Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
เปิดอาณาจักร “หมอเตย” สร้างอำนาจคุม “นายแย้ม”

เปิดอาณาจักร “หมอเตย” สร้างอำนาจคุม “นายแย้ม”

22 พ.ค. 68
20:28 น.
แชร์

เปิดอาณาจักร “หมอเตย” กับสามี ยึดศูนย์ปฏิบัติธรรมฯ 20 ไร่ สร้างอำนาจคุม “นายแย้ม” ชาวบ้านวอนตรวจสอบผัวเมียคู่นี้ และให้เอาตัวออกจากวัดเพื่อลดความตึงเครียด

 

วันที่ 22 พฤษภาคม 68 ผู้สื่อข่าวติดตามบรรยากาศบริเวณรอบพื้นที่วัดไร่ขิงพระอารามหลวง อ.สามพราน จ.นครปฐม หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมหลายหน่วยงานได้ทำการสะสางปมปัญหาเส้นทางทางการเงินของอดีตเจ้าคุณแย้ม หรือนายแย้ม อินทร์กรุงเก่า ซึ่งมีการยักยอกเงินจากวัดไร่ขิง พบมีเงินไหลเวียนที่นางสาวอรัญญาวรรรณ กว่า 2,000 ล้านบาท

ขณะเดียวกันชาวบ้านก็ทำตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับตัวหมอเตย และพันจ่าตรีฉัตรชัย สามี ซึ่งทั้งคู่เป็นคนสนิทและมีข้อมูลยืนยันว่า มีส่วนได้ส่วนเสียกับเงินรายได้ของวัดไร่ขิง โดยยังมีอำนาจควบคุมและสั่งการนายแย้ม ขณะเป็นเจ้าอาวาส ทำให้มีการทวงถามและสอบถามถึงการติดตามตัวและเงินที่ไหลไปอยู่กับสองสามีภรรยา ซึ่งเริ่มเป็นที่จับตาของสื่อมวลชนและกระแสสังคมในปัจจุบันนี้

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ติดตามข้อมูลของทั้งหมอเตย และพันจ่าตรีฉัตรชัย ที่บริเวณค่ายลูกเสือพระพุทธศาสนามูลนิธิหลวงพ่อวัดไร่ขิง หมู่ที่ 8 ตำบลท่าตลาด อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ซึ่งมีแหล่งข้อมูลระบุว่า ทั้งคู่ได้อาศัยสถานที่ซึ่งเป็นที่ดินของวัดไร่ขิง อาศัยกบดานอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวโดยมีพื้นที่กว้างกว่า 20 ไร่ ซึ่งในช่วงที่ผู้สื่อข่าวได้ประสานกับทางเจ้าหน้าที่วัดไร่ขิง เพื่อขอบันทึกภาพและเก็บข้อมูลในพื้นที่ดังกล่าว ปรากฏว่าที่ด้านหน้าประตูได้มีการล็อกไว้อย่างแน่นหนา โดยมีกล้องวงจรปิดติดไว้ที่ด้านหน้า และทั่วบริเวณในพื้นที่

จากนั้นได้มีเจ้าหน้าที่ของวัดได้โทรประสานงาน เพื่อขอให้คนภายในเปิดประตู แต่จู่ๆได้มีการรับโทรศัพท์และยกหูโทรศัพท์ให้หญิงคนหนึ่งซึ่งเรียกผู้หญิงคนนั้นว่าเจ๊ แต่การสอบไม่เป็นผล เนื่องจากได้มีคำสั่งจากคนข้างในว่าไม่ให้มีการเปิดประตู เพื่อไม่ให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปติดตามบันทึกภาพภายใน โดยแหล่งข่าวแจ้งว่าเจ๊คนดังกล่าวก็คือหมอเตย ที่อาศัยพื้นที่ดังกล่าวเป็นบ้านพักอาศัยนานนับปี และภายในพบว่ามีรถยนต์จอดอยู่ถึง 6 คัน โดยหนึ่งในนั้นเป็นรถตู้ยี่ห้อโตโยต้าอัลพาร์ทสีขาว ที่นายแย้ม เคยใช้ตั้งแต่ครั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าจำนวนรถทั้ง 23 คัน ที่เกี่ยวข้องกับวัดไร่ขิงตกเป็นชื่อของหมอเตย น่าจะมีการโยกย้ายถ่ายเทออกไปในส่วนของนายแย้มจนเกือบหมดแล้ว

เปิดอาณาจักร “หมอเตย” สร้างอำนาจคุม “นายแย้ม”

นอกจากนี้จากการสอบถามแหล่งข่าวบริเวณใกล้เคียงได้บอกว่า พื้นที่นี้เป็นที่ดินของวัดไร่ขิง แต่ก็มีหญิงชื่อหมอเตย และครอบครัวได้มาพักอาศัยและยกเลิกจากสถานที่ปฎิบัติธรรม ซึ่งเคยมีพระสงฆ์ สามเณร เข้ามาทำกิจกรรมที่นี่ให้กลายเป็นสถานที่รกร้าง และเงียบเหงา แต่จะมีการจัดเลี้ยงสังสรรค์มีการดื่มสุราจัดดนตรีเป็นงานปาร์ตี้อยู่บ่อยครั้ง จนเป็นที่ทราบดีของคนในละแวกดังกล่าว แต่ก็ไม่มีใครที่จะกล้าร้องเรียน หรือนำเรื่องดังกล่าวไปแจ้งต่อหน่วยงาน จนกระทั่งเกิดประเด็นการจับกลุ่มกระบวนการที่สร้างผลประโยชน์ในวัดไร่ขิงได้หลายคน

เปิดอาณาจักร “หมอเตย” สร้างอำนาจคุม “นายแย้ม”

จากนั้นผู้ข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบริเวณด้านหลังโรงพยาบาลสามพราน ซึ่งเป็นจุดที่ระบุว่าเป็นการก้าวเข้ามาใช้พื้นที่ของวัดไร่ขิง เมื่อหลายปีก่อน โดยจุดดังกล่าวจะเป็นสถานที่ที่เป็นพื้นปูน และมีบ้านน็อคดาวน์จัดเรียงไว้หลายหลังซึ่งหมอเตยและสามีได้ใช้สถานที่ดังกล่าวอยู่อาศัย แต่ต่อมาได้มีอำนาจมากขึ้นจึงได้มีการโยกย้ายออกไปที่ค่ายค่ายลูกเสือ และนำรถยนต์รวมถึงทรัพย์สินหลายรายการของวัดไร่ขิง ที่ได้จากอดีตเจ้าอาวาส ผู้ช่วยเจ้าอาวาสหลายคนที่มรณภาพไปเก็บไว้เป็นของตนเอง และเป็นสิ่งที่คนในวัดต่างรู้สึกหนักใจ และไม่กล้าพูดอะไรออกไปเนื่องจากยังเกรงใจบารมีของผู้เป็นเจ้าอาวาส

นอกจากนี้แหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ ให้ข้อมูลว่าร้านกาแฟ สาขา 2 ตั้งอยู่ใต้อาคารปฎิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรตฯ ด้านหลังโรงพยาบาลสามพราน ก็เป็นธุรกิจของหมอเตย ซึ่งขณะนี้ได้มีการปิดกิจการ หลังจากมีกระแสข่าวบุกจับกุมนายแย้ม ทำให้ร้านมีความเงียบเหงา และทิ้งข้าวของเอาไว้อย่างกระจัดกระจาย และยังไม่มีใครเข้ามาดูแล ประกอบกับปัจจุบันร้านกาแฟสาขา1 และร้านค้าสวัสดิการวัดไร่ขิง ที่ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าพระอุโบสถ จุดตรงทางลงที่แม่น้ำท่าจีน ก็เป็นกิจการของหมอเตย ที่ได้เข้ามาควบคุมและเปิดร้านโดยมีรายได้ในวันธรรมดา 1-2 หมื่นบาท แต่ในวันเสาร์อาทิตย์และวันหยุดยาว จะมีรายได้วันละนับแสนบาท รวมถึงบ้านดินอิ ซึ่งมีจุดเลี้ยงปลาคาร์ฟก็เป็นธุรกิจหมอเตย ได้วางรากฐานเอาไว้มานานหลายปี ทำให้หลายคนสงสัยว่าเม็ดเงินจำนวนนี้ได้มีการจัดสรรดูแลอย่างไร

เปิดอาณาจักร “หมอเตย” สร้างอำนาจคุม “นายแย้ม”

จากการตรวจสอบข้อมูลภายในบริเวณรอบโบสถ์ ยังพบว่าจุดที่หมอเตยได้มีส่วนเข้ามายุ่งและเกี่ยวข้องนั่นคือการเก็บสังฆทาน ที่ญาติโยมนำมาถวายที่ข้างโบสถ์โดยทุกวันช่วงเวลาค่ำประมาณ 2-3 ทุ่ม จะมีคนนำขึ้นรถกระบะขนถ่ายออกไปส่วนหนึ่ง ทราบว่าได้นำไปแจกจ่าย ซึ่งเป็นส่วนน้อย แต่ส่วนที่เหลือจะมีการนำไปขายเป็นเงินซึ่งถือว่าเป็นจุดที่เป็นเงินมหาศาล เพราะวันหนึ่งจะมีญาติโยมนำสังฆทานมาถวายเป็นจำนวนมาก

เปิดอาณาจักร “หมอเตย” สร้างอำนาจคุม “นายแย้ม”

แต่ที่แหล่งข่าวหลายคนยืนยันตรงกันและทำให้น่าตกใจก็คือ กุมารอินทณัฐซึ่งตั้งอยู่ที่ด้านหลังโบสถ์ โดยเป็นกุมารหนุ่มตั้งอยู่ตรงกลางประกบด้านข้างซ้ายขวากับกุมารพี่จุกและพี่แกละ ซึ่งสองกุมารดั้งเดิมเป็นกุมารที่อยู่คู่กับโบสถ์วัดไร่ขิงมาอย่างยาวนาน แต่กุมารอินทณัฐ คือกุมารที่หมอเตย ได้อุปโลกขึ้นมาและนำมาตั้งไว้ในบริเวณดังกล่า วจึงได้นำชื่อกุมารไปตั้งเป็นร้านกาแฟทั้งสองสาขา ซึ่งเรื่องนี้เป็นสิ่งที่หลายคนละอา แต่ไม่สามารถที่จะพูดได้ เพียงแต่รอวันให้เรื่องดังกล่าวได้ถูกหยิบยกขึ้นมาในการจัดระบบภายในทั้งหมด

เปิดอาณาจักร “หมอเตย” สร้างอำนาจคุม “นายแย้ม”

นอกจากนี้จากการสอบถามคนเก่าแก่ที่ยังคงทำงานอยู่ภายในวัดไร่ขิง ก็ได้ให้ข้อมูลตรงกันว่าไม่ทราบว่าเหตุใดนายแย้ม จึงได้หลงเชื่อคำสั่งของสองสามีภรรยาคู่นี้ ซึ่งถือว่ามีอิทธิพลมากกับการตัดสินใจ สั่งการของอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง โดยกระบวนการดังกล่าวถือว่ามีความยาวยาวนานมากกว่านางสาวอรัญญาวรรณ เพราะมีมีความรู้จักคุ้นเคยกับนายแย้ม มาตั้งแต่ปี 2551 จนถึงปัจจุบัน และในช่วงหลังในช่วงยุคโควิด หมอเตยเริ่มทราบข่าวระแคะระคายเกี่ยวกับการเงินที่ไหลไปที่นางสาวอรัญญาวรรณ จึงได้มีการพยายามที่จะผลักดันและกดดันให้ขาดจากนายแย้ม แต่สุดท้ายก็ไม่ทันการณ์เพราะเงินส่วนใหญ่ซึ่งมีมูลค่ามหาศาลไม่น้อย ได้ไหลไปที่ นางสาวอรัญญาวรรณแล้ว แต่ส่วนรายได้หลักที่เป็นเงินสดและโยกไปเป็นทรัพย์สินเช่น รีสอร์ท ร้านกาแฟในจังหวัดต่างๆนั้นมีมูลค่ามากเท่าใดซึ่งคนวงในก็คาดหวังจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สืบทราบเส้นทางการเงินและทรัพย์สินทั้งหมดของหมอเตย และสามีว่าได้มีการนำผลประโยชน์ของวัดออกไปแล้วเป็นจำนวนเท่าไหร่ และอยากให้มีการผลักดันทั้งคู่ไม่ให้เข้ามาข้องเกี่ยวกับวัดไร่ขิงอีกต่อไป ซึ่งหากทำได้ก็จะทำให้สถานการณ์บรรยากาศของวัดไร่ขิงอยู่ในความคลี่คลาย หลังจากตึงเครียดมาแล้วเป็นสัปดาห์

ขณะเดียวกันยังพบว่าญาติโยมจากทั่วสารทิศ ยังไม่เสื่อมคลายในความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อวัดไร่ขิง ยังคงเดินทางเข้ามากราบไหว้และขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลกับตัวเองอย่างต่อเนื่อง และเริ่มมีมากขึ้นเนื่องจากกระบวนการในการสอบสวนได้พบผู้กระทำความผิด และแยกความผิดตามลำดับให้เห็นอย่างชัดเจน โดยหลายคนหวังว่าอยากจะให้มีการสะสางปัญหาให้จบโดยเร็ว ซึ่งจะทำให้ญาติโยมกลับเข้ามาที่วัดไร่ขิงอีกจำนวนมหาศาลเช่นเดิม

Advertisement

แชร์
เปิดอาณาจักร “หมอเตย” สร้างอำนาจคุม “นายแย้ม”