กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นำโดย พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป.สั่งการเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ป. จับกุม ผู้ต้องหา จำนวน 2 ราย
1. นายภาสวัฒน์ ฯ อายุ 48 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 4103/2568 ลง 16 กรกฎาคม 2568 ซึ่งต้องหากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันปลอมเอกสารราชการ”
2. นายถิรวิทย์ ฯ อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 4101/2568 ลง 16 กรกฎาคม 2568 ซึ่งต้องหากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันปลอมเอกสารราชการ”
โดยจับกุมได้ที่ ต.ลำพยา อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม และแขวงคลองสิบสอง เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร
ตรวจยึดของกลาง จำนวน 42 รายการ
1. โทรศัพท์มือถือ จำนวน 6เครื่อง
2. รถยนต์ จำนวน 8 คัน
3. ป้ายเสียภาษีประจำปี จำนวน 6 แผ่น
4. ป้ายทะเบียน จำนวน 5 แผ่น
5. เอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง จำนวน 17 รายการ
สืบเนื่องจากการที่ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้คิดค้นและผลักดันการนำ ระบบตรวจจับและอ่านป้ายทะเบียนรถยนต์ด้วยเทคโนโลยีอัตโนมัติ (License Plate Recognition System) นำมาใช้สนับสนุนภารกิจของตำรวจทางหลวง ส่งผลให้สามารถตรวจจับรถต้องสงสัยที่อาจเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้สามารถตรวจพบรถต้องสงสัยจำนวนมาก และนำไปสู่การจับกุมคดีสำคัญหลายคดี
ซึ่งจากการนำระบบดังกล่าวมาใช้งานจริง ปฏิบัติการครั้งนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568 หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจังหวัดนครราชสีมา ได้ตรวจยึดรถยนต์ BMW ต้องสงสัยคันหนึ่งบนถนนมิตรภาพ ซึ่งมีเอกสารทะเบียนปลอม จากการสอบสวนผู้ขับขี่คือนางนงนุช ทำให้กองบังคับการปราบปราม เริ่มขยายผลเพื่อติดตามจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด แกะรอยจากโซเชียลมีเดียสู่การล่อซื้อ
จากการสืบสวนขยายผลทราบว่า รถยนต์คันดังกล่าวถูกซื้อมาจาก เพจเฟซบุ๊ก ชื่อ “เฮียอ๊อด” เป็นเพจ ซื้อ-ขายรถยนต์ผิดกฎหมาย จากการตรวจสอบข้อมูลรายละเอียดในเฟซบุ๊กชื่อ “เฮียอ๊อด” ข้างต้น พบว่าเป็นเพจเฟซบุ๊ก ที่เปิดในสื่อสังคมออนไลน์ และประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ และเป็นเพจซื้อ-ขายรถยนต์
น่าเชื่อว่าผิดกฎหมาย เนื่องจากว่าราคารถยนต์ มีราคาถูกกว่าท้องตลาดเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้สายลับแฝงตัวเข้าไป สมัครเป็นเพื่อนกับเพจ เฟซบุ๊ก “เฮียอ๊อด” เพื่อติดต่อล่อซื้อเอกสารราชการกรมการขนส่งทางบกปลอม
จากการล่อซื้อแผ่นป้ายแสดงการเสียภาษีประจำปีปลอมผ่านเพจเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า “เฮียอ๊อด” โดยสายลับได้ติดต่อขอซื้อและชำระเงินค่าดำเนินการจำนวน 2,500 บาท ทางเพจยืนยันว่าจะจัดส่งเอกสารภายใน 1 สัปดาห์ ภายหลังเมื่อได้รับพัสดุและทำการตรวจสอบ พบว่าชื่อผู้จัดส่งพัสดุและบุคคลที่นำส่งตรงกับข้อมูลของ นายถิรวิทย์ ฯ ซึ่งมีประวัติอาชญากรรมเกี่ยวกับการปลอมแปลงเอกสารและยาเสพติด และเมื่อนำแผ่นป้ายภาษีไปตรวจสอบกับกรมการขนส่งทางบก ก็ได้รับการยืนยันว่าเป็น "เอกสารปลอม" เนื่องจากหมายเลขคุมภาษีดังกล่าวไม่เคยถูกผลิตขึ้นจริง
จากการเครือข่ายอาชญากรรมระดับชาติ ขบวนการนี้ไม่ได้เป็นเพียงการซื้อขายรถยนต์และปลอมเอกสารทั่วไป แต่มีความเชื่อมโยงกับอาชญากรรมร้ายแรงระดับประเทศ เช่น กรณีล่าสุดที่ตำรวจภูธรภาค 8 ตรวจยึดรถกระบะซึ่งใช้ลักลอบขนระเบิด และตรวจสอบพบว่าเป็นรถที่ถูกซื้อขายในเครือข่ายเดียวกัน ซึ่งเชื่อมโยงกับกลุ่มวางระเบิดในพื้นที่ภาคใต้ จากการประเมินพบว่า เงินหมุนเวียนในเครือข่ายดังกล่าวมีมากกว่า 200 ล้านบาทต่อปี สะท้อนถึงความเสียหายเชิงระบบ และความเชื่อมโยงกับอาชญากรรมระดับประเทศอย่างน่ากังวล การปลอมแผ่นป้ายภาษีเพียงวันละ 3 แผ่น สามารถสร้างรายได้ถึง 30,000 บาทต่อเดือน ขณะที่เพจเฟซบุ๊กเครือข่ายใหญ่มีรายได้หมุนเวียนปีละ 40-50 ล้านบาท และประเมินว่าเงินหมุนเวียนในเครือข่ายทั้งหมดมีมากกว่า 200 ล้านบาทต่อปี
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดเพื่อยื่นคำร้องต่อศาล ออกหมายจับจำนวน 2 หมาย และหมายค้นต่อผู้ที่เกี่ยวข้องในขบวนการ ทั้งเจ้าของเพจเฟซบุ๊กที่รับปลอมแปลงเอกสารราชการ ผู้จัดส่งแผ่นป้ายภาษีปลอม กลุ่มผู้ซื้อรถหลุดจำนำหรือรถที่ใช้ทะเบียนปลอม ตลอดจนกลุ่มผู้ซื้อแผ่นป้ายภาษีปลอมและบุคคลอื่นในเครือข่าย
และล่าสุด กองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการของตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ได้เปิดปฏิบัติการ “CIB สยบขบวนการขายรถหลุด ป้ายปลอม เล่มผี ภาษีเก๊” สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจรวมกว่า 50 นาย ลงพื้นที่ตรวจค้นทั้งหมด 14 จุดทั่วประเทศ ในเขตจังหวัดนครปฐม, กรุงเทพมหานคร, ร้อยเอ็ด, ขอนแก่น, ยโสธร, นครพนม, อุบลราชธานี, นครราชสีมา และสุรินทร์
เป้าหมายเพื่อจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ คือ นายภาสวัฒน์ ฯ และนายถิรวิทย์ ฯ พร้อมตรวจยึดพยานหลักฐาน และซักถามบุคคลที่เกี่ยวข้องในขบวนการดังกล่าว ผลการตรวจค้นสามารถยึดของกลางได้หลายรายการ ได้แก่ รถยนต์จำนวน 8 คัน, โทรศัพท์มือถือ 6 เครื่อง, แผ่นป้ายแสดงการเสียภาษีประจำปี
5 แผ่น, แผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ 5 แผ่น และเอกสารอื่น ๆ รวมกว่า 42 รายการ จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป. ดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมทั้งดำเนินการขยายผลอย่างต่อเนื่อง
จากการสอบสวนเบื้องต้น นายถิรวิทย์ฯ ยอมรับว่าเป็นผู้ทำการปลอมแปลงแผ่นป้ายแสดงการเสียภาษีรถยนต์ รายได้หลักมาจากการผลิตและจัดส่งแผ่นป้ายปลอม สร้างรายได้สูงเกือบหนึ่งล้านบาทต่อปี และ
นายภาสวัฒน์ฯ ให้การรับว่า ขายรถหลุดจำนำผ่านเพจ “เฮียอ๊อด” และ “เสี่ยบัง ยอดแหลม” โดยทราบว่าเป็นรถผิดกฎหมาย และมีส่วนร่วมขายแผ่นป้ายภาษีปลอม ได้ส่วนแบ่งคันละ 2,000–5,000 บาท และแผ่นละ 200–300 บาท
จากพฤติการณ์ทั้งหมด พบว่าขบวนการดังกล่าวมีลักษณะเป็นเครือข่ายอาชญากรรมที่ดำเนินการอย่างเป็นระบบ การกระทำของผู้ต้องหาทั้งหมดเป็นความผิดตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป. เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
จากการสอบสวนเบื้องต้น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
Advertisement