Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
นักธุรกิจ ถูกนักการเมืองนามสกุลดัง แอบอ้างอดีตรัฐมนตรี ตุ๋นเงิน 7 ล้าน

นักธุรกิจ ถูกนักการเมืองนามสกุลดัง แอบอ้างอดีตรัฐมนตรี ตุ๋นเงิน 7 ล้าน

21 ก.ค. 68
18:24 น.
แชร์

สามี-ภรรยานักธุรกิจ หอบหลักฐาน ร้องเรียน “ธนกฤต”  ถูกนักการเมืองนามสกุลดัง แอบอ้างรู้จักอดีต รมว.มหาดไทย ตุ๋นเงิน 7 ล้านพีกสุดเรียกเก็บค่าคุยโจรใต้

วันนี้ (21 กรกฎาคม 2568) ที่ สำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุข  ดร.พิมไหมทอง ศักดิพัตโภคิน หัวหน้าพรรคพร้อมตัวแทนพา นางสาวทิพยาภรณ์ อายุ 45 ปี และนายณภัทรพล อายุ 43 ปึ 2 ผู้เสียหาย (ผู้หญิงโดนหลอก 767,000 บาท ผู้ชายโดนหลอก 4 ล้านบาท) โดยสองสามีภรรยาอ้างตัวเป็นผู้เชี่ยวชาญประจำรัฐมนตรี ก่อนหลอกตุ๋นเงินผู้เสียหายและให้ซื้อรถ ประจำตำแหน่งรัฐมนตรี รวมความเสียหาย 7 ล้านบาท ก่อนนำเรื่องมาร้องเรียนกับนายกองตรี ธนกฤต จิตอารีรัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

โดยนายธนกฤต เปิดเผยว่า 2 ผู้เสียหาย ได้ถูกบุคคลที่แอบอ้าง มีตำแหน่งระดับสูงประจำตัวรัฐมนตรีท่านหนึ่ง แอบอ้างเป็นข้าราชการของกระทรวงมหาดไทย  รัฐสภา และนายทหารยศนายพลของกอ.รมน. แอบอ้างให้เข้าร่วม 1 โครงการที่อยู่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และอีก 2 โครงการของกระทรวงมหาดไทย รวมทั้งแอบอ้างฝากคนเข้าทำงานในการไฟฟ้า การซื้อซองประมูล โครงการรัฐต่างๆ และเรื่องการขายวุฒิการศึกษา พร้อมทั้งยังมีใช้เอกสารปลอมแต่งตัังผู้เสียหายเป็นเลขานุการ-ที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ อย่างไรก็ดีในธนกฤต ตั้งข้อสังเกตว่าบุคคลทั้งสองที่มีการหลอกลวงผู้เสียหายจะมีคนที่มีตำแหน่งในทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่ ทำให้ ผู้เสียหายเกิดความกังวลว่าต้องต่อสู้กับผู้ มีอิทธิพล จึงมาร้องทุกข์

ไทม์ไลน์เรื่องดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2566 ถึงวันที่ 29 มิถุนายน 2567 โดยนางสาวทิพยาภรณ์ (ผักกาด) เป็นนักธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการรับเหมาก่อสร้างต่างๆ โดยมีเพื่อนแนะนำให้รู้จักกับคนที่อ้างตัวเป็นผู้เชี่ยวชาญอดีตรัฐมนตรี ของกระทรวงมหาดไทย ในครัังแรกที่รู้จัก มีการตกลงที่จะหาโครงการมาให้ และมีการเรียกเก็บ ค่าใช้จ่ายในการที่จะเข้ารับตำแหน่งต่างๆอย่างเป็นขั้นเป็นตอน

เมื่อรู้จักกันครัังแรก มีการเรียกเงินค่าน้ำมันรถ 3,000 บาท และจ่ายอีก 7,000 บาทอ้างว่าเป็นการติดต่องาน

จากนั้นมีการเรียกเก็บเงินเรื่อยๆ จนกระทั่งมีการเสนอให้ ผู้เสียหายเข้าไปรับทำโครงการใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ผู้เสียหายจึงหลงเชื่อว่าจะต้องลงพื้นที่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งคนที่อ้างตัวเป็นผู้เชี่ยวชาญของรัฐมนตรี อ้างว่าต้องหาชุดคุ้มครองความปลอดภัยซึ่งมีค่าใช้จ่าย จึงโอนเงินค่าดูแลความปลอดภัยลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ไป 30,000 บาท แต่ เมื่อตรวจสอบจริงๆ ไม่มีการเรียกเก็บใดๆ

ต่อมากลุ่มคนดังกล่าว อ้างรู้จักนายพลระดับกอ.รมน. ซึ่ง ก็มีการพาผู้เสียหายได้พบในบุคคลดังกล่าว โดยกลุ่มคนดังกล่าวอ้างว่าจะทำงานตรงนี้ต้องคุยกับโจรใต้ ผู้เสียหายโอนเงิน 20,000 บาท เป็นค่าคุยกับโจรใต้ จากนั้นมีการชวนทำบุญกฐิน 2 กองกองละ 400 บาท

หลังจากนั้นก็เรียกค่าคุยงานภาคใต้หลายครั้ง 4,000 /6,000/10,000/15,000/20,000 เมื่อคุยกันเรียบร้อย มีการเรียกเก็บค่ามัดจำโครงการภาคใต้ 200,000 บาท เก็บ 40,000 และ 12,000 และ 26,000 บาท สุดพีดคือมีเก็บค่าโทรศัพท์ 900 บาท ผู้เสียหายจึงหลงเชื่อและมีการโอนเงินให้ตลอดมา

จากนั้นมีการคุยเรื่องการซื้อชุดอุปกรณ์สื่อสาร เช่น โทรศัพท์ เครื่องปรับอากาศ ชุดเครื่องชงกาแฟและอุปกรณ์สำนักงานทั้งหลายก่อนที่จะมีการเรียกเก็บเงินมัดจำ 21,000 บาท พอคุยข้อตกลงงาน กลับโดนแจ้งว่างานผิดพลาด ต้องแก้ด้วยการซื้อทองให้ผู้ใหญ่ 2 ยอด ประกอบด้วย 88,000 และ 140,000 บาท  หลังจากนั้น มีการซื้อเก้าอี้นวด 1 ตัว 290,000 บาท พอสเปคไม่ได้ซื้อเก้าอี้นวดเพิ่ม 1 ตัว

จากนั้นช่วงเดือนมกราคม 2567 ฝั่งคนที่แอบอ้างแจ้งงานเข้าสู่กระบวนการประมูลงาน โครงการสามจังหวัดชายแดนภาคใต้โดยแจ้งมาว่าต้องซื้อซอง 4 ซอง เป็นเงิน 400,000 บาท

จากนั้นมีการเปลี่ยนพิกัดแอบอ้างไปที่สภา โดยทางผู้เชี่ยวชาญรัฐมนตรี หาเจ้าแม่สภา ลักษณะทรงผมตีโป่ง ซึ่งมีข้อมูลว่าเจ้าแม่คนนี้มีความสนิทสนมกับอดีตสส. อักษรย่อ ฉ.โดยผู้เสียหายโดนเรียกเก็บค่ารู้จักเจ้าแม่สภา ค่าเดิน 20,000 บาท พอเจ้าแม่สภาชวนทำบุญทอด เป็นเงินสด 10,000 บาท รวมทั้งยังมีค่าอื่นๆ อีก 50,000 บาท

กระทั่งมีโครงการใหม่โผล่มา ที่พีกคือให้ผู้เสียหายซื้อรถมือสอง BMW x5 ราคา 1,668,00 0 บาทพร้อม เงินสด 200,000 บาท โดยอ้างว่ารัฐมนตรีที่เป็นเจ้านายลงพื้นที่ต้องมีรถมารับ รวมทั้งยังมีโครงการเพิ่ม 1 โครงการของกระทรวงมหาดไทย งบฉุกเฉิน ทางผู้เสียหายจึงมีการโอนเงิน 240,000 บา ท พร้อมอ้างต้องใส่ซองให้ 4 ชุดจึงมีการโอนเงิน 1,100,000 บาท

หลังจากนั้นเมื่อโครงการอยู่ระหว่างการแล้ว ชวนมาเป็นกรรมาธิการปปง. แต่ต้องจ่ายค่าเข้า 60,000 บาท ก่อนมีการแจ้งว่าโครงการไหนไม่รู้ มีปัญหา ทั้งทั้งที่ยังไม่ได้มีการเซ็นสัญญาเลยแม้แต่โครงการเดียว ต้องจ่ายเงิน 200,000 บาท

จากนั้นมีการส่งแบบฟอร์มมาให้ ผู้เสียหาย อ้างว่าได้เครื่องราชย์ ให้โอนเงิน 100,000 บาท ก่อนให้ไปกระทรวงคมนาคม อ้างว่าได้ตำแหน่งใหม่ โดยอ้างว่ามีค่าเครื่องชงกาแฟ 30,000 บาท ทั้งยังมีค่าใช้จ่ายอีกสารพัดทั้งค่าแรกเข้ากรรมาธิการ ค่าทำบัตรเข้าทำเนียบรัฐบาล

ส่วนประเด็นการแอบอ้างเป็นตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญประจำรัฐมนตรี ที่อาจเข้าข่ายความผิด คือมีออกหนังสือตราครุฑเอง เรื่องแต่งตั้งเลขาฯ ประจำตัวผู้เชี่ยวชาญ โดยตนขอยืนยันตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญประจำตัวรัฐมนตรีไม่มีแน่นอน แต่การแอบอ้างเป็นผู้เชี่ยวชาญ คนๆ นี้ยังอ้างเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง (พรรคไทยยั่งยืน)

ด้านนางสาวทิพยาภรณ์ เปิดเผยว่า   2 สามีภรรยาที่แอบอ้างกับตนนั้น ตนหลงเชื่อเนื่องจากว่านามสกุล และ มีการเอ่ยชื่อรัฐมนตรีที่มีตัวตนอยู่จริง ส่วนตัวตัวเธอเป็นนักธุรกิจ ก็คาดหวังเรื่องของคอนเน็คชั่น ซึ่งส่วนตัวเห็นว่ามีช่องทางที่อาจจะได้งานเพิ่มขึ้น ประกอบกับฝ่ายคนที่แอบอ้างนั้นมีการเข้ามาเสนองานโครงการต่างๆตนจึงหลงเชื่อ ก่อนที่จะมารู้ความจริงจากผู้ใหญ่ที่เขาอ้างว่ารู้จัก มายืนยันว่าโครงการไม่มีจริงตนจึงรู้ว่าถูกหลอก จึงมีการรวบรวมข้อมูลมาดำเนินคดี แต่คดีไม่มีความคืบหน้าจึงปรึกษาหัวหน้าพรรคพร้อม ก่อนจะเดินทางมาที่กระทรวงสาธารณสุขในวันนี้ซึ่งตน ในฐานะผู้เสียหายก็เกรงกลัวจริงๆ เพราะไม่รู้ว่าเขามีอิทธิพลมากน้อยแค่ไหน เพราะเขาทำได้ขนาดนี้ อาจจะมีผู้ใหญ่ที่ใหญ่กว่านั้นเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะคำกล่าวอ้างทั้งคนและโครงการ เขาพูดเหมือนมันคือเรื่องจริง ลื่นไหล ไม่มีสะดุด มีคำตอบได้ทุกเรื่อง และ ให้เราไปตามสืบมาเองว่ามันจริงหรือไม่

เมื่อถามว่า ในระหว่างนั้นมีอะไรที่ทำให้ทางผู้เสียหายเชื่อว่าคนที่แอบอ้างรู้จักกับนักการเมือง และคนระดับสูงจริง ผู้เสียหายระบุว่า เขาให้ไปเจอที่อาคารรัฐสภา ซึ่งจะมีการประชุมกรรมาธิการ ทุกวันพุธ-พฤหัส และแนะนำคนในรัฐสภา และยังเอ่ยชื่อนักการเมือง ซึ่งเมื่อตนขอตามไปเจอนัดการเมืองเพราะอยากแนะนำตัว อีกฝ่ายอ้างว่า เป็นโครงการลับ นอกจากนี้ มีการอ้างชื่อนายพล ที่ดูแลโครงการ ทำให้ยิ่งเชื่อ จนสุดท้ายพยายามไปเช็ก เพราะโครงการไม่คืบ พอไปเช็ก ก็ไม่พบ แต่เจอโครงการชื่อคล้ายกัน จึงมีการไปสอบถามพลโทท่านดังกล่าว แต่ทางพลโทบอกไม่รู้เรื่อง ทำให้รู้ว่าโดนหลอกแล้ว ส่วนตัวตนไม่ได้หวังเรื่องของเงินอยากให้มีการดำเนินการกับผู้ที่หลอกลวง โดยใช้ลักษณะการแอบอ้างเนื่องจากคนมองว่าเล่นใหญ่และมีความน่าเชื่อถือ ที่ผ่านมามีความทุกข์ใจเนื่องจากต้องไปหยิบยืมเงินจากเพื่อน เพื่อนำมาโอนให้กับผู้แอบอ้างดังกล่าว จึงอยากเดินหน้าดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

จากการตรวจสอบเบื้องต้น นายธนกฤต ระบุว่า คนก่อเหตุเป็นคนนามสกุลดังในจ.กระบี่ จะต้องมีการตรวจสอบกันต่อไปว่ามีตำแหน่งเกี่ยวข้องในหน่วยงานที่มีการแอบอ้างหรือไม่ หลังจากนี้ ตนจะประสานไปกระทรวงยุติธรรมเรื่องการคุ้มครองพยาน เนื่องจากผู้เสียหายกังวลในเรื่องผู้มีอิทธิพล และจะประสานให้บก.ปปป. ตรวจสอบ  ประสานไปสภา

Advertisement

แชร์
นักธุรกิจ ถูกนักการเมืองนามสกุลดัง แอบอ้างอดีตรัฐมนตรี ตุ๋นเงิน 7 ล้าน