หนุ่มร้องถูกบริษัทรถเช่าดังเบี้ยวค่ามัดจำพบโดนอีกเพียบ
ผู้เสียหาย ร้องสายไหมต้องรอด หลังถูกบริษัทรถเช่าหาเรื่องเบี้ยวค่ามัดจำ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เมื่อวันที่ 18 พ.ค. ที่เพจสายไหมต้องรอด นายเจษฎา นิ่มราศรี อายุ 43 ปี ผู้เสียหายร้อง นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอดหลังถูกบริษัทรถเช่าเบี้ยวค่ามัดจำกว่า 10,000 บาท
นายเจษฎา กล่าวว่า ตนทำธุรกิจเกี่ยวกับออแกไนซ์ และจำเป็นต้องใช้รถขนของ โดยอยากใช้รถเพียงแค่ 2 เดือนจึงได้หาข้อมูล แล้วพบบริษัทรถดังกล่าวจึงได้พูดคุย โดยตกลงราคาเช่ารถตกอยู่เดือนละ 20,000 บาท เช่า 2 เดือนเป็นเงิน 40,000 บาทและเข้ารับรถเมื่อวันที่ 6 มี.ค. และคืนในวันที่ 5 พ.ค.
นายเจษฎา กล่าวอีกว่า วันที่ไปรับรถ รถที่ได้มาไม่ได้มีสภาพสมบูรณ์ รถมีรอยรอบคันรถเยอะมาก เข้าใจว่าคือรถขนของจึงน่าจะเป็นปกติกับสภาพแบบนี้ ทั้งนี้ตอนที่กำลังเช็คสภาพรถตนได้ติดใจเรื่องยางที่มีสภาพไม่น่าจะใช้งานได้ และเป็นยางเก่าจึงอยากให้ทางร้านเปลี่ยน แต่ช่างกลับบอกว่าสามารถใช้ได้ปกติ และบอกว่าหากมีปัญหาให้เข้าไปเปลี่ยนที่ศูนย์ได้โดยบริษัทจะดำเนินการให้ทั้งหมด ทั้งนี้หลังจากที่ได้รถมาแล้วตนได้ซื้อยางเส้นใหม่มาเปลี่ยน เพราะต้องใช้รถเดินทางไปที่ต่างจังหวัดจึงเกิดความกังวล และได้เก็บยางเส้นเก่าไว้ เพื่อเอาไปใส่คืนหลังจากที่ใช้รถเสร็จ
ต่อมาเมื่อผ่านไป 2 เดือนบริษัทได้ติดต่อกลับมาอีกครั้งว่าจะเช่าต่อไหมตนก็บอกว่าไม่ได้เช่าต่อ และจะนำรถเข้าไปคืน โดยหลังจากที่นำเข้าไปคืนแล้วทางบริษัทจะตรวจสอบรถ และโอนเงินค่ามัดจำคืนให้ภายใน 3 วัน แต่เนื่องจากว่าตนงานยุ่งมาก จึงไม่ได้มีการทักท้วงไป แต่หลังจากผ่านไปแล้ว 10 วัน ก็ทักไปที่บริษัท เพื่อขอคืนเงินค่ามัดจำ ซึ่งทางบริษัทได้ส่งข้อมูลมา พร้อมส่งรูป ว่ามีจุดที่เกิดรอยลักษณะคล้ายลิควิด 2 จุด และบอกว่าต้องจ่ายเงินจำนวน 11,187 บาท และจะหักจากค่ามัดจำตนจึงรู้สึกแปลกใจและได้เข้าไปหาข้อมูลเพิ่มเติม ก่อนจะเห็นว่ามีผู้เสียหายอีกหลายราย ที่โดนบริษัทดังกล่าวกระทำในลักษณะเดียวกัน
นายเอกภพ กล่าวว่า อยากให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์สำหรับทุกคน หากใครที่คิดจะเช่ารถก็อยากให้ตรวจสอบให้ดี โดยหลังจากนี้ ตนจะพาผู้เสียหายเข้าไปร้องสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคเพื่อตรวจสอบบริษัทดังกล่าวต่อไป
Advertisement
