เมื่อเวลา13.00น.ของวันที่ 20 พฤษภาคม 2568 ศูนย์วิทยุได้รับแจ้งว่ามีเหตุเพลิงไหม้ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านคลองรั้ง จึงได้ประสานหน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยองค์การบริหารส่วนตำบลท่าตูม ลงทำการตรวจสอบ
ต่อมาทางหน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยองค์การบริหารส่วนตำบลท่าตูม ได้นำรถดับเพลิงจำนวน 4 คัน พร้อมด้วยอาสาสมัครในพื้นที่ลงทำการตรวจสอบบริเวณจุดที่รับแจ้งซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าตั้งอยู่ริมถนน3281หมู่7 ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ปรากฏว่าไม่พบกลุ่มควันไฟหรือเหตุเพลิงไหม้อย่างที่ได้รับแจ้ง พบเพียงพนักงานและลูกค้ายังคงเดินทำงานและเดินจับจ่ายใช้สอยอยู่ในห้างคล้ายกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นหลังจากที่เห็นรถดับเพลิงและทางอาสาขับเข้าไปจอดบริเวณด้านหน้าห้างจึงสร้างความมึนงงให้กับทางพนักงาน และกันลูกค้าที่กำลังทำงานและจับจ่ายใช้สอยอยู่
เบื้องต้นทางผู้จัดการสาขาของห้างดังกล่าว ได้ออกไปสอบถามกับอาสาสมัครกู้ภัย พร้อมด้วยนายโยธิ นพงอ้อ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าตูม ได้อธิบายให้กับทางผู้จัดการสาขาห้างดังกล่าวรับทราบถึงเหตุที่นำรถดับเพลิงเข้ามาดังกล่าว หลังจากที่ทราบข้อมูลทางผู้จัดการสาขาจึงได้ไปประกาศแจ้งให้ลูกค้าทราบไม่ได้มีเหตุเพลิงไหม้อย่างที่ได้รับแจ้ งจึงคลายข้อสงสัยให้กับทางพนักงานและลูกค้าที่อยู่ในห้างดังกล่าวก่อนนำหมายเลขโทรศัพท์ที่โทรป่วนแจ้งเหตุเพลิงไหม้กับทางห้างไปลงบันทึกประจำวัน แจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ศรีมหาโพธิ
จากการสอบถามนายโยธิน นายกอบต.ท่าตูม กล่าวว่า ศูนย์ป้องกันบรรเทาสาธารณภัยอบต.ท่าตูม ได้รับแจ้งเหตุว่า มีเหตุไฟไหม้ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งคลองรั้ง หลังจากได้รับแจ้งพร้อมเจ้าหน้าที่และรดน้ำลงตรวจสอบในพื้นที่เพื่อที่จะช่วยระงับเหตุ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเหตุการณ์ปกติไม่ทราบว่าผู้แจ้งเป็นการแจ้งเท็จหรือเป็นการเข้าใจผิดในเหตุการณ์ครั้งนี้ถือว่าเป็นการทดสอบในความพร้อมของทางทีมเจ้าหน้าที่อีกอย่างนึง อยากฝากถึงผู้แจ้งว่าเหตุการณ์อย่างนี้มันไม่ใช่เรื่องตลกเพราะมันเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้ในหลายภาคส่วน
จากการสอบถามนายสุพัฒน์ บุญบวก อายุ 22 ปี อาสาสมัครกู้ภัยสว่างบำเพ็ญธรรมสถาน กล่าวว่า หลังจากที่ลงตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุปรากฏว่าเหตุการณ์ปกติ ไม่ได้เป็นไปตามที่แจ้ง จึงได้ขอเบอร์โทรประสานไปทางผู้แจ้ง ยืนยันว่าเป็นการแจ้งเหตุเท็จ ผู้แจ้งได้อ้างต่างๆนานาว่าลูกเล่นโทรศัพท์บ้าง ไฟไหม้ที่เชียงใหม่บ้าง เขาบอกว่าเขาโทรมาจากเชียงใหม่
ทั้งนี้ความผิดของผู้ที่โทรแจ้งเหตุเท็จมีความผิดตามมาตรา47/5ผู้ใดใช้หรือเรียกเลขหมายโทรศัพท์ฉุกเฉินแห่งชาติโดยไม่มีเหตุฉุกเฉินหรือมีพฤติกรรมอันเป็นการก่อกวนการปฏิบัติงานของผู้รับแจ้งต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
Advertisement