เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (24 ก.ค. 2568) กองทัพเรือ โดยกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (กปช.จต.) เจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี (ฉก.นย.จันทบุรี) ซึ่งมีชุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธินที่ 4 (ชค.ทพ.นย.4) ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่ามีแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาจำนวนหนึ่ง ลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย จึงได้จัดกำลังพลเข้าตรวจสอบพื้นที่บริเวณบ้านใหม่ หมู่ 4 ต.โป่งน้ำร้อน อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี
จากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ตรวจพบแรงงานชาวกัมพูชาจำนวน 8 ราย โดยมีเอกสารผ่อนผันให้ทำงานได้จำนวน 3 ราย (ชาย 2 ราย, หญิง 1 ราย) และเป็นผู้ลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมายจำนวน 5 ราย (ชาย 2 ราย, หญิง 3 ราย) คือ
น.ส.เพียเชือน (Miss.PHEACHORN) อายุ 40 ปี สัญชาติกัมพูชา
น.ส.สเรยนวนเดือน (Miss.SREYNUONDOEURN) อายุ 23 ปี สัญชาติกัมพูชา
น.ส.สเรยเนียงเดือน (Miss.SREYNENGDOEURN) อายุ 19 ปี สัญชาติกัมพูชา
นายเดือทเดือน (MR.DOEURTDOEURN) อายุ 46 ปี สัญชาติกัมพูชา
นายวิทวิ (MR.VEATVEA) อายุ 22 ปี สัญชาติกัมพูชา
หนึ่งในแรงงานชาวกัมพูชาที่ถูกจับกุมในครั้งนี้ได้เปิดเผยถึงสาเหตุของการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายว่า ก่อนหน้านี้พวกเขาได้เดินทางกลับประเทศกัมพูชาตามคำชักชวนของผู้นำในประเทศ เพื่อไปลงทะเบียนทำงานในประเทศของตนเอง แต่เมื่อกลับไปถึง กลับไม่เป็นไปตามที่ชักชวนไว้ ทำให้ไม่มีงานทำและประสบปัญหาในการดำรงชีวิต และภาระปากท้องคนในครอบครัวที่ต้องรับผิดชอบ ด้วยเหตุนี้จึงตัดสินใจลักลอบเดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทยอีกครั้งเพื่อแสวงหางานทำ
แรงงานรายนี้ยังกล่าวเสริมอีกว่า "ประเทศไทยกินอยู่สบายแถมมีโรงพยาบาลที่ดี" ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้พวกเขายินดีที่จะเสี่ยงลักลอบหนีกลับเข้ามาในประเทศไทย เพื่อโอกาสในการมีชีวิตที่ดีขึ้นและเข้าถึงบริการสาธารณสุขที่มีคุณภาพ
หลังจากเสร็จสิ้นการตรวจสอบและคัดแยกแรงงานต่างด้าวแล้ว เจ้าหน้าที่ได้ประสานงานกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดจันทบุรี (ตม.จันทบุรี) เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป และนำตัวแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายทั้ง 5 ราย ส่งมอบให้สถานีตำรวจภูธรโป่งน้ำร้อน (สภ.โป่งน้ำร้อนฯ) เพื่อดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป
หากมองถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคม เหตุการณ์การลักลอบเข้าเมืองของแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายครั้งนี้ ชี้ให้เห็นถึงปัญหาทางเศรษฐกิจในประเทศเพื่อนบ้าน ที่ยังคงส่งผลกระทบต่อการไหลเข้าของแรงงานต่างด้าวมายังประเทศไทย แรงงานเหล่านี้มักเข้ามาเพื่อแสวงหาโอกาสทางเศรษฐกิจที่ดีกว่า รวมถึงการเข้าถึงสวัสดิการและคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าที่ประเทศต้นทางไม่สามารถให้ได้
การลักลอบเข้าเมืองอย่างต่อเนื่องไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ แต่ยังสร้างความท้าทายในการบริหารจัดการแรงงานและสวัสดิการสังคมของประเทศไทยอีกด้วย รัฐบาลจึงต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุและปลายเหตุ ทั้งการปราบปรามการลักลอบเข้าเมือง และการแก้ปัญหาชายแดนและโอกาสทางเศรษฐกิจในระยะยาว
Advertisement