วันที่ 19 พ.ค. 68 ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี นายเอ และนางบี พ่อกับแม่เลี้ยงเดินทางมาร้องมูลนิธิฯ เพื่อขอให้ช่วยลูกสาวคนโตวัย 13 ปี ถูกแม่แท้ๆ และป้าพาไปขายบริการกับชายวัย 50 ปี ที่โรงแรมม่านรูดถึง 2 ครั้ง ในช่วงที่ลูกสาวอายุ 11 ปี เพื่อหาเงินไปซื้อยาบ้าเสพ ตั้งแต่ลูกสาวอายุ 11 ปี
หลังแยกทาง แม่กีดกันไม่ให้เจอลูกสาวทั้ง 2 คน เด็กกดดันหนัก ถูกยาย และแม่ทำร้าย ทุบตีบังคับให้ทำงานหนัก ด่าทอสารพัด จึงได้บอกแม่เลี้ยง และพ่อช่วยไปรับมาอยู่ด้วย แต่พ่อยังห่วงสวัสดิภาพลูกสาวคนเล็ก 8 ขวบที่ยังอยู่กับแม่ หวั่นถูกกระทำซ้ำรอยพี่สาว
ด้านมูลนิธิฯ ประสาน พ.ต.อ.กัมปนาท ณ วิชัย ผกก.สภ.หัวหิน รับแจ้งความ ส่งเด็กหญิงวัย 13 ปี ไปตรวจร่างกายสอบสหวิชาชีพ รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับแม่ และป้าในข้อหาหนักค้ามนุษย์ เป็นธุระจัดหา, ค้าบริการเด็กหญิง, กระทำต่อผู้สืบสันดาน และเสพยาบ้า
ล่าสุดจับกุมตัวแม่แท้ๆ ได้แล้ว สอบสวนให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จ่อคุมตัวฝากขังศาล 20 พ.ค. นี้ ตำรวจอยู่ระหว่างเร่งติดตามตัวป้าอีกคนที่ร่วมเป็นธุระจัดหา และขยายผลจับกุมผู้ซื้อบริการเด็กหญิงมาดำเนินคดี
นายเอ ซึ่งเป็นพ่อ กล่าวว่า ตนกับอดีตภรรยาอยู่กินกันโดยไม่ได้จดทะเบียนสมรส มีลูกสาวด้วยกัน 2 คน คนโตอายุ 13 ปี คนเล็กอายุ 8 ปี พ่อแม่ได้แยกทางกันหลายปีแล้วตั้งแต่ลูกยังเล็ก โดยอดีตภรรยาไม่ยอมให้ลูกทั้งสองมาอยู่กับตน เวลาตนจะไปเยี่ยมลูกแต่ละครั้งก็ยากเย็น กีดกันไม่ยอมให้เจอ นานๆ ครั้งถึงจะได้เจอลูกในช่วงเทศกาล กระทั่งวันที่ 26 เม.ย. 68 ลูกสาวคนโตได้ติดต่อมาหาแม่เลี้ยง และบอกว่าไม่อยากอยู่กับแม่และยายแล้ว เพราะถูกใช้งานหนัก ทุบตีด่าทอต่อหน้าคนอื่น ทำให้รู้สึกอาย และเก็บกด พ่อจึงขับรถจาก จ.ภูเก็ตมารับลูกที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยนัดให้ลูกออกมาเจอข้างนอก จากนั้นพาลูกไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.หัวหิน และแจ้งแม่ว่าจะพาลูกไปอยู่ที่ภูเก็ต แต่แม่ไม่ยอม และขอพูดคุยกับลูกทางโทรศัพท์
ลูกสาวได้พูดต่อว่าแม่ เรื่องที่พาไปให้ผู้ชายดูตัว และพาไปขายบริการตอนอายุ 11 ปี กับชายวัย 50 ปี 3 ครั้ง แม่จึงยอมให้ลูกไปกับพ่อ เพราะพ่อกับแม่เลี้ยงบอกว่า ถ้าไม่ให้จะฟ้องกลับก่อน จะพากันเดินทางกลับภูเก็ต และโทรแจ้งมูลนิธิปวีณาฯ เพื่อขอดำเนินคดีกับแม่แท้ๆ
ลูกสาวเล่าให้พ่อและแม่เลี้ยงฟังว่า ครั้งแรกเดือน ส.ค. 66 แม่และป้าเป็นคนขี่รถจักรยานยนต์พาไปให้ชายวัย 50 ปี ที่เป็นลูกค้าดูตัว และพาไปส่งที่โรงแรม หลังถูกกระทำเด็กกลับมาบ้านอวัยวะเพศมีเลือดออก และปวดแสบมาก แม่ก็บอกว่าไม่เป็นไรคงเป็นเลือดประจำเดือน ต่อมาเดือน ต.ค. 66 ห่างจากครั้งแรกประมาณ 2 เดือน ป้าก็ได้พาไปเด็กส่งขายบริการให้กับชายอายุ 50 ปีคนเดิมที่โรงแรมม่านรูดที่เดิม แต่เด็กขัดขืนไม่ยอมชายคนดังกล่าวจึงได้พากลับมาส่งที่สวนสาธารณะ ซึ่งแม่คนเป็นมารอรับกลับบ้าน โดยชายคนดังกล่าวได้บอกกับแม่ว่าต่อไปไม่ต้องพามาแล้ว แม่จึงได้ด่าทอลูกสาวด้วยถ้อยคำหยาบคาย
นอกจากนี้ลูกสาวคนโต ยังบอกอีกว่า แม่ติดยาบ้า เมื่อเดือนที่แล้วยังขี่รถจักรยานยนต์พาหนูไปบ้านเพื่อน เพื่อเอายาบ้ามาเสพ โดยให้ลูกสาวเดินไปรับยาบ้าจากเพื่อน เพราะแม่กลัวถูกจับ และแม่ยังมีหนี้สินที่ต้องจ่ายรายวันอีกด้วย พ่อต้องการจะเอาเรื่องกับอดีตภรรยา ซึ่งเป็นแม่แท้ๆ ที่ค้าประเวณีลูกตัวเองให้ถึงที่สุด และเป็นห่วงสวัสดิภาพของลูกสาวคนเล็ก 8 ขวบที่ยังต้องอยู่กับแม่ และยายจึงตัดสินใจร้องทุกข์ขอให้มูลนิธิปวีณาฯช่วยเหลือด้วย
หลังรับเรื่องวันที่ 30 เม.ย. 68 นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯได้ประสาน พ.ต.อ.กัมปนาท ณ วิชัย ผกก.สภ.หัวหิน ให้พ่อและแม่เลี้ยงพาลูกสาวเข้าแจ้งความ ด้านพนักงานสอบสวนได้ส่งตัวเด็กหญิงไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลทันที และนัดทีมสหวิชาชีพสอบปากคำเด็กหญิงในช่วงบ่ายวันเดียวกัน หลังจากนั้นพ่อกับแม่เลี้ยงและลูกได้เดินทางมาอยู่ในความดูแลของมูลนิธิปวีณาฯ จนถึงวันนี้
ล่าสุดวันที่ 19 พ.ค. 68 นางปวีณาได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.กัมปนาท ว่าพนักงานสอบสวน สภ.หัวหินได้รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับแม่ และป้าที่เป็นธุระจัดหาพาลูกสาวตัวเองไปขายบริการแล้ว ในข้อหาค้ามนุษย์, เป็นธุระจัดหา,ค้าบริการเด็กหญิง, กระทำต่อผู้สืบสันดาน และเช้าวันนี้ชุดสืบสวน สภ.หัวหินได้ทำการจับกุมตัวแม่แท้ๆ ได้แล้ว โดยได้ควบคุมตัวมาตรวจหาสารเสพติด พบว่าปัสสาวะมีสีม่วง จึงแจ้งข้อหาเสพยาบ้าเพิ่มอีก 1 ข้อหา
จากการสอบสวนแม่แท้ๆ ให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกับป้าค้าบริการลูกสาว โดยครั้งแรกพาลูกสาวไปให้ผู้ชายดูตัวที่สวนสาธารณะได้เงิน 1,500 บาท ครั้งที่ 2 พาลูกสาวไปส่งที่โรงแรมม่านรูดได้เงิน 2,000 บาท ครั้งที่ 3 พาลูกสาวไปส่งที่โรงแรมม่านรูดได้เงิน 5,000 บาท แต่ถูกป้าเอาเงินไปหมด หลังจากนั้นผู้ชายที่ซื้อบริการบอกว่าไม่ต้องพาลูกสาวไปแล้ว เพราะครั้งที่ 3 ลูกสาวได้ต่อสู้ขัดขืนจนหมดอารมณ์
ทั้งนี้จะควบคุมตัวไปฝากขังวันที่ 20 พ.ค. นี้ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ สภ.หัวหินอยู่ระหว่างเร่งติดตามตัวป้าที่ร่วมเป็นธุระจัดหา และขยายผลจับกุมผู้ซื้อบริการเด็กหญิงมาดำเนินคดี
นางปวีณา กล่าวขอบคุณ พ.ต.อ.กัมปนาท และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หัวหินที่ทำงานอย่างรวดเร็ว ในส่วนของลูกสาวคนเล็ก 8 ขวบ นางปวีณาจะได้ประสานนางสุพัตรา ไพฑูรย์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และ น.ส.วารุณี ดอกจันทร์ หัวหน้าบ้านพักเด็ก และครอบครัวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อรับเด็กมาอยู่ในความดูแลของพ่อ และจะประสาน ดร.ธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เรื่องการย้ายโรงเรียนเด็กมาเรียนในพื้นที่บ้านพ่อ จ.ภูเก็ต พร้อมทั้งประสานนาง สมพิศ ศรีคำแหง พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านพ่อ เพื่อช่วยเหลือเยียวยาสภาพจิตใจเด็กทั้งสองคน โดยมูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามการช่วยเหลือร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมฯต่อไป
Advertisement