโดรนจะมีเสียงที่ดังกว่าถ้าหากอยู่ในพื้นที่เงียบ และมีเสียงแตกต่างจากเครื่องบินอย่างชัดเจน แต่ถ้าหากอยู่ใน กรุงเทพฯ หรือพื้นที่ชุมชนจะฟังเสียงได้ยาก พร้อมบอกว่าหากประชาชนพบเจอโดนต้องสงสัยหรือว่าถูกขายโดนสามารถโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพราะตอนนี้มีข้อมูลว่าชาวเกษตรบางส่วนก็ใช้โดรนเกษตรในการบิน ซึ่งขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างการพูดคุยหารือถึงมาตรการ แต่ก็มีความเข้าใจเกษตรกรที่ต้องใช้ในการประกอบอาชีพ
Advertisement