วันที่ 28 มิ.ย. 68 จากกรณีตำรวจ สภ.พังงา จับกุมคนร้าย พร้อมวัตถุต้องสงสัยลักษณะคล้ายระเบิดแสวงเครื่อง ซึ่งมีการใช้ก่อเหตุในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และจากการสอบปากคำคนร้ายให้การรับสารภาพว่ามีการนำวัตถุต้องต้องสงสัยไปวางไว้ตามจุดต่างๆ ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต จ.พังงาและ จ.กระบี่
จากการตรวจสอบพื้นที่ และควานหาวัตถุต้องสงสัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ภาค 8 และภาค 9 ตามที่คนร้ายสารภาพในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ระหว่างวันที่ 24-27 มิ.ย. 68 ปรากฎว่า มีการตรวจพบ และสามารถเก็บกู้พร้อมทำลายได้ทั้งหมด 8 จุดประกอบด้วย
จุดที่ 1 ช่วงเย็นวันที่ 24 มิ.ย. 68 ตรวจพบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยจอดอยู่ที่ลานจอดรถอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ พบมีวัตถุคล้ายถังดับเพลิงซุกซ่อนอยู่ใต้เบาะรถ จึงตัดสินใจยิงทำลายตัดวงจรได้สำเร็จ
จุดที่ 2 เมื่อช่วงวันที่ 26 มิ.ย. 68 บริเวณชายหาดป่าตองห่าง จากป้อมตำรวจบางลาไปทางสวนสาธารณะโลมา ประมาณ 400 เมตร โดยคนร้ายนำวงจรใส่ไว้ในแก้วเก็บความเย็น และฝังไว้ในทรายลึกประมาณ 50 ซ.ม. เจ้าหน้าที่ทำลายโดยไช้วิธียิงตัดวงจร
จุดที่ 3 ช่วงก่อนเที่ยงวันที่ 26 มิ.ย. 68 ตรวจพบบริเวณแหลมพรมเทพ หลังจากค้นหามาประมาณ 2 วัน โดยจุดนี้คนร้ายนำวงจรใส่ไว้ในกระป๋องขนมขบเคี้ยวซุกไว้บริเวณฐานปูนที่ก่อเป็นที่นั่ง และใช้ก้อนหินปิดไว้ เจ้าหน้าที่ทำลายโดยใช้วิธีตัดวงจร
จุดที่ 4 ช่วงเย็นวันที่ 26 มิ.ย. 68 เจ้าหน้าที่EOD ตำรวจภูธรภาค9 เก็บกู้วัตถุต้องสงสัย ซึ่งมีนำแผงควบคุมซุกในพาวเวอร์แบงค์นำไปวางไว้ใต้คานบริเวณอาคารจุดชมวิวสะพานสารสิน
จุดที่ 5 ช่วงเช้าวันที่ 27 มิ.ย. 68 เจ้าหน้าที่ตรวจพบที่บริเวณหาดสุรินทร์คนร้ายนำไปฝังทรายใกล้กับต้นไม้ ซึ่งจุดนี้ใช้เวลาในการค้นหาเกือบ 3 วันเก็บกู้ได้สำเร็จ
จุดที่ 6 วันที่ 27 มิ.ย. 68 เจ้าหน้าที่ตรวจพบบริเวณหาดในยาง โดยนำไปฝังทรายไว้เก็บกู้ได้สำเร็จ
จุดที่ 7 ช่วงบ่ายวันที่ 27 มิ.ย. 68 ตรวจพบบริเวณหาดป่าตอง โดยคนร้ายนำแผงวงจรใส่ในแก้วเก็บความเย็นฝังทรายใกล้ต้นไม้ใหญ่ ห่างจากจุดที่พบครั้งแรกประมาณ 50 เมตร ซึ่งได้เก็บกู้ และทำลายวงจรสำเร็จแล้ว
จุดที่ 8 ช่วงเย็นวันที่ 27 มิ.ย. 68 เจ้าหน้าที่ตรวจพบบริเวณหาดสุรินทร์ โดยคนร้ายนำแผงวงจรใส่ในแก้วเก็บความเย็นไปฝังทรายไว้ ห่างจากจุดแรกประมาณ 150 เมตรใกล้กับจุดบริการของเจ้าหน้าที่ไลฟ์การ์ด ซึ่งได้ทำการเก็บกู้สำเร็จ
อย่างไรก็ตาม พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่4 ออกมาระบุว่า วัตถุต้องสงสัยที่คนร้ายนำไปวางตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ของ จ.ภูเก็ตนั้นไม่ใช่ระเบิดทำลายล้าง แต่เป็นการสร้างสถานการณ์ทำให้เกิดความหวาดกลัว
Advertisement