วันนี้ (24 พ.ค.68) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีหญิงสูงอายุคนหนึ่งที่ อ.โนนสุวรรณ จ.บุรีรัมย์ กินทุเรียนและดื่มน้ำอัดลมในเวลาไล่เลี่ยกัน พอตกกลางดึกเกิดอาการช็อกหมดสติ สามีรีบพาส่งโรงพยาบาลแพทยปั้มหัวใจกว่าครึ่งชั่วโมงแต่สุดท้ายก็เสียชีวิต
จากนั้นทีมข่าวจึงได้เดินทางที่วัดไผ่ทองสุทธาราม ตำบลโนนสุวรรณ อ.โนนสุวรรณ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งทางครอบครัวได้ขอให้พระครูสมุห์สามารถ วิสุทธิสาโร เจ้าอาวาสวัด ช่วยเหลือจัดงานศพ เนื่องจากครอบครัวฐานะยากจน เจ้าอาวาสก็เมตตารับจัดงานศพให้ พราะทางวัดเองก็ได้จัดตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือจัดงานศพให้ศพยากไร้ฟรีอยู่แล้ว
ซึ่งบรรยากาศก็เป็นไปด้วยความโศกเศร้ามีญาติพี่น้องและชาวบ้านที่ทราบข่าวเดินทางมาเคารพศพของนางสาวปิยรัตย์ ทองด้วง อายุ 58 ปี ผู้เสียชีวิตอย่างต่อเนื่องโดยมีกำหนดจะประกอบพิธีฌาปนกิจในวันที่ 25 พ.ค.68
จากการสอบถามนายกิตตกรณ์ อายุ 69 ปี สามีผู้ตาย เล่าว่า ภรรยามีอาชีพทำกับข้าวขายในหมู่บ้าน ตอนเช้าวันที่ 22 พ.ค.68 ก็ยังเตรียมของเพื่อทำกับข้าวตามปกติ กระทั่งเวลาประมาณ 14:00 น.ภรรยาออกไปซื้อทุเรียนมากิน เขาก็กินไป 2 พลูเล็กๆ และเวลา 16.00 น. ก็ซื้อน้ำอัดลมมากินอีก 1 ขวด หลังจากกินเสร็จก็ยังปกติ กระทั่งตกเย็นภรรยา บอกว่า รู้สึกแน่นหน้าอกหายใจไม่ค่อยสะดวก ตนก็ถามว่าจะไปหาหมอหรือไม่ แต่ภรรยาบอกว่าไม่อยากไปเพราะไม่มีรถถ้าไปก็ต้องไปรบกวนญาติพี่น้องให้พาไปอีก
จากนั้นเวลา 21:00 น. ภรรยาก็บอกว่ารู้สึกเหมือนไม่ค่อยสบายตัว ก็บอกให้นวดหลังและขาให้ และถามย้ำอีกว่าจะไปหาหมอมั้ย แต่ภรรยายืนกรานว่าไม่อยากไป จนกระทั่งตี 2 ภรรยาก็บอกว่าแน่นหน้าอกอีก และออกมานั่งโต๊ะข้างนอก ตนเห็นอาการไม่ค่อยดี จึงบอกให้เพื่อนบ้านโทรแจ้ง 1669 และโทรเรียกกู้ชีพให้ แต่ผ่านไปสักพักไม่เห็นรถพยาบาลและรถกู้ชีพมารับสักที กระทั่งภรรยาฟุตหมอสติ จึงตัดสินใจให้เพื่อนบ้านช่วยพาส่ง รพ.กันเอง แต่พอไปถึง รพ.หมอพยาบาลก็ปั้มหัวใจช่วยประมาณ 30 นาที แต่ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตได้ สุดท้ายภรรยาก็เสียชีวิตซึ่งแพทย์ลงความเห็นว่าเสียชีวิตด้วย “โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน” ส่วนตัวเชื่อว่าสาเหตุก็น่าจะมาจากที่ภรรยามีโรคประจำตัว คือโรคความดันอยู่แล้ว และภรรยาก็กินทุเรียน กับน้ำอัดลมอีก อาจทำให้ความดันสูงขึ้นอีกจนเกิดภาวะช็อก
ด้านนายพฤหัส อายุ 34 ปี ลูกชายผู้ตาย เล่าว่า ส่วนตัวรู้ว่าแม่ป่วยเป็นความดันอยู่แล้ว ที่ผ่านมาก็ไม่ค่อยเห็นแม่กินทุเรียน นานๆ จะซื้อมากิน แต่จากการสอบถามพ่อทราบว่าวันเกิดเหตุแม่กินทั้งทุเรียน และน้ำอัดลม จึงเชื่อว่าอาจจะเป็นสาเหตุทำให้ความดันสูงขึ้นอีก จนทำให้เกิดภาวะช็อกและเสียชีวิต ก็อยากฝากกรณีของคุณแม่เป็นอุทาหรณ์ สำหรับใครที่มีโรคประจำตัว ไม่ควรจะรับประทานทุเรียน กับน้ำอัดลม เพราะอาจจะทำให้ความดันสูงมากเป็นอันตรายแก่ชีวิตได้
ทั้งนี้ทีมข่าวได้ค้นหาข้อมูลของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข มีการลงข้อมูลเตือนภัยเกี่ยวกับกรณีการกินทุเรียนกับน้ำอัดลมว่า กินทุเรียนในปริมาณ 4-6 เม็ด ทำให้ร่างกายได้รับพลังงานถึง 400 กิโลแคลอรี เทียบดื่มน้ำอัดลม 2 กระป๋อง พร้อมเตือนกลุ่มผู้ป่วยเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และหัวใจ ควรเลี่ย เพราะมีผลต่อปริมาณน้ำตาล และห้ามกินทุเรียนกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะจะทำให้ร่างกายเกิดความร้อนสูง เสี่ยงเสียชีวิตได้ คนที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจและโรคความดันโลหิตสูง ควรระมัดระวังในการกินทุเรียน อาจกินได้แต่มีปริมาณน้อยกว่าคนปกติ และไม่บ่อยครั้ง เนื่องจากทุเรียนเป็นอาหารที่มีไขมันและคาร์โบไฮเดรตสูง เมื่อเปรียบเทียบกับผลไม้ชนิดอื่น การกินทุเรียนในปริมาณมากๆ หรือกินทุเรียนบ่อยครั้ง จะส่งผลต่อปริมาณน้ำตาล และไขมันในเลือดของผู้ป่วยได้
Advertisement