วันที่ 15 พ.ค. 68 ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พระธรรมวชิรานุวัตร (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง จ.นครปฐม เจ้าคณะภาค 14 พร้อมด้วยทนายความ และ คณะพระผู้ติดตาม เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป. พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. เพื่อเข้ามอบตัวแสดงความบริสุทธิ์ใจ หลังทราบเรื่องว่าตนเองกำลังจะถูกดำเนินคดีในความผิดฐานทุจริตยักยอกเงินวัดจำนวน 300 ล้านบาท
สำหรับการเข้ามอบตัวของพระธรรมวชิรานุวัตรครั้งนี้ สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ป. ได้รับเรื่องร้องเรียนว่า พระธรรมวชิรานุวัตร ซึ่งมีตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง และเป็นเจ้าคณะภาค 14 กลับมีพฤติกรรมยักยอกเงินของวัดไปเล่นพนันออนไลน์ จึงจัดกำลังลงพื้นที่สืบหาเบาะแส โดยส่งสายลับเข้าไปแฝงตัวอยู่ในวัดนานกว่า 8 เดือน จนกระทั่งพิสูจน์ทราบแน่ชัดแล้วว่า พระธรรมวชิรานุวัตร มีพฤติกรรมตามที่ถูกร้องเรียนจริง
จากแนวทางสืบสวนพบว่า แผนประทุษกรรมของ พระธรรมวชิรานุวัตรนั้น จะเริ่มจากการให้คณะกรรมการวัด ทำการโอนเงินจากบัญชีธนาคารวัดไร่ขิง มายังบัญชีธนาคารส่วนตัว ก่อนจะโอนไปให้ หญิงสาวรายหนึ่ง ที่เป็นนายหน้าเครือข่ายเว็บพนัน นำไปโอนต่อเข้าบัญชีเว็บพนันออนไลน์ เพื่อเติมเครดิตสำหรับใช้เล่นพนันออนไลน์ จำพวก บาคาร่า
จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินบัญชีธนาคารของวัดไร่ขิง พบว่า เฉพาะแต่ห้วงเวลาปี 2564 จนถึงปัจจุบัน มียอดเงินจากบัญชีธนาคารของวัด ถูกโอนออกไปยังบัญชีธนาคารส่วนตัวของพระธรรมวชิรานุวัตรจำนวนหลายครั้ง รวมยอดเงินกว่า 300 ล้านบาท
ขณะที่การตรวจสอบความเส้นทางการเงิน เพื่อสืบหาความเชื่อมโยงหรือความสัมพันธ์ ระหว่างบัญชีธนาคารของพระธรรมวชิรานุวัตร กับ บัญชีเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ต่างๆ พบว่ามีการยอดเงินทั้งได้และเสีย จากการเล่นพนันหมุนเวียนเข้าออกรวมกันไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังสืบทราบข้อมูลอีกว่า ภายหลังยอดเงินในบัญชีธนาคารของวัดไร่ขิง เริ่มมีจำนวนน้อยลง พระธรรมวชิรานุวัตร จึงเริ่มหันไปยืมเงินพระผู้ใหญ่วัดอื่นๆ ที่สนิทสนมกัน เพื่อนำมาเล่นพนัน โดยยอดเงินที่ขอยืมนั้นมีตั้งแต่หลักแสนบาทไปจนถึงหลักล้านบาทต่อครั้ง
ขณะที่ในส่วนของหญิงสาว ที่เป็นนายหน้ารับแทงพนันจากเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงนั้น จากข้อมูลสืบสวน พบว่ามีส่วนสำคัญและเกี่ยวข้องกับการยักยอกเงินวัดไร่ขิงของพระธรรมวชิรานุวัตร เป็นอย่างมาก เนื่องจากทำหน้าที่เปรียบเหมือนนายหน้าหรือตัวแทนเว็บพนันออนไลน์ คอยรับเดิมพันแทงพนันจากพระธรรมวชิรานุวัตร
อีกทั้งจากการตรวจสอบเชิงลึกของเจ้าหน้าที่ยังพบว่า หญิงสาวคนดังกล่าวยังถือเป็นฟันเฟืองหรือกลไกสำคัญคนหนึ่งในแวดวงเครือข่ายธุรกิจเว็บพนันออนไลน์ คอยทำหน้าที่เป็นเจ้าของบัญชีธนาคารและดูแลเส้นทางการเงินให้กับเว็บพนันออนไลน์ต่างๆ และ เมื่อช่วงปลายปี 2567 ที่ผ่านมา ตัวหญิงสาวคนดังกล่าวว่าเองก็เพิ่งจะถูกตำรวจกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) จับกุมดำเนินคดี หลังเข้าไปมีส่วนพัวพันกับเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ “LAGALAXY911” ก่อนจะได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว หรือ ประกันตัวออกมาสู้คดี
สำหรับวัดไร่ขิง พระอารามหลวง ถือเป็นวัดใหญ่เก่าแก่ วัดมีประวัติก่อตั้งอยู่คู่บ้านคู่เมือง เป็นศูนย์รวม หรือ ที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวบ้าน จ.นครปฐม มาช้านาน ปัจจุบันยังถือเป็นอีก 1 สถานที่ ที่มีนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างขาติ เข้ามากราบไหว้สักการะขอพรอย่างเนืองแน่นสม่ำเสมอ
ขณะที่นายสมศักดิ์ โตรักษา ลูกศิษย์พระธรรมวชิรานุวัตร (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง จ.นครปฐม เจ้าคณะภาค 14 ในฐานะที่ปรึกษาทางด้านกฎหมาย เปิดเผยข้อมูลสั้นๆกับสื่อมวลชนว่า วันนี้พระธรรมวชิรานุวัตร ได้ชวนให้ตนมาในฐานะที่ปรึกษาทางด้านกฎหมาย เนื่องจากตนเป็นลูกศิษย์ของพระธรรมวชิรานุวัตรมานาน แต่ข้อมูลเรื่องเส้นเงินบัญชีของวัด เอกสารที่นำมาชี้แจ้ง หรือรายละเอียดต่างๆตนยังไม่ทราบ เนื่องจากว่าพึ่งมาพบกับท่านเป็นครั้งแรกในกรณีนี้ จึงยังไม่สามารถให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ มาเพียงให้คำแนะนำเท่านั้น ซึ่งขณะนี้พระธรรมวชิรานุวัตร ยังไม่ได้มีการตั้งทีมทนายความแต่อย่างใด แต่หากเป็นคดีความแล้วก็ค่อยว่ากัน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้ดำเนินการอะไร
ส่วนเรื่องหากพบว่ามีมูลขึ้นมาจะทำให้ความศรัทธาในตัววัดเป็นอย่างไรนั้น นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนก็แนะนำให้พระธรรมวชิรานุวัตร มาให้ความร่วมมือในการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ หากพนักงานสอบสวนต้องการข้อเท็จจริงในส่วนไหนก็ให้ชี้แจง ส่วนพนักงานสอบสวนจะมีดุลยพินิจอย่างไรก็ว่ากันไป เบื้องต้นพระธรรมวชิรานุวัตร ไม่ได้มีอาการเครียด
เมื่อถามว่าพระธรรมวชิรานุวัตร รู้จักกับ น.ส.อรัญญาวรรณ ที่เป็นนายหน้าเว็บพนันออนไลน์หรือไม่ นายสมศักดิ์ ระบุว่า ไม่ทราบเหมือนกันว่ารู้จักไหม ตนขอเข้าพบพนักงานสอบสวนก่อน
Advertisement