วันที่ 16 มิ.ย. 68 ที่สำนักงานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ถ.แจ้งวัฒนะ ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 65 ปี อดีตพยาบาลเกษียณอายุราชการ ได้นำเอกสารหลักฐานต่างๆ เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับนาย รณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม นางชฎาภรณ์ พงศ์ทองเมือง ที่ปรึกษามูลนิธิฯ เพื่อขอให้ช่วยเหลือ
หลังถูกหญิงสาวรายหนึ่งทำทีเข้ามาพูดคุยสร้างความสัมพันธ์เชิงชู้สาวก่อนหลอกให้รัก ชักชวนร่วมลงทุนในระบบ Crypto สูญเงินไปเกือบ 12 ล้านบาท
น.ส.เอ (นามสมมติ) ผู้เสียหาย กล่าวว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 5 ธ.ค. 67 มีหญิงสาวชื่อ น.ส.ดา อายุ 40 ปี ทักข้อความผ่าน Tiktok มาพูดคุยในลักษณะเชิงชู้สาว บอกว่าเหงา อยากมีเพื่อนคุย โดยไม่เคยพบเจอตัวจริง ผ่านไป 1 สัปดาห์ ก็ชวนลงทุนร่วมกับป้าที่ทำงานในประเทศสิงคโปร์ อ้างว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน และถูกต้องตามกฎหมาย ให้มาลงทุนร่วมกัน นําเงินบาทไทยไปซื้อสกุลเงินดิจิทัล USDT ในแพลตฟอร์ม Bitkub ครั้งแรกที่โอนไป เมื่อวันที่ 10 ม.ค. 68 จำนวน 5,000 บาท 1 เดือนต่อมาได้กำไรกลับมา 6,000 บาท จากนั้นตนได้มีการโอนเงินไปอีก 14 ครั้ง ในระยะเวลา 3 เดือน (ก.พ.-เม.ย.) เยอะสุดที่เคยโอนเงิน คือ จำนวน 1.6 ล้านบาท รวมทั้งสิ้นเป็นเงินเกือบ 12 ล้านบาท
พอถึงช่วงปลายเดือน เม.ย. ตนต้องการถอนเงิน แต่ น.ส.ดา แจ้งว่าต้องโอนเงินเพิ่ม “ค่าภาษี” อีก 10% ของยอดเงินลงทุน คือจำนวนเงิน 5 ล้านบาท ถึงจะถอนเงินได้ ตนจึงบอกว่าไม่มีเงิน ทำให้ น.ส.ดา เงียบหายไป ตนเชื่อว่าน่าจะถูกหลอกแล้ว ส่วนสาเหตุที่ตนเชื่อใจ เพราะเห็นรูป น.ส.ดา ดูมีไลฟ์สไตล์ดี เป็นคนปากหวาน ชอบบอกรัก บอกคิดถึง ตลอดเวลาที่คุยกัน น.ส.ดา ไม่เคยให้นัดเจอ หรือแม้แต่กระทั่งวิดีโอคอล ตนพยายามโทรหาก็ไม่เคยรับสาย ทำได้เพียงแชตพูดคุยกันเท่านั้น แม้แต่ทุกวันนี้ก็ยังพูดคุยกันอยู่ เพียงแต่น.ส.ดา เริ่มตีตัวออกห่าง และพูดคุยน้อยลง หลังจากตนขอถอนเงิน และบอกว่าไม่มีเงินลงทุนแล้ว
ซึ่งวันนี้ตนเดินทางมาร้องมูลนิธิฯ เพราะตนไม่มีที่ปรึกษา เบื้องต้นยังไม่ได้แจ้งความเพราะไม่รู้จะไปปรึกษาใคร หากสามารถทำตามกระบวนการตามกฎหมายได้ก็อยากจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ด้าน นายรณรงค์ กล่าวว่า คดีนี้มีมูลค่าความเสียหายมากเกือบ 12 ล้านบาท ซึ่งตนจะพาผู้เสียหายไปแจ้งความกับตำรวจไซเบอร์ เช็กว่าผู้หญิงในภาพมีตัวตนจริงหรือไม่ หากมีตัวตนจริงคงต้องให้ผู้เสียหายพูดคุยกันเอง แต่ตามกฎหมายคงต้องตรวจสอบว่าการลงทุนนี้มีจริงหรือไม่อย่างไร
Advertisement