นึกว่าสายบุญ ที่แท้สายโจร! หญิงตีเนียน ฉกเงินเจ้าอาวาส
นึกว่าสายบุญ ที่แท้สายโจร! หญิงตีสนิทกับเจ้าอาวาส เช็ด ถู กุฏิให้ ก่อนฉวยโอกาสฉกเงิน 2 หมื่นเผ่นหนี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.68 เวลา 17:00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรีเดินทางเข้าตรวจสอบ หลังจากได้รับแจ้งว่ามีคนร้ายเข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์เป็นเงินสด 20,000 บาท ของเจ้าอาวาสวัดโพธิ์บ้านอ้อย ก่อนจะหลบหนีไป เหตุเกิดภายในกุฏิเจ้าอาวาสวัดโพธิ์บ้านอ้อย ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
ที่บริเวณหน้ากุฏิเจ้าอาวาสพบกับพระครูโพธิ นันทวัฒน์ อายุ 67 ปีเจ้าอาวาสวัดโพธิ์บ้านอ้อย กำลังให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจหลังจากถูกคนร้ายเป็นหญิง อายุประมาณ 50 ปีเ ดินเข้ามาภายในกุฏิก่อนที่จะไปหยิบเงินที่ใส่ไว้ในอังสะที่แขวนไว้บนหัวเตียงนอน ก่อนที่จะเดินหลบหนีไป
ขณะเดียวกันกล้องวงจรปิดภายในกุฏิสามารถบันทึกภาพไว้ได้โดยหญิงใส่ชุดสีดำคนดังกล่าว เดินตรงเข้าไปที่อังสะ และหยิบเงินไปกล้องวงจรปิดด้านนอกจับภาพได้หลังจากหญิงผู้ก่อเหตุเดินผ่านกล้องไปยังหน้าวัด
พระครูโพธินันทวัฒน์ เจ้าอาวาส เปิดเผยว่า ขณะที่อาตมาทำธุระอยู่ในห้องน้ำ ได้ยินเสียงดังเหมือนมีคนรื้อค้นสิ่งขอ งหลังออกมาจากห้องน้ำก็เดินไปดูอังสะที่แขวนไว้บนหัวนอ นพบว่าเงินสดประมาณ 20,000 บาทที่อยู่ในอังสะหายไปหมดเลย คาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นผู้หญิงรายหนึ่งที่เข้ามาที่วัดบ่อยๆมาชวนพูดคุยมาขอขนมขอข้าวขอแกงและอาศัยจังหวะมาดูลาดเลาจนกระทั่งสบโอกาสที่อาตมาเข้าห้องน้ำจึงย่องเข้ามาในห้องแอบขโมยเงินไป
ทางด้านพระโอม พระลูกวัดบอกว่า ผู้หญิงคนนี้มีพฤติกรรมชอบแวะมาหาเจ้าอาวาสประมาณเดือนละครั้งสองครั้ง บางครั้งก็มาขอทำความสะอาดเช็ดถูกุฏิให้กับหลวงพ่อ แต่ตอนที่เข้ามาทำความสะอาดนั้นจะมีหลวงพี่อยู่ด้วยทุกครั้ง บางครั้งก็นำสิ่งของมาถวายให้
ก่อนเกิดเหตุช่วงประมาณตอนเที่ยงหลวงพี่กำลังเช็กกล้องวงจรปิดอยู่ โยมผู้หญิงคนดังกล่าว ก็มาถามหลวงพี่ว่า อาจารย์อยู่ไหนหลวงพี่ก็บอกว่าอยู่ที่หอฉันข้าวแล้วเขาก็ถามว่าขอนั่งเล่นตรงนี้ได้ไหม หลวงพี่ก็บอกว่าได้ พอหลวงพี่ทำกล้องเสร็จ อาจารย์ก็กลับมาพอดี เขาก็นั่งคุยแล้วก็ทำความสะอาดกุฏิ
จากนั้นหลวงพ่อเข้าห้องน้ำ เขาจึงฉวยจังหวะนั้นย่องเข้าไปในห้องล้วงเอาเงินที่อยู่ในอังสะของหลวงพ่อแล้วหลบหนีไป
พระโอม กล่าวเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้หญิงคนดังกล่าวเข้าไปภายในกุฏิจะถอดสายกล้องวงจรปิดทุกครั้ง ส่วนกล้องที่บันทึกภาพได้ในครั้งนี้เพิ่งทำการย้ายไปไว้อีกมุมนึงที่สูงกว่ าจึงสามารถบันทึกพฤติกรรมการก่อเหตุได้ชัดเจน
จากการตรวจสอบเฟซบุ๊กของผู้ก่อเหตุพบว่ามักจะตระเวนไปไหว้พระและถ่ายรูปตามวัดต่างๆอีกด้วย หลังเกิดเหตุพระลูกวัดได้พาพระครูโพธินันทวัฒน์ เจ้าอาวาสเดินทางเข้าแจ้งความที่สภ.ปากเกร็ด เพื่อให้ตำรวจเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
Advertisement
