วันที่ 2 ก.ค. 68 แหล่งข่าวผู้นำระดับสูงกองทัพกะเหรี่ยงคาเรนนี KA เปิดเผยว่า กองกำลังผสมกะเหรี่ยงคาเรนนี ประกอบด้วย กองทัพกะเหรี่ยงคาเรนนี Karenni Army , กองกำลังป้องกันชาติคาเรนนี Karenni National Defenese Force และ กองกำลังดาวแดง Karenni National People Liberation Fornt สามารถยึดค่ายใหญ่ของทหารเมียนมา ค่ายกองพันทหารราบที่ 134 ได้อย่างเบ็ดเสร็จเมื่อบ่ายวานนี้
ซึ่งก่อนหน้านั้นเมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 68 ทางด้านกองกำลังผสม สามารถค่ายทหารเมียนมาอีก 1 ค่ายคือค่ายทหารเมียนมา กองพันทหารราบที่ 135 ซึ่งในค่ายดังกล่าวยังมีทหารเมียนมากองพันที่ 1 และกองพันที่ 14 ซึ่งเป็นทหารเมียนมาจากค่ายป่าตึง ที่ถูกทหารกะเหรี่ยงคาเรนนียึดค่ายได้เมื่อปีก่อน และได้หนีไปอยู่กับทหารเมียนมาที่เมืองผาซอง
การสู้รบดังกล่าวได้เริ่มต้นตั้งแต่ วันที่ 25 มิ.ย. 68 เวลา 05.30 น. เมื่อกองกำลังผสมคาเรนนีจำนวนกว่า 300 นายได้บุกเข้าโจมตี เพื่อยึดฐานที่มั่นของทหารเมียนมาในเมืองผาซอง และสามารถยึดฐานที่มั่นของทหารเมียนมาได้เพียง 1 ฐาน คือฐานที่มั่น ทหารเมียนมากองพันทหารราบที่ 135 แต่ต่อมาทหารเมียนมาสามารถหวนกลับมายึดค่ายกลับคืนไปได้ ส่วนที่เหลืออีก 1 ค่าย ยังไม่สามารถยึดได้และอยู่ระหว่างการสู้รบอย่างดุเดือด ต่อมาวันที่ 1 ก.ค. 68 จึงสามารถยึดได้อีก 1 ค่าย คือค่ายทหารเมียนมา กองพันทหารราบที่ 134 ได้สำเร็จ
แต่อย่างไรก็ตามค่ายทหารเมียนมาที่เหลือคือค่ายกองพันทหารราบที่ 135 จะถูกยึดให้ได้ในเร็วๆนี้ และขณะนี้ทางฝ่ายกองกำลังผสมคาเรนนี ได้มีการหยุดพักการสู้รบ เนื่องจากมีทหารสูญเสียไปจำนวนมาก และทหารส่วนใหญ่อ่อนล้าจากการทำศึกที่ต่อเนื่องมาถึง 8 วัน
จากการสู้รบอย่างดุเดือด ส่งผลให้มีการลำเลียงทหารและราษฎรชาวกะเหรี่ยงคาเรนนีที่โดนลูกหลงจากการทิ้งระเบิดของเครื่องบินรบเมียนมา เข้ารับการรักษาตัวในไทยกว่า 90 ราย โดยทางการไทยต้องจัดทีมแพทย์ฉุกเฉิน Sky Docter จากโรงพยาบาลนครพิงค์ และเฮลิคอปเตอร์กองทัพอากาศจาก กองบิน 41 มาลำเลียงผู้ป่วยอาการหนักไปรักษาตัวในโรงพยาบาลนครพิงค์ และโรงพยาบาลเชียงใหม่ราม และเนื่องด้วยกำลังของแพทย์และพยาบาลในพื้นที่ไม่เพียงพอ ทางโรงพยาบาลในเชียงใหม่ได้มีการจัดเจ้าหน้าที่ทีมแพทย์จากโรงพยาบาลแต่ละอำเภอในเชียงใหม่ มาสนับสนุนให้การให้การช่วยเหลือรักษาคนป่วยจากการสู้รบที่ถูกส่งเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
Advertisement